November 20, 2024
หมายเหตุ : บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นในวันจันทร์ ดังนั้นบทความบางส่วนอาจจะมีความคลาดเคลื่อนของข้อมูลได้
WEEKLY TONE: BUY WEEK
ในสัปดาห์นี้แม้มีตัวชี้วัดที่ไม่ได้มีผลกระทบต่อตลาดคริปโทฯ โดยตรงออกมา แต่โดยรวมแล้วก็แสดงให้เห็นถึงการที่เศรษฐกิจนั้นได้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ความมั่นใจของนักลงทุนก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน อีกทั้งตอนนี้ยังเป็นช่วงเวลาที่น่าเปิดความเสี่ยงและพิจารณาลงทุนในคริปโทฯ เนื่องด้วยการที่ Bitcoin ได้มีการยืน Sideway บวกกับในส่วนของ Altcoins ได้มีการขยับตัวขึ้นมากันบ้างแล้ว ทำให้การเปิดความเสี่ยงในช่วงนี้ยังสามารถทำได้ และยังมี Upside ที่น่าสนใจอีกด้วย
Initial Jobless Claims หรือ Unemployment Claims คือจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนค่าใช้จ่ายของรัฐได้ชัดกว่าอัตราการว่างงาน เพราะยิ่งตัวเลขนี้สูงขึ้นนั่นหมายความว่าค่าใช้จ่ายของภาครัฐ หรือ Government Expenditure ถูกใช้ไปในการช่วยเหลือกลุ่มคนว่างงานมากขึ้น เศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะหดตัว และยังแสดงให้เห็นถึงช่องว่างความเหลื่อมล้ำในประเทศอีกด้วย โดยตัวเลขนี้จะมีประกาศทุก ๆ วันพฤหัสบดี
คาดการณ์จาก Tradingeconomic : Unemployment Claims มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจาก 217K เป็น 224K
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การคาดการณ์การเพิ่มขึ้นของ Unemployment Claims สามารถสร้างความผันผวนได้ในตลาดคริปโทฯ ในระดับหนึ่ง แต่ด้วยการที่มีการคาดการณ์การเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย อาจไม่สามารถสร้างผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญได้
Flash Manufacturing PMI (Purchasing Managers' Index) คือดัชนีการจัดการผลิตเบื้องต้น ที่เผยแพร่ก่อนรายงานหลักเพื่อให้สังเกตเห็นแนวโน้มทันทีก่อนการเผยแพร่ของข้อมูลหลักในท้ายเดือน โดยดัชนีที่ใช้วัดระดับของกิจกรรมการผลิตในส่วนการผลิตของประเทศสหรัฐอเมริกา ดัชนีนี้ถูกสร้างขึ้นโดย IHS Markit ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงในระดับของกิจกรรมการผลิตโดยสำรวจความคิดเห็นของผู้จัดการซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการผลิตในธุรกิจ โดยค่า PMI ที่มากกว่า 50 จะแสดงถึงการขยายของกิจกรรมการผลิต ค่าที่ต่ำกว่า 50 จะแสดงถึงการย่อลงของกิจกรรมการผลิต
คาดการณ์จาก Tradingeconomic: Flash Manufacturing PMI ที่จะเพิ่มขึ้นจาก 48.5 เป็น 49.2
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การที่ Flash Manufacturing PMI มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นแต่ยังไม่ข้าม 50 แสดงให้เห็นถึงการที่มีการเจริญเติบโต แต่ว่าอย่างไรก็ตาม การที่ข้าม 50 จะเป็นค่าที่ดีที่สุด การเติบโตตอนนี้อาจยังเป็นการเติบโตที่ช้า การเพิ่มขึ้นของ Flash Manufacturing PMI ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่นักลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และจะสร้างผลกระทบเชิงบวกให้แก่นักลงทุนในโลกดั้งเดิมและโลกดิจิทัลอีกด้วย
Flash Services PMI (Purchasing Managers' Index) ดัชนีการจัดการบริการเบื้องต้น ที่เผยแพร่ก่อนรายงานหลักเพื่อให้สังเกตเห็นแนวโน้มทันทีก่อนการเผยแพร่ของข้อมูลหลักในท้ายเดือน โดยดัชนีที่ใช้วัดระดับของกิจกรรมในส่วนการบริการของประเทศสหรัฐอเมริกา ดัชนีนี้ถูกสร้างขึ้นโดย IHS Markit ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงในระดับของกิจกรรมการบริการโดยสำรวจความคิดเห็นของผู้จัดการซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการบริการ โดยค่า PMI ที่มากกว่า 50 จะแสดงถึงการขยายของกิจกรรมการบริการ ค่าที่ต่ำกว่า 50 จะแสดงถึงการย่อลงของกิจกรรมการบริการ
คาดการณ์จาก Tradingeconomic: Flash Services PMI มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจาก 55 เป็น 55.1
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การคาดการณ์การเพิ่มขึ้นของ Flash Services PMI แสดงให้เห็นถึงการที่มีการขยายตัวในฝั่งของการบริการ แม้จะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยหรือการที่ขยายตัวช้า แต่ก็ยังสร้างผลกระทบในด้านดีให้แก่เศรษฐกิจ เพราะด้วยการที่ตัวชี้วัดนั้นมากกว่า 50 นั้นสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนได้อย่างมาก และตลาดคริปโทฯ ก็ยังได้รับผลพลอยได้จากการที่ตัวชี้วัดนี้มากกว่า 50 อีกด้วย
Key Event ที่น่าสนใจที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์และอาจจะทำให้เกิดความผันผวนกับสินทรัพย์ดิจิทัล
19 พฤศจิกายน
22 พฤศจิกายน
ในส่วนของ Funding Rate สำหรับอาทิตย์นี้มีการปรับตัวลดลงเล็กน้อย Funding Rate ของ Bitcoin ยังคงอยู่ในช่วงบวกเล็กน้อย แสดงถึงความร้อนแรงของตลาดที่ปรับตัวลดลงหลังรับรู้ข่าวการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่ผ่านมา แต่สำหรับเหรียญเล็กบางตัว มีการปรับตัวสูงขึ้น อาจตีความได้ว่า นักลงทุนในตลาดมีการเพิ่มความเสี่ยงด้วยการเปิดสถานะ Long กับเหรียญ Altcoins
ในฝั่งของ Bitcoin Futures Open Interest มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จนทะลุ All Time High แสดงถึงการเก็งกำไรของนักลงทุนผ่านสัญญา Futures ที่เพิ่มขึ้น ตลาดมีความร้อนแรงจากการฟื้นตัวในครั้งนี้ แต่การใช้ Leverage ของตลาดในปริมาณมาก ก็อาจจะทำให้เกิดความผันผวนที่ตามมาเช่นกัน
ในส่วนของ Bitcoin ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีกระแสเงินไหลเข้าจาก Spot Bitcoin ETFs รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 1,801.4 ล้านเหรียญ ซึ่งนับว่าเป็นแรงซื้อมหาศาลจากนักลงทุนรายใหญ่ติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน จนทำให้ราคา Bitcoin ทะลุจุดสูงสุดกว่า $90,000 แสดงถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อตลาดคริปโตเคอร์เรนซีหลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ
ในส่วนของ Ethereum ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกระแสเงินไหลเข้าทั้งสิ้น 533.9 ล้านเหรียญ นับว่ามีความสนใจจากนักลงทุนสถาบันที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้ยอดเป็น Net Inflow ตั้งแต่เปิดตัว Ethereum Spot ETF มาเป็นครั้งที่สอง โดยแรงซื้อเหล่านี้อาจจะมองว่า Ethereum มีสัดส่วนผลตอบแทนต่อความเสี่ยงที่คุ้มค่ากว่าเหรียญอื่น
หลังจากที่ Bitcoin ได้มีการทำจุดสูงสุดใหม่เหนือ $93,000 รับข่าวการเลือกตั้งสหรัฐฯ หากสังเกตแรงซื้อส่วนใหญ่ จะพบว่า แรงซื้อที่มาจากตลาด Spot นั้นมากกว่าตลาด Futures พอสมควร ซึ่งนับว่าเป็นการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดี ไม่ได้มาจากการใช้ Leverage ที่มากจนเกินไป
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของราคาจนทำจุดสูงสุดใหม่ได้นั้น หมายความว่า ทุกคนในตลาดกำลังกำไรไม่มากก็น้อย เนื่องจากราคาในปัจจุบันสูงกว่าทุกราคาในอดีต การเทขายเพื่อทำกำไรก็อาจจะเกิดขึ้นได้ ปัจจุบัน Long Term Holder MVRV อยู่ที่ 3.5 ซึ่งหมายความว่า นักลงทุนระยะยาวในตลาดมีกำไรเฉลี่ยอยู่ที่ 250% และหากดูจากข้อมูลในอดีต จะพบว่า นักลงทุนกลุ่มนี้ได้มีการทยอยเทขายเพื่อทำกำไรปริมาณมากในเดือนมีนาคมเมื่อ MVRV อยู่ที่ 4
ประกอบกับการพิจารณา Fear & Greed Index จะพบว่า ปัจจุบันตลาดอยู่ใน Extreme Greed หรือกำลังโลภสุดขีดนั่นเอง ซึ่งระดับความโลภนี้ เทียบเท่ากับตลาดในช่วงเดือนมีนาคม ก่อนที่จะมีการเทขายทำกำไรจนเกิดเป็น Drawdown ครั้งใหญ่นั่นเอง แต่ใดๆก็ตามปัจจัยหลักในการเทขายในช่วงเดือนมีนาคม 2024 คือการที่ FED ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยต่อ ทำให้ตลาดผิดหวังและทำให้สินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวลงกันทั้งแผง ซึ่งรอบนี้ปัจจัยจะแตกต่างกันออกไป
$BTC ปัจจุบันติดอยู่ใต้แนวต้านบริเวณราคา $92,000 ในฝั่งของ RSI นั้นอยู่ในโซน Overbought ที่ค่อนข้างสูงแล้ว ส่งผลให้ในระยะสั้นนั้นราคาอาจมีการพักตัวได้ โดยอาจย่อมาได้ถึงบริเวณ $85,000 อย่างไรก็ตาม มุมมองขาลงของ $BTC นั้นยังไม่เด่นชัดทั้งจากสัญญาณกลับตัวและจากแท่งเทียนเองก็ตาม ทำให้ในช่วงสัปดาห์ข้างหน้านี้ราคาอาจมีการ Sideway ออกไปก่อน
แนวต้าน : $92,000 | $100,000 | $110,000
แนวรับ : $85,000 | $78,000 | $73,000
$ETH ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีการย่อตัวลงมาบริเวณ $3,000 โดยในภาพรวมแล้วยังคงเป็นขาขึ้นอยู่ ต้องจับตาดูว่าในช่วงข้างหน้านั้นจะมีการทำแท่งเทียน Lower Low หรือ Lower High หรือไม่ ซึ่งอาจส่งผลให้ $ETH นั้น Sideway ออกไปก่อนได้ อย่างไรก็ตามในกรณีที่แท่งเทียนสามารถขึ้นไปทำ High เหนือ $3,350 ได้ก็จะเป็นสัญญาณขาขึ้นต่อที่ดีของ $ETH ต่อไปในช่วงข้างหน้านี้
แนวต้าน : $3,200 | $3,450 | $3,700
แนวรับ : $3,000 | $2,780 | $2,500
ตลาดกำลังมองเห็นโอกาสของเกิด Soft landing ของเศรษฐกิจสหรัฐหลังจากการลดดอกเบี้ยของ FED ทำให้ตลาดเริ่มเปิดความเสี่ยงมากขึ้น ขณะที่ Bitcoin Dominance ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงมากกว่า 50% ผนวกกับการมาของ Ethereum และ Bitcoin spot ETF / Options และมุมมองเชิงบวกมากๆต่อตลาดคริปโทโดยโดนัล ทรัมป์ และเมื่อพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจที่ผันผวนในสัปดาห์นี้ จึงแนะนำให้นักลงทุนถือสัดส่วนของ Bitcoin เอาไว้เพื่อลด Drawdown โดยรวมของพอร์ต และเพิ่มสัดส่วนของ Ethereum ในพอร์ตเพิ่มขึ้น บวกกับถือสัดส่วนของ Altcoins ที่มีพื้นฐานที่ดีรับสัญญาณของ Altcoins season และเก็บ Stablecoin ที่เป็น USD เพื่อใช้เป็นไม้สำรอง
Disclaimer