August 28, 2024
หมายเหตุ : บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นในทุกวันจันทร์ ดังนั้นบทความบางส่วนอาจจะมีความคลาดเคลื่อนของข้อมูลได้
WEEKLY TONE : BUY WEEK
สำหรับสัปดาห์นี้มีตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญออกมาเยอะพอสมควร อย่างแรก Durable Goods Orders ที่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นแสดงให้เห็นถึงการที่ผู้บริโภคนั้นซื้อสินค้าคงทนเพิ่มมากขึ้น Prelim GDP ที่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน Core PCE ที่มีแนวโน้มว่าที่คงที่เท่าเดิม แสดงให้เห็นถึงการที่อัตราเงินเฟ้อนั้นไม่ได้เติบโตไปมากกว่านี้ และยังสามารถมองเป็นผลบวกได้ว่า FED จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยลงเร็วนี้ๆ Personal Income มีแนวโน้มที่จะคงที่ และ Personal Spending มีแนวโน้มที่จะลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น สำหรับภาพของตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอย่างคริปโทฯ ในอาทิตย์นี้มีหลายตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สามารถสร้างความผันผวนให้กับตลาดคริปโทฯ ได้ บวกกับการที่ประธาน FED หรือ Jerome Powell ได้มีการออกมาให้สัญญาณแล้วว่า FED จะลดดอกเบี้ยลงในเดือน กันยายน อย่างแน่นอน จึงเป็นอีกหนึ่งจุดที่สามารถเข้าซื้อได้ แต่ควรที่จะมีการสำรองเงินสดไว้เผื่อในกรณีต้องทำการซื้ออีกหนึ่้งไม้
Durable Goods Orders คือยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน เป็นดัชนีชี้วัดถึงกิจกรรมการผลิตที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยจะเป็นตัววัดปริมาณของการสั่งสินค้า การส่งสินค้าโดยจะเป็นตัววัดถึงภาคการผลิตซึ่งหากว่าเศรษฐกิจมีปัญหาจะส่งผลให้ปริมาณการสั่งสินค้าลดลง
คาดการณ์จาก Tradingeconomic: Durable Goods Orders มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจาก -6.6% เป็น -0.3%
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การมีแนวโน้มที่จะกลับตัวของยอดซื้อสินค้าคงทนที่ -6.6% เป็น -0.3% แสดงให้เห็นการที่ผู้บริโภคเริ่มมีการนำเงินออกมาใช้จ่ายในสินค้าคงทน เช่น รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และถือว่าเป็นหนึ่งสัญญาณบวกของเศรษฐกิจอีกด้วย เพราะผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นเลยซื้อสินค้าคงทนเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
เบื้องต้นของอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เป็นตัวบ่งชี้สำคัญของสุขภาพเศรษฐกิจ แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจกำลังขยายตัว หดตัว หรือคงที่
คาดการณ์จาก: Tradingeconomic: Prelim GDP QoQ มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจาก 1.4% เป็น 2.8%
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นของ Prelim GDP แสดงให้เห็นถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างชัดเจน ผู้บริโภคมีการใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้น การลงทุนในธุรกิจที่เพิ่มขึ้น การมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นของ Prelim GDP จึงเป็นดาบสองคม หากมีการเพิ่มขึ้นที่มากเกินไป อาจจะทำให้ FED คงอัตราดอกเบี้ยไว้ หรือลดอัตราดอกเบี้ยในจำนวนที่น้อยลง
Core PCE Price Index (Personal Consumption Expenditures Price Index) คือดัชนีราคาที่ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงในระดับราคาของสินค้าและบริการที่บรรจุในการบริโภคของประชากรในสหรัฐอเมริกา โดยไม่รวมราคาของอสังหาริมทรัพย์ และค่าประกันสุขภาพ และราคาของสินค้า และบริการที่เป็นผลมาจากราคาของพลังงาน และอาหารที่มีความผันผวนมาก
คาดการณ์จาก Tradingeconomic: Core PCE MoM มีแนวโน้มที่จะคงที่ที่ 0.2%
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การที่ Core PCE มีแนวโน้มที่จะคงที่เท่าเดิมกับเดือนที่แล้ว หรือประมาณ 0.2% แสดงให้เห็นถึงการที่ผู้บริโภคไม่ได้บริโภคสินค้าและบริการไม่รวมด้านอาหารและพลังงาน และยังสามารถแสดงให้เห็นถึงการที่อัตราเงินเฟ้อได้ถูกควบคุมไว้แล้ว และสามารถนำไปสู่เศรษฐกิจที่ดีขึ้นได้
Key Event ที่น่าสนใจที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์และอาจจะทำให้เกิดความผันผวนกับสินทรัพย์ดิจิทัล
26 สิงหาคม
27 สิงหาคม
31 สิงหาคม
ในส่วนของ Funding rate สำหรับอาทิตย์นี้มีการปรับตัวขึ้นเป็นบวก แต่ยังคงถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปกติ แสดงถึงสภาพตลาดที่มีการฟื้นตัวเล็กน้อย และมุมมองของนักลงทุนที่เริ่มเป็นกลาง โดยมีการเปิดสถานะลองและชอร์ตในปริมาณใกล้เคียงกัน
ในฝั่งของ Bitcoin Open Interest มีการปรับตัวสูงขึ้น บ่งบอกว่านักลงทุนเริ่มมีการเปิดความเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งมาจากการพูดของ Jerome Powell ที่ Jackson Hole Symposium 2024 ทำให้ความมั่นใจของนักลงทุนในเศรษฐกิจภาพรวมกลับมา
ในส่วนของ Bitcoin ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีกระแสเงินไหลเข้าจาก Spot Bitcoin ETFs รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 506.4 ล้านเหรียญ ซึ่งแรงซื้อส่วนใหญ่มาจาก IBIT และ FBTC เป็นหลัก จนทำให้แรงซื้อสุทธิเป็นบวก แสดงถึงการเข้าสะสมของนักลงทุนสถาบันที่เห็นโอกาสในการ buy the dip
ในส่วนของ Ethereum ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีกระแสเงินไหลออกทั้งสิ้น 98.7 ล้านเหรียญ มาจากการที่แรงซื้อของ ETHA และ FETH ลดต่ำลง ประกอบกับแรงเทขายของ ETHE เรื่อยๆ ส่งผลให้เกิดเป็นเม็ดเงินไหลออก หากพิจารณาร่วมกับ Spot Bitcoin ETF จะสามารถตีความได้ว่า นักลงทุนสถาบันยังคงให้ความเชื่อมั่นกับ Bitcoin มากกว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ราคาร่วงอย่างรุนแรง แรงซื้อสะสมยังคงเข้าไปที่ Bitcoin เป็นหลักอยู่
ถึงแม้ว่าตลาดคริปโตเคอร์เรนซีหลังจากเดือนมีนาคมจะอยู่ในกรอบที่ค่อนข้างน่าเบื่อ ราคาไม่ได้มีการพุ่งไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างรุนแรง แต่เป็นการเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ Sideways down ส่วนนึงมาจากปัจจัยของ Macroeconomics ความกังวลที่จะเกิดเศรษฐกิจถดถอย ประกอบกับ Supply Overhang ที่มีการปลดหรือเทขายออกมา ไม่ว่าจะเป็นจากรัฐบาลเยอรมัน Mt.Gox หรือแม้แต่นักลงทุนระยะยาว
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาตัวเลขเม็ดเงินที่ไหลเข้ามาใน Bitcoin, Ethereum, Altcoins, และ Stablecoin จะเห็นได้ว่า ตัวเลขสุทธิยังคงเป็นบวก เพียงแต่สัดส่วนของเงินเหล่านั้น ไหลเข้า Bitcoin สูงกว่าเหรียญอื่นๆ ซึ่งมาจากปัจจัยการอนุมัติ Spot Bitcoin ETF ของ SEC ในเดือนมีนาคม 2024
หากสังเกตจาก Bitcoin Dominance จะเห็นได้ว่า มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน นับตั้งแต่จุดต่ำสุดในเดือนพฤศจิกายน 2022 ในขณะเดียวกันสัดส่วนของ Ethereum, Altcoins, และ Stablecoin กลับมีสัดส่วนที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด แสดงถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบันต่อสินทรัพย์อย่าง Bitcoin ที่สูงกว่าเหรียญอื่น ๆ
ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของ Bitcoin Dominance ทำให้เหรียญอื่นๆ Underperform โดยเฉพาะในตลาดปัจจุบัน ที่ไม่ได้มีสภาพคล่องหรือเม็ดเงินใหม่เข้ามามากนัก ส่งผลให้ไม่มี Demand เพียงพอสำหรับการรองรับเหรียญ Altcoins ที่จะมีการปลดล็อคมหาศาลในอนาคต ซึ่งเป็น Playbook ที่แตกต่างจาก Cycle ก่อน ทำให้กลยุทธ์การ Selective Buy เป็นกลยุทธ์สำคัญ
$BTC ในภาพใหญ่นั้นยังคง Sideway แต่ในระยะสั้นสามารถ Breakout จากกรอบชุดสะสมได้แล้ว มีการทำ Higher Higher Low ซึ่งเป็น Momentum ขาขึ้นที่ดีอีกด้วย ในช่วงข้างหน้านั้นอาจจะมีการลงมา Retest จุด Breakout ก่อนได้ที่บริเวณ $62,500 ก่อนที่ราคาจะขยับขึ้นต่อไป อย่างไรก็ตามในกรณีที่ราคานั้นลงต่ำกว่า $61,000 จะทำให้ Momentum กลับตัวและราคาขยับตัวลงต่อได้เช่นกัน
แนวต้าน : $67,000 | $73,500 | $76,500
แนวรับ : $61,000 | $56,500 | $52,500
ETH นั้นมีการขึ้นอยู่ในกรอบเป็น Rising Wedge ในระยะสั้นต้องดูว่าการ Breakout จากกรอบจะไปในทิศทางใด ถ้าลงราคาอาจจะย่อมาถึง $2,400 ได้อีกครั้ง แต่ถ้า Breakout ขึ้นได้ก็อาจจะไปถึงแนวต้าน $3,350 ได้ อย่างไรก็ตามการ Breakout ขึ้นด้านบนต้องผ่านแนวต้าน $2,870 ซึ่งเป็นแนวสำคัญจากการหลุดในภาพใหญ่ให้ได้ถึงจะมีโอกาสเป็น Momentum ขาขึ้น ถ้ายังติดแนวต้านนี้อยู่ในช่วงข้างหน้าก็อาจจะ Sideway Down ออกไปก่อน
แนวต้าน : $2,870 | $3,350 | $3,700
แนวรับ : $2,400 | $2,125 | $1,870
“มีความเป็นไปได้สูง” ของการลดดอกเบี้ยของ FED จะมาถึงในเดือนกันยายน และ Bitcoin Dominance ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงมากกว่า 50% และการมาของ Ethereum spot ETF และมุมมองเชิงบวกมากๆต่อตลาดคริปโทในสหรัฐในเชิงการเมืองที่อาจจะเห็นภาพชัดเจนในไตรมาสที่ 4 และเมื่อพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจที่ผันผวนในสัปดาห์นี้ จึงแนะนำให้นักลงทุนถือสัดส่วนของ Bitcoin เอาไว้เพื่อลด Drawdown โดยรวมของพอร์ต และเพิ่มสัดส่วนของ Ethereum ในพอร์ตเพิ่มขึ้น บวกกับถือสัดส่วนของ Altcoins ที่มีพื้นฐานที่ดีรับสัญญาณของ Altcoins season และเก็บ Stablecoin ที่เป็น USD เพื่อใช้เป็นไม้สำรอง
BITCOIN 40%
SELECTIVE ALTCOINS (ETH, LAYER 2 ,LSD) 40%
STABLECOIN 20%
Disclaimer