November 13, 2024
หมายเหตุ : บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นในวันจันทร์ ดังนั้นบทความบางส่วนอาจจะมีความคลาดเคลื่อนของข้อมูลได้
WEEKLY TONE: BUY WEEK
ในสัปดาห์มีตัวชี้วัดที่สำคัญออกมาเยอะพอสมควร เริ่มต้นด้วย Core PPI และ Core CPI ที่มีการคาดการณ์ว่าจะคงที่เท่าเดิมและยังสามารถสร้างผลดีต่อตลาดคริปโทฯ ได้อีกด้วย แต่ด้วยการที่ Core Retail Sales ได้มีการคาดการณ์ว่าจะลดตัวลง แต่ไม่ได้ลดลงเยอะ ทำให้อาจไม่มีผลกระทบที่มีนัยสำคัญต่อคลาดคริปโทฯ ช่วงนี้สามารถเปิดความเสี่ยงได้ แต่ต้อง Selective Buy สำหรับ Bitcoin เพราะด้วยการที่ Bitcoin นั้น All Time High ใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว Altcoin จึงเป็นเหรียญอีกหนึ่งกลุ่มที่น่าสนใจ โดยจริง ๆ แล้ว Altcoin นั้นยังไม่ได้มีการขยับขึ้นของราคามาก จึงทำให้ โอกาสในการเติบโตนั้นน่าสนใจสำหรับนักลงทุน
Core CPI หรือ Core Consumer Price Index จะสามารถใช้ชื่อเรียกอีกอย่างได้คือ Core Inflation Rate หรือแปลว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน คือ อัตราการเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป ที่หักสินค้าในหมวดอาหารสดและพลังงานออก เนื่องจากเป็นหมวดที่มีความเคลื่อนไหวขึ้นลงตามฤดูกาล และอยู่นอกเหนือการควบคุมของนโยบายการเงิน เหลือแต่รายการสินค้าที่ราคาเคลื่อนไหวตามกลไกตลาด
คาดการณ์จาก Tradingeconomic: Core CPI MoM มีแนวโน้มที่จะคงที่ที่ 0.3% เท่าเดิม
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การคาดการณ์การคงที่ของ Core CPI นั้นสามารถส่งผลดีต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั้งคริปโทฯ และหุ้น สำหรับฝากฝั่งของคริปโทฯ การคงที่ของ Core CPI สามารถลดความผันผวนในด้านของราคาลงได้ อีกทั้งยังสามารถดึงดูดนักลงทุนเข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้น และในที่นี้รวมไปถึงนักลงทุนในโลก TradFi หรือโลกดั้งเดิม
Core PPI หรือ Core Producer Price Index คือ จะวัดค่าการเปลี่ยนแปลงในราคาขายสำหรับสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่ผู้ผลิตได้ขายโดยที่ไม่รวมถึงสินค้าประเภทอาหารและพลังงาน ดัชนีราคาผู้ผลิตจะวัดค่าการเปลี่ยนแปลงในราคาจากมุมองของผู้ขาย เมื่อผู้ผลิตมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นสำหรับการผลิตสินค้าและบริการนั้นก็น่าจะเป็นไปได้มากว่าผู้ผลิตจะให้ผู้บริโภคแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นนั้นแทน ดังนั้นดัชนีราคาผู้ผลิตนี้จึงเชื่อว่าเป็นดัชนีสำคัญที่จะชี้วัดภาวะเงินเฟ้อของผู้บริโภค
คาดการณ์จาก Tradingeconomic : Core PPI MoM มีแนวโน้มที่จะคงที่ที่ 0.2% เท่าเดิม
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การคาดการณ์ว่า Core PPI MoM จะคงที่นั้นเป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่าอัตราเงินเฟ้อนั้นกำลังชะลอตัวหรือหยุดอยู่นิ่ง ๆ และยังสร้างผลดีต่อตลาดคริปโทฯ อีกด้วย โดยที่สามารถทำให้ความผันผวนในด้านของราคาลดลง และอีกทั้งยังสามารถดึงดูดนักลงทุนเพิ่มเข้ามายังตลาดสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้นอีกด้วย
Core Retail Sales MoM หรือ ดัชนียอดค้าปลีก เป็นการวัดค่าการเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายอดขายทั้งหมดในระดับการค้าปลีก ซึ่งเป็นดัชนีที่สำคัญมากที่สุดที่บ่งชี้ถึงการใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นส่วนสำคัญมากที่สุดของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวม สำหรับ Retail Sales ที่ไม่รวมการซื้อรถ จะเรียกว่า Core Retail Sales
คาดการณ์จาก Tradingeconomic: Core Retail Sales มีแนวโน้มที่จะลดลงจาก 0.7% เป็น 0.5%
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การคาดการณ์การลดลงของ Core Retail Sales นั้นเป็นการที่นักลงทุนนั้นได้มีการลดความเสี่ยงของตนเองลง และหันไปถือสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า แต่ด้วยการที่ Core Retail Sales มีการคาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 0.2% และไม่ได้เป็นการลดลงที่เยอะ ทำให้อาจไม่มีผลกระทบที่ร้ายแรงมาก
Key Event ที่น่าสนใจที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์และอาจจะทำให้เกิดความผันผวนกับสินทรัพย์ดิจิทัล
11 พฤศจิกายน
13 พฤศจิกายน
ในส่วนของ Funding rate สำหรับอาทิตย์นี้มีการปรับตัวสูงขึ้นหลังจากผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่ Donald Trump ชนะ ส่งผลให้นักลงทุนมีการเปิดสถานะ Long มากขึ้น เพราะนโยบายในอนาคตจะเป็นปัจจัยบวกสำหรับวงการคริปโตเคอร์เรนซี และทำให้ความมั่นใจของนักลงทุนกลับมาในระยะยาวจนเกิดเป็น Bullish Sentiment
ในฝั่งของ Bitcoin Futures Open Interest มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จนทะลุ All Time High แสดงถึงการเก็งกำไรของนักลงทุนผ่านสัญญา Futures ที่เพิ่มขึ้น ตลาดมีความร้อนแรงจากการฟื้นตัวในครั้งนี้ แต่การใช้ Leverage ของตลาดในปริมาณมาก ก็อาจจะทำให้เกิดความผันผวนที่ตามมาเช่นกัน
ในส่วนของ Bitcoin ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีกระแสเงินไหลเข้าจาก Spot Bitcoin ETFs รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 1,576.3 ล้านเหรียญ ซึ่งนับว่าเป็นแรงซื้อมหาศาลจากนักลงทุนรายใหญ่ติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน จนทำให้ราคา Bitcoin ทะลุจุดสูงสุดกว่า $80,000 แสดงถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อตลาดคริปโตเคอร์เรนซีหลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ
ในส่วนของ Ethereum ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกระแสเงินไหลเข้าทั้งสิ้น 154.7 ล้านเหรียญ นับว่ามีความสนใจจากนักลงทุนสถาบันที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นปัจจัยบวกที่ส่งเสริมให้ราคาของ Ethereum สามารถ Outperform เหรียญอื่นๆ ได้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
หลังจากที่ผลการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ออกมาเป็นเอกฉันท์ว่า Donald Trump ชนะ และต่อมา FED ได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 25 BPS ตามความคาดหวังของตลาด ทั้งสองปัจจัยทำให้ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีฟื้นตัวอย่างรุนแรง โดย Bitcoin ได้มีการทำ All Time High ทะลุ $80,000 หากสังเกตปริมาณการเทรดบน Coinbase จะพบว่ามีการพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง แสดงถึงความสนใจของนักลงทุนในตลาดที่สูงขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา
นอกจากนี้ หากพิจารณา Coinbase Premium จะพบว่า ราคา Bitcoin บน Coinbase มีราคาที่สูงกว่าบน Binance หลังจากที่อยู่ต่ำกว่ามานาน ซึ่งสามารถตีความได้ว่า นักลงทุนในฝั่งของอเมริกามีการเข้าซื้อ Bitcoin และดันราคาของ Coinbase ให้สูงกว่าทั่วโลก โดยสาเหตุหลักมาจากการเก็งกำไรเรื่องผลการเลือกตั้งของสหรัฐฯ
$BTC ทำ All-Time High แล้วสัปดาห์ที่ผ่านมา Momentum เป็นทิศทางบวกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม RSI ได้มีการเข้าสู่ฝั่ง Overbought ค่อนข้างสูงแล้ว ในระยะสั้นอาจมีการพักตัวได้จากสัญญาณแท่งเทียนแต่อาจเป็นเพียงย่อเพื่อขึ้นต่อไปก่อนเท่านั้นในช่วงนี้ สำหรับสัญญาณกลับตัวนั้นยังไม่มีให้เห็นได้ชัดในตอนนี้
แนวต้าน : $83,000 | $86,500 | $90,000
แนวรับ : $77,000 | $73,000 | $67,000
$ETH นั้นเด้งตัวจากชุดสะสมได้แล้วหลังจากที่ล่าสุดเหมือนจะปิดใต้เส้น Trendline แนวรับขาขึ้น ตอนนี้ Momentum เป็นขาขึ้นอย่างมากโดยอาจเกิดการย่อตัวได้หลังจากขึ้นไปถึงแนวต้าน โดยแนวสำคัญในปัจจุบันอยู่ที่ $3,350 ซึ่งเป็นแนวรับเดิมที่เคยหลุดลงมาหลังจากสร้างชุดสะสม หากสามารถขึ้นไปยืนเหนือแนวดังกล่าวได้จะเป็น Momentum ที่ Bullish กับ $ETH อย่างมาก
แนวต้าน : $3,350 | $3,700 | $4,000
แนวรับ : $2,870 | $2,400 | $2,150
ตลาดกำลังมองเห็นโอกาสของเกิด Soft landing ของเศรษฐกิจสหรัฐหลังจากการลดดอกเบี้ยของ FED ทำให้ตลาดเริ่มเปิดความเสี่ยงมากขึ้น ขณะที่ Bitcoin Dominance ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงมากกว่า 50% ผนวกกับการมาของ Ethereum และ Bitcoin spot ETF / Options และมุมมองเชิงบวกมากๆต่อตลาดคริปโทโดยรวม ในสหรัฐในเชิงการเมืองที่อาจจะเห็นภาพชัดเจนในไตรมาสที่ 4 และเมื่อพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจที่ผันผวนในสัปดาห์นี้ จึงแนะนำให้นักลงทุนถือสัดส่วนของ Bitcoin เอาไว้เพื่อลด Drawdown โดยรวมของพอร์ต และเพิ่มสัดส่วนของ Ethereum ในพอร์ตเพิ่มขึ้น บวกกับถือสัดส่วนของ Altcoins ที่มีพื้นฐานที่ดีรับสัญญาณของ Altcoins season และเก็บ Stablecoin ที่เป็น USD เพื่อใช้เป็นไม้สำรอง
Disclaimer