ตุลาคม 29, 2024
หมายเหตุ : บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นในวันจันทร์ ดังนั้นบทความบางส่วนอาจจะมีความคลาดเคลื่อนของข้อมูลได้
WEEKLY TONE: BUY WEEK
สัปดาห์นี้ส่วนใหญ่มีตัวชี้วัดภาคแรงงานออกมาเยอะพอสมควร เริ่มต้นที่ JOLTs Job Opening ที่แสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจากการลดตัวลงของ JOLTs Job Opening แต่ด้วยมีตัวชี้วัดอย่าง Unemployment Rate ที่มีแนวโน้มว่าจะลดตัวลงเพียงนิดเดียว แสดงให้เห็นถึงการที่ตลาดแรงงานยังแข็งแกร่งอยู่ และ Core PCE Price Index ที่มีการคาดการณ์ว่าจะคงที่เท่าเดิม และมีโอกาสที่จะสร้างประโยชน์ต่อสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นและคริปโทฯ ได้ ฉะนั้นสัปดาห์ที่เป็นอีกหนึ่งสัปดาห์ที่มีโอกาสในการเปิดความเสี่ยงในฝั่งของคริปโทฯ และด้วยการที่มีวาฬหรือนักลงทุนรายใหญ่ที่คอยเข้าซื้อ Bitcoin และพยุงราคาไว้เรื่อย ๆ ทำให้ตรงนี้เป็นอีกจุดหนึ่งที่สามารถเปิดความเสี่ยงได้ทั้ง Bitcoin เหรียญ Market Cap ใหญ่ ๆ หรือ เหรียญจำพวก Altcoins ก็สามารถทำได้
ตัวเลขการสำรวจการจ้างงานทุกตำแหน่ง (ที่ยังว่างอยู่) ในทุกวันสุดท้ายของเดือน เป็นส่วนหนึ่งของการสำรวจ "Job Openings and Labor Turnover Survey (JOLTS)" การสำรวจนี้จะรวบรวมข้อมูลจาก 16,400 หน่วยงานนอกภาคเกษตรกรรม ซึ่งรวมถึงร้านค้า และ โรงงาน รวมถึงหน่วยงานรัฐบาลระดับกลาง ภาครัฐ และท้องถิ่นใน 50 รัฐ และ ดิสทริคต์ออฟคอลัมเบีย
คาดการณ์จาก Tradingeconomic: JOLTs Job Opening iมีแนวโน้มที่จะลดลง 8.04M เป็น 7.8M
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การคาดการณ์ในการลดตัวลงของ JOLTs Job Opening เป็นหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และในฐานะที่คริปโทฯ นั้นเป็นสินทรัพย์ที่เสี่ยงสูงกว่าหุ้น จึงมีโอกาสที่จะได้รับผลกระทบมาก
United States Core PCE Price Index (Personal Consumption Expenditures Price Index) คือดัชนีราคาที่ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงในระดับราคาของสินค้าและบริการที่บรรจุในการบริโภคของประชากรในสหรัฐอเมริกา โดยไม่รวมราคาของอสังหาริมทรัพย์ และค่าประกันสุขภาพ และราคาของสินค้า และบริการที่เป็นผลมาจากราคาของพลังงาน และอาหารที่มีความผันผวนมาก
คาดการณ์จาก Tradingeconomic: Core PCE มีแนวโน้มที่จะคงที่ที่ 0.1%
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การที่ Core PCE นั้นมีแนวโน้มที่จะคงที่เท่าเดิมแสดงให้เห็นถึงการลดความผันผวนของสินทรัพย์เสี่ยงต่าง ๆ และมีโอกาสที่สินทรัพย์เสี่ยงนั้นจะได้รับผลประโยชน์จากการคงที่ของ Core PCE อีกด้วย
Unemployment rate คือ อัตราการว่างงานเป็นสัดส่วนจากประชาการที่อยู่ในวัยทำงานทั้งหมด ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดถึงสภาพตลาดแรงงาน และสะท้องถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวม อัตราว่างงานที่สูงบ่งบอกถึงสภาวะเศรษฐกิจที่จะลอตัวลงหรือแม้กระทั้งหดตัวลง
คาดการณ์จาก Tradingeconomic: Unemployment Rate มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจาก 4.1% เป็น 4.2%
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การที่มีแนวโน้มที่จะลดลงเพียงนิดเดียวของอัตราการว่างงาน แสดงถึงตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งในระดับหนึ่ง โดยที่ตลาดคริปโทฯ จะได้รับประโยชน์ในทางอ้อม โดยที่นักลงทุนนั้นจะหันมาลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงสูงอย่างคริปโทฯ เพิ่มขึ้นนั้นเอง
Key Event ที่น่าสนใจที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์และอาจจะทำให้เกิดความผันผวนกับสินทรัพย์ดิจิทัล
30 ตุลาคม
31 ตุลาคม
1 พฤศจิกายน
ในส่วนของ Funding rate สำหรับอาทิตย์นี้ยังคงตัวเป็นบวก และถือว่าอยู่ในระดับปกติ บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาด โดยมีการเปิดสถานะลองมากกว่าสถานะชอร์ต แต่ไม่ได้มีความร้อนแรงมากจนเกินไป แสดงถึงช่องว่างของ Upside ที่ยังคงมีอยู่
ในฝั่งของ Bitcoin Open Interest มีการปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อย แต่ยังถือว่าอยู่ในระดับที่สูง แสดงถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ยังคงสูงอยู่ และมีการเปิดความเสี่ยงอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับ Sentiment ของตลาดที่ฟื้นตัวขึ้นมาในสัปดาห์ที่แล้ว ถึงแม้จะเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความ Bullish แต่ก็แสดงถึงปริมาณการใช้ Leverage ในตลาดที่สูงขึ้นด้วย และอาจจะส่งผลให้เกิดความผันผวนที่สูงขึ้นในอนาคต
ในส่วนของ Bitcoin ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีกระแสเงินไหลเข้าจาก Spot Bitcoin ETFs รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 997.6 ล้านเหรียญ ซึ่งนับว่าเป็นแรงซื้อมหาศาลจากนักลงทุนรายใหญ่ติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นในสินทรัพย์ และ Sentiment ของตลาดที่ฟื้นตัวอย่างรุนแรง ต้อนรับปัจจัยบวกอย่างการเลือกตั้งของสหรัฐอเมริกาในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน
ในส่วนของ Ethereum ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีกระแสเงินไหลออกทั้งสิ้น 24.6 ล้านเหรียญ ถือว่าเป็น Sentiment เชิงลบต่อ Ethereum เนื่องจากตลาดมีการฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด แต่นักลงทุนสถาบันยังไม่ได้มีการเข้าซื้ออย่างที่ตลาดคาดหวังในตอนต้น ส่งผลให้ช่วงที่ผ่านมา Ethereum มีการ Underperform เหรียญอื่นอย่างชัดเจน
หากสังเกต Bitcoin Dominance ที่มีการปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ จนปัจจุบันเกือบจะไปแตะ 60% ของมูลค่าตลาดคริปโตเคอร์เรนซีทั้งหมดแล้ว จะเห็นได้ว่า เม็ดเงินส่วนใหญ่ยังให้ความสนใจกับการซื้อ Bitcoin เป็นหลัก โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันที่มีการซื้อขายผ่าน Spot Bitcoin ETF กันอย่างแพร่หลาย ในขณะที่ Ethereum ยังไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ตลาดคาดหวัง Sentiment เหล่านี้ ทำให้การฟื้นตัวของตลาดในแต่ละครั้ง Bitcoin ก็ยังคงเป็นเหรียญที่ Outperform ตลาดอยู่นั่นเอง
อ้างอิงจากข้อมูลใน Cycle ก่อนๆ ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีจะมีทิศทางการไหลของเม็ดเงินจากเหรียญที่มีขนาดใหญ่อย่าง Bitcoin ไปยังเหรียญรองลงมาอย่าง Ethereum และถึงจะไหลเข้า Altcoin ที่มีมูลค่าตลาดเล็กลงมาในท้ายที่สุด อย่างไรก็ตาม Ethereum ยังคง Underperform Bitcoin อย่างต่อเนื่อง
แต่ใน Cycle ที่ผ่านมา Ethereum มีการสร้างจุดต่ำสุดหลังจากการลดอัตราดอกเบี้ยของ FED และทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของ Altcoin Season นั่นเอง ประกอบกับภาพที่ Bitcoin Dominance มักจะปรับตัวลดลงเมื่อสภาพคล่องของโลกมีการเพิ่มสูงขึ้น ก็จะสามารถอธิบายการไหลของเม็ดเงินเข้าสู่สินทรัพย์ที่มีมูลค่าตลาดที่น้อยกว่า ซึ่งการลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว ก็กำลังเกิดขึ้นกับหลายประเทศทั่วโลกในปัจจุบัน
เมื่อนำมูลค่าตลาดของ Altcoin มาเปรียบเทียบกับ Bitcoin จะสังเกตได้ว่า ปัจจุบัน Altcoin (เส้นสีเขียว) มีราคาที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับ Bitcoin และถึงแม้ว่าการบอกจุดต่ำสุดของกราฟจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็สามารถบอกได้ว่าเป็นจุดที่น่าเข้าสะสมแล้วนั่นเอง
$BTC มีสร้างชุดสะสมอยู่บนแนวรับ $67,000 ซึ่งหากราคานั้นทำ Higher High ตรงนี้ได้โดยขึ้นไปถึง $70,000 จะทำให้มีโอกาสทำ All-Time High ได้ในช่วงสัปดาห์ข้างหน้า อย่างไรก็ตามหากราคามีการลงมาปิดต่ำกว่าแนวดังกล่าวนั้นก็จะทำให้ BTC เสีย Momentum ขาขึ้น และอาจ Sideway หรือ Sideway Down ออกไปก่อนได้ในช่วงสัปดาห์ข้างหน้านี้
แนวต้าน : $73,000 | $76,500 | $82,500
แนวรับ : $67,000 | $60,500 | $57,500
$ETH นั้นปรับตัวลงมาค่อนข้างมากแต่อย่างไรก็ตามยังอยู่บน Trendline แนวรับได้ ซึ่งหากราคาไม่หลุดลงไปก็ยังมีโอกาสที่ $ETH จะทำราคาขึ้นต่อได้ แต่หากราคามีการปิดต่ำกว่าแนวดังกล่าวก็จะทำให้เป็น Momentum ขาลงของ $ETH ได้ในสัปดาห์ที่จะมาถึง โดยราคาอาจจะปรับตัวลงต่อได้
แนวต้าน : $2,700 | $2,870 | $3,300
แนวรับ : $2,350 | $2,150 | $1,870
ตลาดกำลังมองเห็นโอกาสของเกิด Soft landing ของเศรษฐกิจสหรัฐหลังจากการลดดอกเบี้ยของ FED ทำให้ตลาดเริ่มเปิดความเสี่ยงมากขึ้น ขณะที่ Bitcoin Dominance ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงมากกว่า 50% ผนวกกับการมาของ Ethereum และ Bitcoin spot ETF / Options และมุมมองเชิงบวกมากๆต่อตลาดคริปโทโดยรวม ในสหรัฐในเชิงการเมืองที่อาจจะเห็นภาพชัดเจนในไตรมาสที่ 4 และเมื่อพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจที่ผันผวนในสัปดาห์นี้ จึงแนะนำให้นักลงทุนถือสัดส่วนของ Bitcoin เอาไว้เพื่อลด Drawdown โดยรวมของพอร์ต และเพิ่มสัดส่วนของ Ethereum ในพอร์ตเพิ่มขึ้น บวกกับถือสัดส่วนของ Altcoins ที่มีพื้นฐานที่ดีรับสัญญาณของ Altcoins season และเก็บ Stablecoin ที่เป็น USD เพื่อใช้เป็นไม้สำรอง
Disclaimer