กุมภาพันธ์ 12, 2025
หมายเหตุ : บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นในทุกวันจันทร์
ดังนั้นบทความบางส่วนอาจจะมีความคลาดเคลื่อนของข้อมูลได้
WEEKLY TONE: MONITOR WEEK
สัปดาห์นี้มีตัวชี้วัดที่น่าจับจามองอย่างมาก คือตัวของ Core CPI และ Core PPI ซึ่งบ่งบอกในฝั่งของอัตราเงินเฟ้อที่กดไม่ลง ส่งผลตลาดคาดการณ์ในปี 2025 จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2025 เหลือเพียงครั้งเดียวจาก 2 ครั้ง สำหรับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ช่วงนี้ควรให้ความสำคัญในการเฝ้าดูตลาดอย่างใกล้ชิด และรอเวลาในการทำธุรกรรมในช่วงเวลาถัดไป
Core CPI หรือ Core Consumer Price Index จะสามารถใช้ชื่อเรียกอีกอย่างได้คือ Core Inflation Rate หรือแปลว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน คือ อัตราการเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป ที่หักสินค้าในหมวดอาหารสดและพลังงานออก เนื่องจากเป็นหมวดที่มีความเคลื่อนไหวขึ้นลงตามฤดูกาล และอยู่นอกเหนือการควบคุมของนโยบายการเงิน เหลือแต่รายการสินค้าที่ราคาเคลื่อนไหวตามกลไกตลาด
คาดการณ์จาก Tradingeconomic: Core CPI MoM มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจาก 0.2% เป็น 0.3%
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การคาดการณ์การเพิ่มขึ้นของ Core CPI MoM เป็นการแสดงให้เห็นถึงอัตราเงินเฟ้อที่กดลงไม่ลง ทำให้ตลาดการลงทุนนั้นมีการชะลอตัว และนักลงทุนเริ่มมองหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่าในการลงทุน
Core PPI หรือ Core Producer Price Index คือ จะวัดค่าการเปลี่ยนแปลงในราคาขายสำหรับสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่ผู้ผลิตได้ขายโดยที่ไม่รวมถึงสินค้าประเภทอาหารและพลังงาน ดัชนีราคาผู้ผลิตจะวัดค่าการเปลี่ยนแปลงในราคาจากมุมองของผู้ขาย เมื่อผู้ผลิตมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นสำหรับการผลิตสินค้าและบริการนั้นก็น่าจะเป็นไปได้มากว่าผู้ผลิตจะให้ผู้บริโภคแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นนั้นแทน ดังนั้นดัชนีราคาผู้ผลิตนี้จึงเชื่อว่าเป็นดัชนีสำคัญที่จะชี้วัดภาวะเงินเฟ้อของผู้บริโภค
คาดการณ์จาก Tradingeconomic: Core PPI MoM มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจาก 0% เป็น 0.1%
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การคาดการณ์การเพิ่มขึ้นของ Core PPI MoM มีผลกระทบคล้ายคลึงกับ Core CPI โดยที่ส่วนใหญ่แล้ว อัตราเงินเฟ้อที่กดไม่ลงจะส่งผลเสียต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง เนื่องด้วยการที่นักลงทุนต่างต้องการให้ FED ลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นการลงทุนในฝั่งของสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มมากขึ้น
Core Retail Sales หรือ ดัชนียอดค้าปลีก เป็นการวัดค่าการเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายอดขายทั้งหมดในระดับการค้าปลีก ซึ่งเป็นดัชนีที่สำคัญมากที่สุดที่บ่งชี้ถึงการใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นส่วนสำคัญมากที่สุดของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวม สำหรับ Retail Sales ที่ไม่รวมการซื้อรถ จะเรียกว่า Core Retail Sales
คาดการณ์จาก Tradingeconomic: Core Retail Sales MoM มีแนวโน้มที่จะลดลงจาก 0.3% เป็น 0.2%
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การคาดการณ์การลดตัวลงของ Core Retail Sales แสดงให้เห็นถึงเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวลงโดยส่วนใหญ่มากจากรายได้ของกลุ่มธุรกิจที่ลดตัวลงอย่างชัดเจน แต่อย่างไรก็ตาม Core Retail Sales ไม่ได้มีผลกระทบโดยตรงต่อสินทรัพย์ดิจิทัล
Key Event ที่น่าสนใจที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์และอาจจะทำให้เกิดความผันผวนกับสินทรัพย์ดิจิทัล
10 กุมภาพันธ์
11 กุมภาพันธ์
12 กุมภาพันธ์
13 กุมภาพันธ์
14 กุมภาพันธ์
ในส่วนของ Funding Rate สำหรับอาทิตย์นี้มีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย และ Altcoins บางเหรียญตัวเริ่มกลับมาบวกหลังจาก ติดลบครั้งก่อน ซึ่งบ่งบอกถึงสภาพตลาดที่ Risk off สืบเนื่องจากสงครามการค้าและความกังวลของนักลงทุน
ในฝั่งของ Bitcoin Futures Open Interest หลังจากการล้าง Liquidation ครั้งใหญ่ที่ผ่านมา มีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย บ่งบอกถึงการเปิดความเสี่ยงของนักลงทุนที่ทะยอยเพิ่มขึ้นมา แต่ก็ยังมีสัดส่วนที่น้อย สามารถตีความได้ว่า นักลงทุนอาจเฝ้ารอปัจจัยบางอย่างเพื่อความแน่ชัด ก่อนที่จะกลับมาเปิดความเสี่ยงอีกครั้ง
ในส่วนของ Bitcoin ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกระแสเงินไหลเข้าสุทธิ 238.8 ล้านเหรียญ นับว่าเป็นสัปดาห์ที่มี Inflow ปานกลาง เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวล และ Risk off ต่อสินทรัพย์เสี่ยง หลังมีสงครามการค้าและการโต้กลับของจีน ซึ่งคาดว่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้น
ในส่วนของ Ethereum ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกระแสเงินไหลออกสุทธิที่ 420.3 ล้านเหรียญแสดงถึงแนวโน้มเชิงบวกต่อ Ethereum หลังจากการที่ World Liberty Financial และ Blackrock ได้ซื้อ ETH ในจำนวนมาก
ตลาดกระทิง (Bull Market) มักมีลักษณะการถ่ายโอนสินทรัพย์จากนักลงทุนระยะยาวไปสู่นักลงทุนรายใหม่ ซึ่งมักจะเป็นนักลงทุนที่เป็นเก็งกำไรมากกว่า โดยที่ นักลงทุนเก็งกำไรเหล่านี้มักจะเป็นนักลงทุนรายย่อยที่ถูกดึงดูดด้วยราคาสินทรัพย์ที่พุ่งสูงขึ้นและโอกาสในการทำกำไรอย่างรวดเร็ว โดยประเมินจาก (Hot Realized Cap) ซึ่งเป็นการประเมินมูลค่าทุนที่ถือครองโดยบัญชีที่มีการเคลื่อนไหวในช่วง 7 วันที่ผ่านมา
ในช่วงที่ราคา Bitcoin พุ่งแตะจุดสูงสุดที่ $100,000 นักลงทุนกลุ่มใหม่ถือครองทุนในเครือข่าย Bitcoin มูลค่ารวม $99.6 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็น 13.7% ของมูลค่าเครือข่ายทั้งหมด ในขณะที่รอบก่อนนั้น นักลงทุนใหม่ถือครองอยู่ที่ $45.3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็น 22.5% ของเครือข่าย โดยการเพิ่มขึ้นของตัวชี้วัด Hot Realized Cap นี้แสดงถึงความต้องการในตลาดที่เพิ่มขึ้นและการกลับเข้ามาของนักลงทุนรายย่อย พร้อมทั้งบ่งบอกถึงโอกาสในการเติบโตที่ยังมีอยู่ในตลาด
เป็นครั้งแรกที่ Solana มีนักลงทุนรายย่อยถือครองสูงกว่า Ethereum เป็นครั้งแรก สะท้อนถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้น พร้อมกับการไหลเข้าของทุนใหม่ที่แซงหน้า Ethereum แสดงถึงความต้องการที่แข็งแกร่งในตลาด
สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่ามีการไหลเข้าของทุนที่ใช้งานมากกว่าใน Solana เมื่อเทียบกับ Ethereum ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตและประสิทธิภาพที่เหนือกว่า โดยกระแสเงินทุนที่เข้ามาใน Solana เริ่มต้นในเดือนตุลาคม 2023 ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้อัตราส่วน SOL/ETH มีแนวโน้มสูงขึ้น
Solana มีความโดดเด่นในด้านเครือข่ายที่สูง โดยจำนวนของ Active addresses, ปริมาณการโอน,และค่าธรรมเนียมทั้งหมดสูงกว่าบล็อกเชนอื่นๆ นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2023 เป็นต้นมา จำนวนที่อยู่ที่ใช้งานในเครือข่าย Solana ได้แซงหน้า Bitcoin และ Ethereum โดย Solana มีผู้ใช้งานรายวันถึง 12.3 ล้านที่อยู่ มากกว่าของ Bitcoin 16.2 เท่า และ Ethereum 24.6 เท่า ซึ่งบ่งบอกถึงความสนใจและความต้องการที่เพิ่มขึ้น
$BTC $BTC ยังอยู่ในรูปแบบ Sideway Down ในตอนนี้ โดยจุดที่น่าสนใจคือการปรับฐานของ $BTC หากราคานั้นสามารถยก Low ได้โดยมาอยู่บริเวณ $96,000 ก็มีโอกาสที่การเคลื่อนที่จะออกเป็นรูป Ascending Triangle โดยมีแนวต้านสำคัญบริเวณ $108,000 ซึ่งก็จะเป็นมุมมองที่ Bullish กับราคาว่าจะขึ้นต่อได้ อย่างไรก็ตามการเกิด Pattern ชุดสะสมดังกล่าวไม่ได้แปลว่า Breakout ด้านบนอย่างเดียว ก็ยังมีโอกาส Breakout ข้างล่างได้เช่นกัน
แนวต้าน : $100,000 | $108,000 | $120,000
แนวรับ : $96,000 | $91,500 | $84,000
$ETH นั้นยังมีการปรับตัวลงหลังจากหลุดจากกรอบ Falling Wedge ในระยะสั้นราคานั้นยังไม่มีรูปแบบกลับตัว หรือสัญญาณการกลับตัวใน RSI เกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม RSI Timeframe 1D ก็ได้เข้าไปอยู่ในโซน Oversold แล้วซึ่งก็อาจมีการกลับตัวของราคาในบริเวณนี้เกิดขึ้นได้ สำหรับแนวรับสำคัญจะอยู่ที่บริเวณ $2,400
แนวต้าน : $2,870 | $3,350 | $3,700
แนวรับ : $2,400 | $2,200 | $1,870
Bitcoin Dominance ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงมากกว่า 50% ผนวกกับการมาของ Ethereum และ Bitcoin spot ETF / Options และมุมมองเชิงบวกมากๆต่อตลาดคริปโทโดยโดนัล ทรัมป์ และเมื่อพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจที่ผันผวนในสัปดาห์นี้และสถานการณ์เงินเฟ้อที่ยังไม่สู้ดีนัก จึงแนะนำให้นักลงทุนถือสัดส่วนของ Bitcoin เอาไว้เพื่อลด Drawdown โดยรวมของพอร์ต บวกกับถือสัดส่วนของ Altcoins ที่มีพื้นฐานที่ดีรับสัญญาณของ Altcoins season และเก็บ Stablecoin ที่เป็น USD เพื่อใช้เป็นไม้สำรอง
Disclaimer