December 04, 2024
หมายเหตุ : บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นในทุกวันจันทร์
ดังนั้นบทความบางส่วนอาจจะมีความคลาดเคลื่อนของข้อมูลได้
WEEKLY TONE: BUY WEEK
ในสัปดาห์แรกของเดือนสุดท้ายในปีนี้ มีตัวชี้วัดด้านแรงงานเป็นหลัก ในส่วนของ JOLTs Job Opening ที่มีแนวโน้มว่าจะลดตัวลง แต่ด้วยการที่ไม่ได้ลดลงเยอะ อาจไม่มีส่วนสำคัญในการมีผลกระทบต่อสินทรัพย์เสี่ยง ในด้านของ ISM Manufacturing PMI และ ISM Services PMI ทั้งสองตัวนี้ถือว่าแสดงให้เห็นถึงเศรษฐกิจที่กำลังเติบโต แม้จะไม่ได้เติบโตเร็ว แต่เป็นการเติบโตที่ช้าและมั่นคง และส่วนสุดท้ายคืออัตราการว่างงานที่มีแนวโน้มที่จะคงที่เท่าเดิม ในด้านของตลาดคริปโทฯ ยังสามารถเปิดความเสี่ยงได้ทั้ง Bitcoin และ Altcoin แต่ด้วยผลตอบแทนของ Bitcoin อาจไม่สูงเท่าตัวอื่น ๆ เนื่องด้วย Bitcoin ได้มีการขยับตัวขึ้นมาเยอะพอสมควร ในขณะที่ Altcoin บางตัวยังไม่ได้มีการปรับตัวขึ้นมาสูงมาก ฉะนั้น ณ ตอนนี้ถือว่าเป็นเวลาที่ดีในการ Risk On และยังมี Upside ที่เป็นที่น่าพอใจ
ISM Manufacturing PMI คือตัวเลขการจัดซื้อและจัดจ้างในภาคการผลิตสินค้าต่างๆ จากการจัดทำการสำรวจสอบถามภาคธุรกิจการผลิตต่างๆ รวมถึง 300 บริษัททั่วประเทศเพื่อทราบถึงผลกระทบทางบวก และ ลบในภาคเศรษฐกิจ โดยดัชนีนี้จะประกอบไปด้วย คำสั่งซื้อใหม่ 30% การผลิต 25% แรงงาน 20% เวลาส่งมอบของผู้ผลิต 15% และสินค้าคงคลัง10% รวมถึงสินค้าคงคลังที่ซื้อมา 10%
คาดการณ์จาก Tradingeconomic: ISM Manufacturing PMI มีแนวโน้มที่จะเพิ่มจาก 46.5 เป็น 47.2
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การคาดการณ์การเพิ่มขึ้นของ ISM Manufacturing PMI แสดงให้เห็นถึงเศรษฐกิจที่กำลังโต แต่ไม่ได้เติบโจในอัตราที่รวดเร็ว ในด้านของการลงทุน ตัวชี้วัดนี้จะส่งผลสำคัญต่อหุ้นมากกว่าคริปโทฯ โดยเฉพาะในหุ้นของกลุ่มภาคการผลิตจะได้รับผลกระทบในเชิงบวกไปเต็ม ๆ อย่างไรก็ตามการคาดการณ์ว่าตัวชี้วัดนี้จะอยู่ที่ 47.2 ซึ่งไม่เกิน 50 การที่จะดีที่สุดสำหรับการลงทุนและเศรษฐกิจคือตัวชี้วัดนี้จะต้องมีค่ามากกว่า 50 นั้นเอง
ตัวเลขการสำรวจการจ้างงานทุกตำแหน่ง (ที่ยังว่างอยู่) ในทุกวันสุดท้ายของเดือน เป็นส่วนหนึ่งของการสำรวจ "Job Openings and Labor Turnover Survey (JOLTS)" การสำรวจนี้จะรวบรวมข้อมูลจาก 16,400 หน่วยงานนอกภาคเกษตรกรรม ซึ่งรวมถึงร้านค้า และ โรงงาน รวมถึงหน่วยงานรัฐบาลระดับกลาง ภาครัฐ และท้องถิ่นใน 50 รัฐ และ ดิสทริคต์ออฟคอลัมเบีย
คาดการณ์จาก Tradingeconomic: JOLTs Job Opening มีแนวโน้มที่จะลดลงจาก 7.443M เป็น 7.38M
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การคาดการณ์ในการลดตัวลงของ JOLTs Job Opening แสดงให้เห็นถึงโอกาสที่เศรษฐกิจจะชะลอตัวหรือขยับตัวช้าลง การลดตัวลงของตัวชี้วัดนี้ยังมีผลต่อการตัดสินใจในการลดอัตราดอกเบี้ยของ FED อีกด้วย ในฝั่งของตลาดคริปโทฯ ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน นักลงทุนระยะสั้นอาจขายสินทรัพย์เสี่ยงสูงเพื่อไปหาสินทรัพย์ปลอดภัยกว่านั้นเอง อีกทั้งเศรษฐกิจที่มีโอกาสชะลออาจทำให้เกิดการไม่มั่นใจในสินทรัพย์เสี่ยง
Unemployment rate คือ อัตราการว่างงานเป็นสัดส่วนจากประชาการที่อยู่ในวัยทำงานทั้งหมด ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดถึงสภาพตลาดแรงงาน และสะท้องถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวม อัตราว่างงานที่สูงบ่งบอกถึงสภาวะเศรษฐกิจที่จะลอตัวลงหรือแม้กระทั้งหดตัวลง
คาดการณ์จาก Tradingeconomic: Unemployment Rate มีแนวโน้มที่จะคงที่ที่ 4.1%
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การคาดการณ์การคงที่ของ Unemployment Rate ที่ 4.1% แสดงให้เห็นถึงตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งและที่ความมั่นคง สามารถช่วยเพิ่มความมั่นใจในการลงทุนแก่นักลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงได้ อีกทั้งยังสามารถเพิ่ม Consumer Spending หรือการบริโภคของคนได้อีกด้วย และยังสามารถส่งผลต่อการตัดสินใจในการลดอัตราดอกเบี้ยของ FED ได้อีกด้วย ในส่วนของตลาดคริปโทฯ อาจมีการเพิ่มอุปสงค์ในการซื้อเหรียญ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในตลาดคริปโทฯ ได้มากขึ้นอีกด้วย
Key Event ที่น่าสนใจที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์และอาจจะทำให้เกิดความผันผวนกับสินทรัพย์ดิจิทัล
1 ธันวาคม
2 ธันวาคม
3 ธันวาคม
7 ธันวาคม
ในส่วนของ Funding Rate สำหรับอาทิตย์นี้ยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าปกติ แสดงถึงความ Bullish ของนักลงทุนในตลาด เนื่องจากมีการเปิดสถานะ Long มากกว่า Short หากเปรียบเทียบกับการวิ่งขึ้นของตลาดในเดือนมีนาคมที่ Funding Rate สูงกว่านี้มาก จะพบว่า Upside ในความร้อนแรงของตลาดยังมีอีกมาก
ในฝั่งของ Bitcoin Futures Open Interest มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จนทะลุ All Time High อย่างต่อเนื่อง แสดงถึงการเก็งกำไรของนักลงทุนผ่านสัญญา Futures ที่เพิ่มขึ้น ตลาดมีความร้อนแรงหลังจากข่าวดีเรื่องการเลือกตั้งสหรัฐฯ แต่การใช้ Leverage ของตลาดในปริมาณมาก ก็อาจจะทำให้เกิดความผันผวนที่ตามมาเช่นกัน
ในส่วนของ Bitcoin ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีกระแสเงินไหลออกจาก Spot Bitcoin ETFs รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 135.1 ล้านเหรียญ อาจจะมาจากการทำกำไรระยะสั้นของนักลงทุนสถาบัน ซึ่งนับว่าเป็นปริมาณที่น้อยหากเทียบกับ Inflow ช่วงที่ผ่านมา และไม่ได้ส่งผลกระทบต่อราคาของ Bitcoin อย่างรุนแรง
ในส่วนของ Ethereum ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกระแสเงินไหลเข้าทั้งสิ้น 466.5 ล้านเหรียญ โดยแรงซื้อส่วนใหญ่มาจาก Blackrock ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งนับว่าเป็นโมเมนตัมการเริ่มเข้ามาลงทุนใน Ethereum ของนักลงทุนสถาบันที่ดี อาจจะด้วย Upside ที่มากกว่า Bitcoin ส่งผลให้ราคาของ Ethereum ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีความแข็งแกร่งกว่าเหรียญอื่นๆ
ต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่ Bitcoin ได้ทำจุดสูงสุดใหม่ นักลงทุนระยะยาวที่มีต้นทุนต่ำก็ได้ทำการทยอยขายออกเพื่อทำกำไร ซึ่งเป็นเหตุการณ์เดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม แต่ครั้งนี้มีปริมาณที่มากกว่า โดยปัจจุบัน นักลงทุนระยะยาวมีการขายเพื่อทำกำไรสูงถึง 2 พันล้านเหรียญต่อวัน ซึ่งนับว่าเป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่ Bitcoin มีมา
อย่างไรก็ตาม ความกังวลในเรื่องของ Drawdown ที่อาจจะเกิดขึ้นจากแรงขายของนักลงทุนระยะยาวครั้งนี้ ถูกบรรเทาลงด้วยแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันผ่าน Spot Bitcoin ETFs ที่หลังๆ มานี้ ได้มีการเข้าซื้อกันอย่างล้นหลาม จุดที่นักลงทุนควรจับตามอง คือ แรงซื้อเหล่านี้จะยังคงสามารถเข้ามาแทนที่แรงเทขายได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่ ถ้าแรงซื้อดังกล่าว เริ่มแสดงสัญญาณของการปรับตัวลดลง ก็อาจจะเป็น Trigger ที่ทำให้เกิดการปรับฐานของ Bitcoin นั่นเอง
หากพิจารณาต้นทุนของนักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดจากกราฟด้านล่าง จะพบว่าบริเวณ $54,000 - $73,000 มีการเก็บสะสม Bitcoin กันอย่างหนาแน่น เนื่องจากช่วงนั้น Bitcoin มีการเคลื่อนที่อยู่ในกรอบมากกว่า 7 เดือน กลับกัน ช่วงราคา $73,000 - $88,000 มีปริมาณการซื้อที่ค่อนข้างเบาบาง จากการที่ราคาพุ่งไปอย่างรวดเร็ว ทำให้หากเกิดการปรับฐานครั้งต่อไป อาจจะทำให้ราคาปรับลงมาต่ำกว่า $88,000 ได้
ในมุมมองระยะสั้น $BTC นั้น Sideway อยู่บริเวณ $93,000 - $99,000 โดยเป็นการพักตัวจากการขึ้นรุนแรงในช่วงเดือนที่ผ่านมา ในระยะข้างหน้าก็อาจจะสร้างชุดสะสมในบริเวณนี้ก่อนที่จะมีการ Breakout ออกไป แนวต้านสำคัญในบริเวณนี้นั้นคือราคา $100,000 ที่ถ้าหาก $BTC นั้นสามารถยืนเหนือแนวดังกล่าวได้ ก็อาจจะสามารถทำราคาขึ้นต่อไปได้
แนวต้าน : $100,000 | $120,000 | $150,000
แนวรับ : $91,500 | $86,000 | $83,000
ในมุมมองระยะสั้น $ETH นั้นได้ขึ้นผ่านแนวต้าน $3,400 มาได้ซึ่งเป็น Momentum ขาขึ้นที่ดี ในส่วนของ RSI นั้นเริ่มมีการสร้าง Bearish Divergence ให้เห็นแล้ว โดยอาจส่งผลให้ราคาในระยะสั้นเกิดการย่อตัวได้ซึ่งมีแนวรับบริเวณ $3,500 ในกรณีที่ราคายืนอยู่ได้ก็มีโอกาสที่จะไปต่อได้ ยิ่งหากราคายืนแนว $3,700 ได้จะเป็นมุมมองที่ Bullish อย่างมาก
แนวต้าน : $3,700 | $4,000 | $4,800
แนวรับ : $3,450 | $3,000 | $2,870
ตลาดกำลังมองเห็นโอกาสของเกิด Soft landing ของเศรษฐกิจสหรัฐหลังจากการลดดอกเบี้ยของ FED ทำให้ตลาดเริ่มเปิดความเสี่ยงมากขึ้น ขณะที่ Bitcoin Dominance ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงมากกว่า 50% ผนวกกับการมาของ Ethereum และ Bitcoin spot ETF / Options และมุมมองเชิงบวกมากๆต่อตลาดคริปโทโดยโดนัล ทรัมป์ และเมื่อพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจที่ผันผวนในสัปดาห์นี้ จึงแนะนำให้นักลงทุนถือสัดส่วนของ Bitcoin เอาไว้เพื่อลด Drawdown โดยรวมของพอร์ต และเพิ่มสัดส่วนของ Ethereum ในพอร์ตเพิ่มขึ้น บวกกับถือสัดส่วนของ Altcoins ที่มีพื้นฐานที่ดีรับสัญญาณของ Altcoins season และเก็บ Stablecoin ที่เป็น USD เพื่อใช้เป็นไม้สำรอง
Disclaimer