Merkle Weekly Snapshot 23th - 26th July 2024

July 24, 2024

thumbnail

Merkle Weekly Snapshot

 

23th - 26th July 2024

 

บทวิเคราะห์มุมมองการลงทุนในสัปดาห์นี้

 


 

หมายเหตุ : บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นในทุกวันจันทร์ ดังนั้นบทความบางส่วนอาจจะมีความคลาดเคลื่อนของข้อมูลได้

 

MACROECONOMICS

 

Key Takeaways

  • GDP Advance Growth Rate QoQ มีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 1.4% เป็น 2.5%
  • Core PCE Price Index MoM มีแนวโน้มที่จะคงที่เท่าเดิมที่ 0.1%
  • Personal Income MoM มีแนวโน้มที่จะลดลงจาก 0.5% เป็น 0.3%
  • Personal Spending MoM มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจาก 0.2% เป็น 0.3%
  • Durable Goods Orders MoM มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจาก 0.1% เป็น 0.3%

 

WEEKLY TONE: BUY WEEK

 

  สัปดาห์สุดท้ายของเดือน กรกฎาคม มีการประกาศของ GDP Advance Growth Rate MoM ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญในของ GDP ก่อนการประกาศตัวเลข GDP จริง ตัวเลขนั้นได้มีการประมาณการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นพอสมควรสะท้อนให้เห็นถึงเศรษฐกิจที่ดีขึ้นมาอย่างชัดเจน Core PCE มีแนวโน้มที่จะเท่าเดิม Personal Income มีแนวโน้มที่จะลดลง Personal Spending มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และ Durable Goods Orders มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเช่นเดียวกัน แสดงให้เห็นถึงการที่ฝั่งผู้บริโภคนั้นมีรายได้ที่ลดลงจากเดือนก่อนหน้า อีกทั้งการที่ Core PCE เท่าเดิมยังแสดงให้เห็นถึงการที่ผู้บริโภคนั้นไม่ได้ใช้จ่ายเยอะกว่าเดือนก่อนหน้าอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ในภาคธุรกิจ มีการขยับตัวเล็กน้อย และได้ซื้อสินค้าคงทนเข้ามาเสริมในภาคธุรกิจอีกด้วย และปัจจัยทั้งหมดสามารถส่งผลให้ FED นั้นอาจมีการลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ 1-2 ครั้ง และการที่มีการคาดการณ์ว่า FED จะลดดอกเบี้ยในปีนี้ทำให้ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลหรือ Cryotocurrency ได้รับผลพลอยได้ไปได้ โดยจากการคาดการณ์แล้ว FED จะลดดอกเบี้ยลงในเดือน กันยายน หลังจากนั้นเราอาจได้เห็นตลาดคริปโตฯ ที่เข้าสู่ช่วงตลาดกระทิงแล้วก็เป็นได้

 


 

Important Economic Data this week :

 

1. GDP Advance Growth Rate QoQ

 

  GDP หรือ Gross Domestic Product คือ มูลค่าตลาดของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายที่ผลิตในประเทศในช่วงเวลาหนึ่งๆ โดยไม่คำนึงว่าผลผลิตนั้นจะเป็นผลผลิตที่ได้จากทรัพยากรภายในหรือภายนอกประเทศ และ Advance GDP หมายถึง การประมาณการของ GDP โดยอิงจากข้อมูลที่ต้นฉบับที่ยังไม่สมบูรณ์และตัวข้อมูลนั้นอาจได้รับการแก้ไข

 

คาดการณ์จาก Tradingeconomic: GDP Advance Growth Rate มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจาก 1.4% เป็น 2.5%

 

Source : https://tradingeconomics.com/united-states/gdp-growth

 

การคาดการณ์

  การที่ Advance GDP เพิ่มขึ้นนั้นสามารถตีความได้หลากหลายรูปแบบ แน่นอนว่าการเพิ่มขึ้นคือการที่ผู้บริโภคใช้จ่ายมากขึ้น การลงทุนในภาคเอกชนเพิ่มขึ้น และการส่งออกเพิ่มมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของ Advance GDP อาจแสดงถึงความเหลื่อมล้ำในสังคมของประเทศ แม้ว่าเศรษฐกิจจะเติบโต แต่ผู้คนบางกลุ่มก็ไม่ได้รับผลประโยชน์จากการเติบโตนั้น

 

2. Core PCE Price Index MoM

 

  Core PCE หรือ Core Personal Consumption Expenditure คือ รายงานดัชนีราคาจากรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล จะวัดค่าการเปลี่ยนแปลงในราคาของสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคได้สั่งซื้อเพื่อการบริโภคซึ่งไม่รวมถึงสินค้าประเภทอาหารและพลังงาน โดยได้กำหนดราคาตามรายจ่ายทั้งหมดต่อรายการสินค้า ดัชนีนี้จะวัดค่าการเปลี่ยนแปลงราคาจากมุมมองของผู้บริโภค เป็นวิถีทางสำคัญที่จะวัดค่าการเปลี่ยนแปลงในแนวโน้มการสั่งซื้อและภาวะเงินเฟ้อ

 

คาดการณ์จาก Tradingeconomic: Core PCE มีแนวโน้มที่จะคงที่เท่าเดิมที่ 0.1%

 

Source : https://tradingeconomics.com/united-states/core-pce-price-index-mom

 

ตีความอย่างไรต่อตลาด

 การที่ Core PCE เท่าเดิมนั้นแสดงให้เห็นถึงฝั่งแรงงานที่ประชากรนั้นมีการว่างงานอยู่และยังไม่มีเงินเพื่อใช้จ่ายมากกว่าเดิม ผู้บริโภคเลยไม่กล้าใช้จ่ายมากเท่าที่ควร และในขณะที่อัตราดอกเบี้ยนั้นสูง ผู้คนจึงไม่กล้ากู้ยืมเงินจากธนาคาร เพราะดอกเบี้ยที่ต้องชำระก็จะสูงเช่นเดียวกัน การที่ Core PCE นั้นคงที่เท่ากับเดือนก่อนหน้ายังสามารถกดดันต่อ FED ให้มีการลดดอกเบี้ยอีกด้วย

 

3. Durable Goods Orders

 

  รายงานยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน หรือ Durable Goods Orders จะวัดค่าการเปลี่ยนแปลงในมูลค่าทั้งหมดของคำสั่งซื้อใหม่ในสินค้าคงทนที่รวมถึงสินค้าสำหรับการขนส่ง

 

คาดการณ์จาก Tradingeconomic : Durable Goods Orders มีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นจาก 0.1% เป็น 0.3%

 

Source :https://tradingeconomics.com/united-states/durable-goods-orders

 

ตีความอย่างไรต่อตลาด

  การเพิ่มขึ้นของ Durable Goods Orders แสดงให้เห็นถึงการที่ฝั่งภาคการผลิตได้ขยายตัว ในธุรกิจมีการซื้อสินค้าคงทนเพิ่มมากขึ้นและการลงทุนในภาคธุรกิจเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน ยังแสดงให้เห็นถึงการที่ภาคธุรกิจนั้นมีความมั่นใจว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นในอนาคต

 


 

CRYPTOCURRENCY EVENT THIS WEEK

Credit from LayerGG

 

Key Event ที่น่าสนใจที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์และอาจจะทำให้เกิดความผันผวนกับสินทรัพย์ดิจิทัล

 

    24 กรกฎาคม

  • $WLD - เริ่มปลดล็อค $14.04M ต่อวัน เป็นเวลา 729 วัน
  •  

    25 กรกฎาคม

  • $ALT - ปลดล็อค $115M
  • $ILV - เปิดตัว beta Mainnet
  •  

    27 กรกฎาคม

  • Donald Trump ขึ้นพูดที่เวที Bitcoin Conference
  •  

    Weekly Crypto Must Watch

     

    Source : https://www.coinglass.com/FundingRateHeatMap

     

    ในส่วนของ Funding rate สำหรับอาทิตย์นี้มีการปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่ภาพรวมยังคงถือว่าต่ำกว่าปกติ ซึ่งแสดงถึงมุมมองของตลาดในเชิงบวกขึ้นเล็กน้อยในระยะสั้น แต่โดยรวมสภาพตลาดยังคงแย่กว่าช่วงไตรมาส 1

     

    Source : https://www.coinglass.com/BitcoinOpenInterest

     

    ในฝั่งของ Open Interest ปริมาณเงินเพิ่มขึ้นมากจนเทียบเท่ากับระดับ All Time High ช่วงเดือนมีนาคม แสดงถึงการเก็งกำไรและความมั่นใจของนักลงทุนที่จะเปิดสถานะมากขึ้น

     

    Source : https://farside.co.uk/?p=997

     

     ในส่วนของ Bitcoin ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีกระแสเงินไหลเข้าจาก Spot Bitcoin ETFs รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 1,241.1 ล้านเหรียญ ซึ่งแรงซื้อส่วนใหญ่มาจาก IBIT และ FBTC ในขณะที่ GBTC มีแรงเทขายที่น้อยกว่าปกติ นับว่ามีแรงซื้อสุทธิในปริมาณมาก จนทำให้ราคาของ bitcoin กลับตัวเป็นขาขึ้น

     

    Ethereum Insights

     

      เมื่อเปรียบเทียบผลตอบแทนของ $BTC, $ETH, $BNB และ $SOL เหรียญ 4 อันดับแรกตามมูลค่าตลาดในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา จะสังเกตได้ว่า Ethereum เป็นเหรียญที่ Underperform ที่สุด ถึงแม้จะมีการพัฒนามากมาย ไม่ว่าจะเป็น L2 หรือการ Restake แต่ทำไมยังให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าเหรียญอื่น

     

     

      ข้อมูล On-chain แสดงให้เห็นว่า ความสนใจต่อนักลงทุนที่มีต่อ Ethereum ยังต่ำ อย่าง Volume เงินเข้าออกจากกระดานเทรดของ Ethereum นั้นค่อนข้างต่ำ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงพีคของ Cycle ที่แล้ว Volume นี้มีปริมาณที่เกือบเทียบเท่า Bitcoin เลยทีเดียว สามารถตีความได้ว่า นักลงทุนยังไม่ได้ให้ความสนใจกับ Ethereum มากนัก และยังมี Upside ที่สามารถไปต่อได้

     

    Source : https://insights.glassnode.com/the-week-onchain-week-29-2024/

     

      นอกจากนี้ เมื่อดูในระยะสั้น จะสังเกตได้ว่า Option Open Interest ของ Ethereum ลดลงไปมากกว่า 50% จากจุดพีคเมื่อเดือนมีนาคม และยังไม่มีแนวโน้มการฟื้นตัวเหมือน Bitcoin แสดงถึงแรงเก็งกำไรและความสนใจของนักลงทุนใน Ethereum ที่ยังค่อนข้างต่ำ อาจเป็นจุดเข้าสะสมที่ดี

     

    Source : https://studio.glassnode.com/metrics?a=ETH&category=Derivatives&m=derivatives.OptionsOpenInterestSum

     

      บวกกับการอนุมัติ Spot Ethereum ETF อย่างเป็นทางการของ SEC ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 อาจเป็นการเปิดประตูให้กับนักลงทุนสถาบันที่ต้องการเข้ามากระจายความเสี่ยงและแบ่งสัดส่วนมายังคริปโตเคอร์เรนซี โดยมีการคาดการณ์จากนักวิเคราะห์หลายเจ้า ว่ายอด Inflow อาจสูงถึง $1B ต่อเดือน ซึ่งเป็นการคำนวณจากการเทียบมูลค่าตลาดกับ Bitcoin

     

    Source : https://x.com/asxn_r/status/1814384403105362132/photo/2

     

      การไหลเข้าของเม็ดเงินจากนักลงทุนสถาบัน ประกอบกับปัจจัยเรื่องของอุปทานที่หมุนเวียนในตลาดของ Ethereum ที่มีน้อยกว่า Bitcoin เพราะมีนักลงทุนจำนวนหนึ่งนำไป stake ไว้ ทำให้อาจส่งผลกระทบกับราคาของ Ethereum ได้มากกว่านั่นเอง

     


     

    WEEKLY TECHNICAL ANALYSIS

    by Cryptomind Advisory

     

    BTC/USDT

     

     $BTC มีการทำขาขึ้นมาถึงบริเวณแนวต้าน $67,000 อีกครั้งหนึ่ง โดยในช่วงข้างหน้าหากราคาสามารถยืนอยู่ในบริเวณ $66,000 - $67,000 ได้ $BTC ก็จะมีโอกาสขึ้นไปต่อได้ อย่างไรก็ตามหาก ราคามีการลดต่ำลงหรือไม่สามารถยืนราคาอยู่บริเวณนี้ได้ ราคาก็มีโอกาสที่จะลดต่ำลงหรือ Sideway ออกไปก่อนในช่วงเวลาข้างหน้า

     

    แนวต้าน: $67,000 | $73,000 | $76,500

    แนวรับ: $61,000 | $56,500 | $52,000

     

    ETH/USDT

     

      ในช่วงสัปดาห์ข้างหน้าของ $ETH ถ้าหากราคาสามารถยืนอยู่เหนือแนวรับ $3,350 ได้ ก็มีโอกาสที่จะขึ้นไปถึง $3,700 หรือ Breakout จากกรอบ Descending Triangle ได้ ซึ่งถ้าหากมีการออกจากกรอบจริง จะทำให้ราคานั้นมีโอกาสขึ้นไปเกิน $4,000 ได้เลย อย่างไรก็ตามหากราคานั้นมีการหลุดกลับลงมาต่ำกว่า $3,350 ก็จะทำให้ $ETH ในช่วงข้างหน้านั้นอาจจะ Sideway Down ออกไปก่อน

     

    แนวต้าน: $3,700 | $4,020 | $4,470

    แนวรับ: $3,350 | $2,870 | $2,400

     


     

    ASSET ALLOCATION

    by Cryptomind Advisory

     

      "มีความเป็นไปได้สูง" ของการลดดอกเบี้ยของ FED จะมาถึงในเดือนกันยายน และ Bitcoin Dominance ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงมากกว่า 50% และการมาของ Ethereum spot ETF และมุมมองเชิงบวกมากๆต่อตลาดคริปโทในสหรัฐในเชิงการเมืองที่อาจจะเห็นภาพชัดเจนในไตรมาสที่ 4 และเมื่อพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจที่ผันผวนในสัปดาห์นี้ จึงแนะนำให้นักลงทุนถือสัดส่วนของ Bitcoin เอาไว้เพื่อลด Drawdown โดยรวมของพอร์ต และเพิ่มสัดส่วนของ Ethereum ในพอร์ตเพิ่มขึ้น บวกกับถือสัดส่วนของ Altcoins ที่มีพื้นฐานที่ดีรับสัญญาณของ Altcoins season และเก็บ Stablecoin ที่เป็น USD เพื่อใช้เป็นไม้สำรอง

     

    BITCOIN 40%
    SELECTIVE ALTCOINS (ETH, LAYER 2 ,LSD) 40%
    STABLECOIN 20%

     

    คริปโทเคอร์เรนซีมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน

     

    ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต

เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

Merkle Capital คือผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกในประเทศไทย ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานก.ล.ต. บริษัทให้การดูแลและบริหารเงินลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลแก่ลูกค้าด้วยกลยุทธ์ที่หลากหลายโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนและการบริหารจัดการ