Merkle Weekly Snapshot 16th - 20th December 2024

December 18, 2024

Analysis
Insight
Bitcoin
thumbnail

Merkle Weekly Snapshot

 

16th - 20th December 2024

 

บทวิเคราะห์มุมมองการลงทุนในสัปดาห์นี้

 


 

หมายเหตุ : บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นในทุกวันจันทร์

ดังนั้นบทความบางส่วนอาจจะมีความคลาดเคลื่อนของข้อมูลได้

 

MACROECONOMICS

 

Key Takeaways

  • Core Retail Sales มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น
  • ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยลง
  • Core PCE Price Index มีแนวโน้มที่จะคงที่เท่าเดิม
  • Personal Income มีแนวโน้มที่จะลดลง
  • Personal Spending มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น

 

WEEKLY TONE: BUY WEEK

 

  ในสัปดาห์นี้มีตัวชี้วัดที่สำคัญต่อตลาดคริปโตฯ ได้ออกมา เริ่มต้นด้วยการคาดการณ์ Core Retail Sales ที่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น รวมไปถึง Core PCE Price Index ที่มีแนวโน้มที่จะคงที่เท่าเดิม และไฮไลท์ของสัปดาห์นี้คือ FED Interest Rate Decision หรือการประชุมเพื่อที่จะลดอัตราดอกเบี้ยของ FED สำหรับ Core Retail Sales แสดงให้เห็นถึงการใช้จ่ายในฝั่งของสินค้าและบริการที่เพิ่มมากขึ้น ส่วน FED Interest Rate และ Core PCE Price Index แสดงให้เห็นถึงอัตราเงินเฟ้อที่ถูกควบคุม โดยที่ตัวอัตราเงินเฟ้อนั้นกำลังคงที่หรือกำลังชะลอตัวอย่างช้า ๆ และ FED มีแนวโน้มที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมครั้งถัดไปอีกด้วย ภาพในตลาดคริปโตฯ ตอนนี้ยังสามารถเปิดความเสี่ยงได้ แต่เหรียญใหญ่ ๆ อย่าง Bitcoin แต่อาจที่จะมี Upside น้อยกว่าเหรียญอื่น ๆ สำหรับ Altcoins สามารถเปิดความเสี่ยงได้ และยังมี Potential ที่จะมี Upside มากกว่า

 


 

Important Economic Data this week :

 

1. Core Retail Sales

 

  Core Retail Sales MoM หรือ ดัชนียอดค้าปลีก เป็นการวัดค่าการเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายอดขายทั้งหมดในระดับการค้าปลีก ซึ่งเป็นดัชนีที่สำคัญมากที่สุดที่บ่งชี้ถึงการใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นส่วนสำคัญมากที่สุดของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวม สำหรับ Retail Sales ที่ไม่รวมการซื้อรถ จะเรียกว่า Core Retail Sales

 

คาดการณ์จาก Tradingeconomics: Core Retail Sales มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจาก 0.4% เป็น 0.5%

 

Source : https://tradingeconomics.com/united-states/retail-sales

 

ตีความอย่างไรต่อตลาด

  การคาดการณ์การเพิ่มขึ้นของ Core Retail Sales แสดงให้เห็นถึงผู้บริโภคที่ได้ใช้จ่ายในฝั่งของสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงสัญญาณบวกของเศรษฐกิจอีกด้วย การเพิ่มขึ้นของ Core Retail Sales ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงแก่นักลงทุนอีกด้วย เศรษฐกิจที่ดีจะทำให้นักลงทุนเริ่มมองหาสินทรัพย์ที่เสี่ยงเพิ่มมากขึ้น หรือนักลงทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอยู่แล้ว ก็อาจจะมีการมองเข้ามายังสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อหาผลตอบแทนที่มากกว่า

 

2. FED Interest Rate Decision

 

  สมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงินแห่งสหรัฐฯ หรือ FOMC ได้มีการลงคะแนนเพื่อกำหนดอัตราดอกเบี้ย นักเก็งกำไรต่างเฝ้าติดตามคำพูดของเขาอย่างใกล้ชิดเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นปัจจัยหลักในการกำหนดค่าเงินตราและความผันผวนของตลาดสินทรัพย์เสี่ยงต่าง ๆ

 

คาดการณ์จาก Tradingeconomics: Interest Rate มีแนวโน้มที่ลดจาก 4.50% - 4.75% เหลือ 4.25% - 4.50%

 

Source : https://tradingeconomics.com/united-states/interest-rate

 

ตีความอย่างไรต่อตลาด

  การคาดการณ์ในการลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 4.25% - 4.50% แสดงให้เห็นถึงอัตราเงินเฟ้อที่กำลังคงที่หรือชะลอตัวลง อีกทั้งการลดอัตราดอกเบี้ยยังทำให้ผู้บริโภคนั้นได้นำเงินฝากออกมาลงทุนเพิ่มมากขึ้น นักลงทุนจะเริ่มมองหาสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มมากขึ้น

 

3. Core PCE Price Index

 

  United States Core PCE Price Index (Personal Consumption Expenditures Price Index) คือดัชนีราคาที่ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงในระดับราคาของสินค้าและบริการที่บรรจุในการบริโภคของประชากรในสหรัฐอเมริกา โดยไม่รวมราคาของอสังหาริมทรัพย์ และค่าประกันสุขภาพ และราคาของสินค้า และบริการที่เป็นผลมาจากราคาของพลังงาน และอาหารที่มีความผันผวนมาก

 

คาดการณ์จาก Tradingeconomics: Core PCE Price Index มีแนวโน้มที่จะคงที่ที่ 0.3%

 

Source : https://tradingeconomics.com/united-states/core-pce-price-index-mom

 

ตีความอย่างไรต่อตลาด

  การคาดการณ์การคงที่ของ Core PCE Price Index แสดงให้เห็นถึงอัตราเงินเฟ้อที่โดนควบคุมไม่ให้เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังชะลอตัวลงอย่างช้า ๆ อัตราเงินเฟ้อที่คงตัวหรือชะลอตัวสามารถช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่นักลงทุนได้อย่างมากโดยเฉพาะในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล

 

 


 

CRYPTOCURRENCY EVENT THIS WEEK

Credit from LayerGG

 

Key Event ที่น่าสนใจที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์และอาจจะทำให้เกิดความผันผวนกับสินทรัพย์ดิจิทัล

 

    18 ธันวาคม

  • FED ตัดสินใจทิศทางนโยบายอัตราดอกเบี้ย
  • $SOPHON - เปิดตัว Mainnet
  •  

    19 ธันวาคม

  • BoJ ตัดสินใจทิศทางนโยบายอัตราดอกเบี้ย
  • $WBTC - ถูกถอนออกจากกระดานเทรด Coinbase

 

 

Weekly Crypto Must Watch

 

Source : https://www.coinglass.com/FundingRateHeatMap

 

  ในส่วนของ Funding Rate สำหรับอาทิตย์นี้มีการปรับตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดการ Liquidate ครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ปี 2021 โดย Bitcoin ได้มีการล้างสถานะไปกว่า 1.6 พันล้านเหรียญ อย่างไรก็ตาม ตลาดสามารถฟื้นตัวกลับมาได้อย่างรวดเร็ว บ่งบอกถึง Demand ของนักลงทุนที่สูงมาก เหตุการณ์ในครั้งนี้ ส่งผลให้ Funding Rate มีการปรับฐานในรูปแบบที่ทำให้สภาพตลาด Healthy มากยิ่งขึ้น

 

Source : https://www.coinglass.com/BitcoinOpenInterest

 

  ในฝั่งของ Bitcoin Futures Open Interest มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จนทะลุ All Time High อย่างต่อเนื่อง แสดงถึงการเก็งกำไรของนักลงทุนผ่านสัญญา Futures ที่เพิ่มขึ้น ตลาดมีความร้อนแรงหลังจากข่าวดีเรื่องการเลือกตั้งสหรัฐฯ เพราะนักลงทุนหลายกลุ่มต้องการเพิ่ม Exposure กับสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น

 

Source : https://farside.co.uk/?p=997

 

  ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีกระแสเงินไหลเข้าจาก Spot Bitcoin ETFs รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 2,167.1 ล้านเหรียญ นับว่าเป็นสัปดาห์ที่มีแรงซื้อสุทธิต่อเนื่องกันทุกวัน จนผลักดันให้ราคาของ Bitcoin พุ่งทะลุ $100,000 เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเป็นตัวเลขทางจิตวิทยาที่สำคัญ ถึงแม้ว่าช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นที่ผ่านมา นักลงทุนระยะยาวจะมีการเทขายออกมาบ้าง แต่แรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันก็ยังเป็น Demand ที่สำคัญในการผลักดันราคาต่อไป

 

Source : https://farside.co.uk/?p=1518

 

  ในส่วนของ Ethereum ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกระแสเงินไหลเข้าทั้งสิ้น 854.8 ล้านเหรียญ นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของแรงซื้อมหาศาลจากนักลงทุนสถาบัน จนทำให้ปัจจุบันเม็ดเงินสุทธิที่ไหลเข้ามาใน Spot Ethereum ETF ทะลุ 2,000 ล้านเหรียญแล้ว ส่งผลให้ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา Ethereum มีผลตอบแทนที่แข็งแกร่งกว่า Bitcoin และเหรียญอื่นๆ

 

Navigating the Cycle

 

  ในสัปดาห์ที่ผ่านมา Bitcoin พุ่งทะลุ $100,000 ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขสำคัญทางจิตวิทยา โดยหลังจากการเลือกตั้งสหรัฐฯ ราคา Bitcoin ได้มีการปรับตัวสูงขึ้นกว่า 45% ในเดือนพฤศจิกายนเลยทีเดียว ส่งผลให้เกิดคำถามที่ตามมาว่า ตลาดในตอนนี้ถึงจุด Top แล้วหรือยัง ถึงแม้ว่าราคาในอนาคตจะเป็นสิ่งที่คาดการณ์ไม่ได้ แต่ข้อมูลในอดีตและข้อมูล On-chain สามารถที่จะบ่งชี้ถึงสภาพตลาดปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

 

 หากพิจารณาจาก Short-Term Holder Supply หรือปริมาณ Bitcoin ที่นักลงทุนระยะสั้นถือ จะพบว่า ปัจจุบันมีค่าอยู่ที่เพียง 16.6% ของอุปทานทั้งหมดเท่านั้น ซึ่งสามารถตีความได้ว่า เมื่อเทียบกับนักลงทุนทั้งหมด มีนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาเพียงเล็กน้อย และหากสังเกตจาก Cycle รอบก่อนๆ จะพบว่า

  • ปี 2017 ราคาถึงจุดพีค เมื่อนักลงทุนระยะสั้นถือ 70% ของอุปทานทั้งหมด
  • ปี 2021 ราคาถึงจุดพีค เมื่อนักลงทุนระยะสั้นถือ 25% ของอุปทานทั้งหมด

 

 

 

 


 

WEEKLY TECHNICAL ANALYSIS

by Cryptomind Advisory

 

BTC/USDT

 

  $BTC ยังคงเป็นการ Sideway Up ขึ้นต่อในสัปดาห์นี้ ถึงแม้ว่า RSI จะมีการสร้าง Bearish Divergence แล้วแต่ก็ยังไม่ชัดเจนมากนัก โดยรวม Momentum ยังคงเป็นขาขึ้นอยู่ โดย $BTC จะมีแนวต้านระยะสั้นอยู่ที่บริเวณ $110,000 และ $120,000 ตามลำดับ การเล่นระยะสั้นยังต้องระวังการย่อตามแนวต้านต่างๆ อยู่ในช่วงนี้

 

แนวต้าน : $100,000 | $120,000 | $150,000

แนวรับ : $91,500 | $86,000 | $83,000

 

 

ETH/USDT

 

  $ETH ในระยะสั้นเป็นมุมมองการ Sideway สร้างชุดสะสมในบริเวณแนวต้าน $4,000 โดยจุดที่สำคัญคือการ Breakout ในบริเวณนี้ หาก $ETH มีการ Breakout ขึ้นไปยืนเหนือ $4,000 ได้ จะมีแนวโน้มที่สูงมากที่ $ETH จะไปทำ All-time High ใหม่ได้ แต่หาก $ETH มีการทำราคาลงด้านล่าง Momentum ขาขึ้นจะเกิดการพักตัวลงและอาจเกิดการกลับตัวลงได้เช่นกัน

 

แนวต้าน : $4,000 | $4,800 | $6,000

แนวรับ : $3,700 | $3,450 | $3,000

 


 

ASSET ALLOCATION

by Cryptomind Advisory

 

  ตลาดกำลังมองเห็นโอกาสของเกิด Soft landing ของเศรษฐกิจสหรัฐหลังจากการลดดอกเบี้ยของ FED ทำให้ตลาดเริ่มเปิดความเสี่ยงมากขึ้น ขณะที่ Bitcoin Dominance ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงมากกว่า 50% ผนวกกับการมาของ Ethereum และ Bitcoin spot ETF / Options และมุมมองเชิงบวกมากๆต่อตลาดคริปโทโดยโดนัล ทรัมป์ และเมื่อพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจที่ผันผวนในสัปดาห์นี้ จึงแนะนำให้นักลงทุนถือสัดส่วนของ Bitcoin เอาไว้เพื่อลด Drawdown โดยรวมของพอร์ต และเพิ่มสัดส่วนของ Ethereum ในพอร์ตเพิ่มขึ้น บวกกับถือสัดส่วนของ Altcoins ที่มีพื้นฐานที่ดีรับสัญญาณของ Altcoins season และเก็บ Stablecoin ที่เป็น USD เพื่อใช้เป็นไม้สำรอง

 

BITCOIN 40%
SELECTIVE LARGE MARKET CAP (30-35%)
SELECTIVE SMALL-MID MARKET CAP ALTCOINS (10-15%)
STABLECOINS 15%

 

คริปโทเคอร์เรนซีมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน

 

ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต

เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

Merkle Capital คือผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกในประเทศไทย ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานก.ล.ต. บริษัทให้การดูแลและบริหารเงินลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลแก่ลูกค้าด้วยกลยุทธ์ที่หลากหลายโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนและการบริหารจัดการ