ความจริงของ Bitcoin spot ETF กับสิ่งที่นักลงทุนอาจจะ “มองไม่เห็น”

มิถุนายน 20, 2024

thumbnail

ความจริงของ Bitcoin spot ETF กับสิ่งที่ นักลงทุนอาจจะ “มองไม่เห็น”

 

Key Takeaways

  • การอนุมัติ Spot Bitcoin ETF เมื่อต้นปี 2024 ทำให้นักลงทุนสถาบันอย่าง Hedge Funds สามารถทำกลยุทธ์ Cash-and-Carry trade เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างของราคา Spot และ Future ได้
  • การทำกลยุทธ์ดังกล่าวของสถาบัน ทำให้เงินที่ไหลเข้ามาใน Bitcoin ETF อาจจะเป็นอุปสงค์เทียม ที่ไม่ได้ผลักดันให้ราคาของ Bitcoin ปรับตัวขึ้นตามอุปสงค์ที่แท้จริง

 

การมาของ Bitcoin ETF มีประโยชน์ต่อนักลงทุนสถาบันอย่างไร

 

  ในอดีตนักลงทุนสถาบันที่มีขนาดใหญ่อย่าง Hedge Funds ไม่สามารถซื้อขาย Bitcoin ได้โดยตรง เนื่องจากติดปัญหาด้านการกำกับดูแลที่ยังไม่แน่ชัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเก็บรักษา (Custody Solution) หรือความถูกต้องทางกฎหมาย (Legal Compliance) แต่เมื่อได้มีการอนุมัติของ Bitcoin ETF ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนสถาบันสามารถเข้าถึงการซื้อขาย Bitcoin ได้ง่ายขึ้น ผ่านการดูแลของผู้จัดการสินทรัพย์หลากหลายแห่ง

 

ตั้งแต่ Bitcoin ETF ผ่านการอนุมัติ ได้มียอดไหลเข้าเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 14.96 พันล้านเหรียญ โดยส่วนมากมาจากลูกค้าของ IBIT และ FBTC เป็นหลัก ซึ่งได้มีการผลักดันให้ราคาของ Bitcoin ขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

 

Source

 

  ปัจจุบัน Bitcoin ETF ก็ยังคงมีเงินไหลเข้ามาเรื่อยๆ แต่เหตุใดราคาของ Bitcoin กลับไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกันกับอุปสงค์ที่เข้ามา จนได้มีการวิเคราะห์จาก Glassnode ว่าอุปสงค์ที่เข้ามาผ่านทาง Bitcoin ETF อาจจะเป็นเพียงภาพลวงตาที่เกิดจากการทำ Arbitrage ของนักลงทุนอย่าง Hedge Funds เท่านั้น

 

อุปสงค์เทียมจากนักลงทุนสถาบัน

 

  จากบทความของ Glassnode ได้มีการสังเกต Bitcoin ETF Flow เปรียบเทียบกับการเปิดสถานะในตลาด CME Bitcoin Futures จะพบว่า ปัจจุบัน Hedge Funds ได้มีการเปิดสถานะชอร์ตเป็นจำนวนมาก ซึ่งสามารถนำไปวิเคราะห์ได้ว่า แรงซื้อที่ไหลเข้ามาใน Bitcoin ETF กว่า 5 พันล้านเหรียญนั้น อาจมาจากการทำ Cash-and-Carry trade ซึ่งเป็นการเปิด Delta-neutral position ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นหรือลงของราคา Bitcoin แต่เป็นกลยุทธ์การ Arbitrage เพื่อทำกำไรส่วนต่างจาก Premium spread ระหว่างราคา Spot และ Future เท่านั้น

 

Source

  เนื่องจาก Hedge Funds นับว่าเป็นนักลงทุนสถาบันรายใหญ่ การทำกลยุทธ์ดังกล่าว จะต้องผ่าน Bitcoin ETF และตลาด CME ซึ่งทำให้เงินที่ไหลเข้ามาใน Bitcoin ETF อาจจะไม่ใช่อุปสงค์ที่แท้จริง แต่เป็นการทำกำไรจากส่วนต่างราคาของนักลงทุนสถาบันเท่านั้น ดังนั้น หากนักลงทุนสถาบันไม่ทำการต่ออายุสัญญา (Rollover) และต้องการปิดสถานะ อาจทำให้เกิดแรงขายที่นักลงทุนควรเฝ้าระวัง


หมายเหตุ


  คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวนและสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง และ ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

Merkle Capital คือผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกของประเทศไทยซึ่งสังกัดอยู่ภายใต้เครือบริษัท Cryptomind Group บริษัทให้การดูแลและบริหารการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลแก่ลูกค้าด้วยกลยุทธ์ที่หลากหลายและปลอดภัยอย่างยั่งยืน