August 21, 2024
หมายเหตุ : บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นในทุกวันจันทร์ ดังนั้นบทความบางส่วนอาจจะมีความคลาดเคลื่อนของข้อมูลได้
WEEKLY TONE : BUY WEEK
สำหรับสัปดาห์ในกลางเดือน สิงหาคม นั้นไม่ได้มีตัวเลขทางเศรษฐกิจออกมา แต่จะมีการประชุมอย่าง FOMC Meeting Minutes และมีการแถลงการณ์จาก Jerome Powell อีกด้วยจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ผ่านก็สามารถทำให้คาดการณ์ได้ว่า FED นั้นจะลดดอกเบี้ยลงเหลือ 5.00%-5.25% ในเดือน กันยายน เป็นอย่างแน่ แต่ด้วยการที่ในปีนี้ FED นั้นจะลดอัตราดอกเบี้ยทีละ 0.25% หรือ 0.5% ต่อครั้ง ก็ยังไม่สามารถตอบคำถามตรงนี้ได้ แต่ในกรณีที่ดีที่สุดนั้น FED ควรที่จะลดที่ละ 0.25% เพื่อให้ตลาดสินทรัพย์ทางเลือกนั้นไม่ได้มีความกังวลสูง อีกทั้งการลดอัตราดอกเบี้ยถึง 0.5% ในครั้งเดียวอาจแสดงถึงเศรษฐกิจของสหัรฐฯ มีการถดถอยและจะสร้างผลเสียให้กับตลาดคริปโทฯ การประกาศตัวชี้วัดอย่าง Flash Manufacturing PMI และ Flash Service PMI ที่มีแนวโน้มว่าตัวเลขจะออกมาค่อยข้างที่จะเหมือนเดิมทำให้เห็นได้ว่าทั้งภาคผลิตและภาคบริการนั้นยังคงทรงตัวอยู่ ไม่มีการขยายตัวหรือหดตัวอย่างชัดเจน และยังสามารถบ่งบอกถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจได้อีกด้วย ฉะนั้นในอาทิตย์นี้ ตลาดคริปโทฯ จะมีความผันผวนจากการที่ Jerome Powell ได้ออกมาพูดมุมมองทางเศรษฐกิจ นักลงทุนจึงควรรอดูความผันผวนด้านราคาก่อนทำการเข้าลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกต่าง ๆ
บันทึกการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เป็นบันทึกโดยละเอียดเกี่ยวกับการประชุมกำหนดนโยบายของคณะกรรมการที่ได้จัดประชุมขึ้นสามสัปดาห์ก่อนหน้านั้น บันทึกการประชุมนี้จะให้ข้อมูลเจาะลึกที่ละเอียดเกี่ยวกับความคิดเห็นของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐเกี่ยวกับนโยบายการเงิน
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การประชุม FOMC Meeting Minutes นั้นเป็นการประชุมที่จะส่งผลสำคัญต่อการตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยของ FED และด้วยสถานการณ์ตอนนี้ที่แรงความคาดหวังของตลาดได้คาดว่า FED จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยลงถึง 2 ครั้งในปีนี้ โดยครั้งเเรกจะลดลงเหลือ 5.00%-5.25% ในเดือน กันยายน และหลังจากนี้อาจมีการลดอัตราดอกเบี้ยลงแต่ยังไม่มีความแน่ใจอย่างชัดเจนว่าจะลดในเดือนไหน
Initial Jobless Claims หรือ Unemployment Claims คือจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนค่าใช้จ่ายของรัฐได้ชัดกว่าอัตราการว่างงาน เพราะยิ่งตัวเลขนี้สูงขึ้นนั่นหมายความว่าค่าใช้จ่ายของภาครัฐ หรือ Government Expenditure ถูกใช้ไปในการช่วยเหลือกลุ่มคนว่างงานมากขึ้น เศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะหดตัว และยังแสดงให้เห็นถึงช่องว่างความเหลื่อมล้ำในประเทศอีกด้วย โดยตัวเลขนี้จะมีประกาศทุก ๆ วันพฤหัสบดี
คาดการณ์จาก: Tradingeconomic: Initial Jobless Claims มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจาก 227K เป็น 240K
ตีความอย่างไรต่อตลาด
ด้วยการที่ Initial Jobless Claims มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นถึงตัวเลขของผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการคนว่างงานจากรัฐบาลเพิ่มขึ้น ซึ่งบ่งบอกถึงการที่มีคนตกงานเพิ่มมากขึ้นในช่วงเวลา 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเพียงนิดหน่อยและเพิ่มขึ้นโดยไม่มีนัยสำคัญอาจไม่ส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจ
Flash Manufacturing Purchasing Manager Index (PMI) เป็นค่าประมาณของการผลิตสำหรับประเทศหนึ่ง ๆ โดยอิงจาก การตอบแบบสำรวจของดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ หรือ PMI ทั้งหมดประมาณ 85% ถึง 90% ใน แต่ละเดือน
คาดการณ์จาก Forexfactory: Flash Manufacturing PMI มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจาก 49.6 เป็น 49.8
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยของ Flash Manufacturing PMI เพียงเล็กน้อย และยังไม่ได้ข้าม 50 นั้นแสดงถึงการที่ขยายตัวของเศรษฐฏิจเล็กน้อยในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่โดยรวมการที่ตัวเลขยังไม่ข้าม 50 ก็ยังแสดงถึงเศรษฐกิจที่ยังภาคการผลิตยังต้องเจอกับความท้าทายและยังอยู่ในภาวะที่เศรษฐกิจยังหดตัวอยู่
Key Event ที่น่าสนใจที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์และอาจจะทำให้เกิดความผันผวนกับสินทรัพย์ดิจิทัล
20 สิงหาคม
ในส่วนของ Funding rate สำหรับอาทิตย์นี้ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ แสดงถึงมุมมองของนักลงทุนต่อตลาดที่ยังคงเป็นเชิงลบ และมีการเปิดสถานะชอร์ตที่มากขึ้น อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรจับตามอง Funding rate ของ Altcoins ที่หากติดลบมาก อาจทำให้เกิด Short squeeze ในอนาคตได้
ในฝั่งของ Bitcoin Open Interest หลังจากการล้าง Liquidation ครั้งใหญ่ที่ผ่านมา มีการปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย บ่งบอกถึงการเปิดความเสี่ยงของนักลงทุนที่ทะยอยเพิ่มขึ้นมา แต่ก็ยังมีสัดส่วนที่น้อย สามารถตีความได้ว่า นักลงทุนอาจเฝ้ารอปัจจัยบางอย่างเพื่อความแน่ชัด ก่อนที่จะกลับมาเปิดความเสี่ยงอีกครั้ง
ในส่วนของ Bitcoin ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีกระแสเงินไหลเข้าจาก Spot Bitcoin ETFs รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 32.4 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นแรงซื้อจาก IBIT และ FBTC เพียงเล็กน้อย ประกอบกับการเทขายของ GBTC อย่างต่อเนื่อง ทำให้กลายเป็นแรงซื้อสุทธิในปริมาณเล็กน้อยเท่านั้น
ในส่วนของ Ethereum ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีกระแสเงินไหลออกทั้งสิ้น 14.1 ล้านเหรียญ แรงซื้อส่วนใหญ่มาจาก ETHA และ FETH กว่า 102 ล้านเหรียญ แต่ไม่สามารถเอาชนะแรงเทขายจาก ETHE ได้ ทำให้กระแสเงินสุทธิเป็นลบ
หลังจากการขึ้นไปทำจุดสูงสุดของราคา Bitcoin ในเดือนมีนาคม 2024 ได้มีนักลงทุนบางส่วนตัดสินใจเทขาย เนื่องจากเป็นสภาพตลาดที่นักลงทุนทุกคนต่างก็กำไรกันหมด ประกอบกับความกังวลในเรื่องเศรษฐศาสตร์มหภาค ทำให้เกิดเป็นแรงเทขายและ Drawdown ขนาดใหญ่ขึ้นในไตรมาสที่ 2 และต้นไตรมาส 3
จากข้อมูล Long-Term Holders Supply หรือปริมาณเหรียญที่ถือครองโดยนักลงทุนระยะยาว จะสังเกตได้ว่า หลังจากราคาขึ้นไปทำจุดสูงสุด ก็มีแรงเทขายออกมากว่า 945k BTC แต่เมื่อแรงเทขายเหล่านั้นเบาบางลง ทำให้เกิดเทรนด์การเข้าสะสม Bitcoin ของนักลงทุนกลุ่มนี้ขึ้นกว่า 374k BTC ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
หากพิจารณาข้อมูล HODL Waves หรือข้อมูลกระเป๋าที่ถือ Bitcoin แบ่งตามอายุ จะสังเกตได้ว่า ราคาของ Bitcoin จะพุ่งอย่างรุนแรงจากการเข้ามาของนักลงทุนหน้าใหม่ ทำให้จำนวนกระเป๋าที่มีการถือระยะยาวมีสัดส่วนลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลในอดีต การที่จำนวนกระเป๋าที่ถือระยะยาวลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ อาจบ่งบอกได้ถึง Cycle top แล้ว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันอัตราส่วนนี้ยังถือว่าอยู่ในระดับสูงและมีพื้นที่ในการเข้ามาของนักลงทุนหน้าใหม่อีกมาก ถึงแม้ว่าสภาพตลาดคริปโตเคอร์เรนซีในปัจจุบันจะยังไม่ดีมากนัก แต่ก็มีนักลงทุนระยะยาวจำนวนหนึ่งที่ยังคงเชื่อมั่น และมองวิกฤตให้เป็นโอกาสในการเก็บสะสม
$BTC นั้นสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่ได้มีการเคลื่อนที่รุนแรงมากนักโดยราคายังคง Sideway อยู่ที่บริเวณ $57,000 - $60,000 ในระยะสั้นข้างหน้าราคานั้นอาจจะยังคง Sideway ออกไปก่อนเพื่อสร้างชุดสะสมของราคาก่อนที่จะเกิดการ Breakout หากราคาเกิดการ Breakout ด้านบนและราคาขึ้นไปเกิน $60,000 ได้จะเป็น Momentum ที่ดีและมีโอกาสที่ $BTC นั้นจะขึ้นต่อได้สูง อย่างไรก็ตามหากราคามีการปิดต่ำกว่า $56,500 มีแนวโน้มสูงว่า $BTC จะเป็นขาลงและอาจย่อทะลุแนวรับ $52,000 ได้
แนวต้าน : $61,000 | $67,000 | $73,500
แนวรับ : $56,500 | $52,500 | $48,000
$ETH ในช่วงที่ผ่านมานั้นก็มีการ Sideway ออกข้างเช่นกันโดยกรอบราคาปัจจุบันจะอยู่ระหว่าง $2,550 - $2,750 จุดสำคัญที่ต้องจับตามองคือการ Breakout จากกรอบ Sideway บริเวณนี้ เพราะอาจทำให้ราคาขยับตัวรุนแรงได้ ในระยะสั้นยังมีแนวโน้มที่ $ETH จะย่อตัวไปถึงแนวรับ $2,400 อีกครั้ง เป็นการสร้าง Double Bottom เพื่อสร้างสัญญาณกลับตัวที่ชัดเจนขึ้นสำหรับการขึ้นต่อในอนาคต
แนวต้าน : $2,870 | $3,350 | $3,700
แนวรับ : $2,400 | $2,125 | $1,870
“มีความเป็นไปได้สูง” ของการลดดอกเบี้ยของ FED จะมาถึงในเดือนกันยายน และ Bitcoin Dominance ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงมากกว่า 50% และการมาของ Ethereum spot ETF และมุมมองเชิงบวกมากๆต่อตลาดคริปโทในสหรัฐในเชิงการเมืองที่อาจจะเห็นภาพชัดเจนในไตรมาสที่ 4 และเมื่อพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจที่ผันผวนในสัปดาห์นี้ จึงแนะนำให้นักลงทุนถือสัดส่วนของ Bitcoin เอาไว้เพื่อลด Drawdown โดยรวมของพอร์ต และเพิ่มสัดส่วนของ Ethereum ในพอร์ตเพิ่มขึ้น บวกกับถือสัดส่วนของ Altcoins ที่มีพื้นฐานที่ดีรับสัญญาณของ Altcoins season และเก็บ Stablecoin ที่เป็น USD เพื่อใช้เป็นไม้สำรอง
BITCOIN 40%
SELECTIVE ALTCOINS (ETH, LAYER 2 ,LSD) 40%
STABLECOIN 20%
Disclaimer