มีนาคม 05, 2025
หมายเหตุ : บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นในทุกวันจันทร์
ดังนั้นบทความบางส่วนอาจจะมีความคลาดเคลื่อนของข้อมูลได้
WEEKLY TONE: MONITOR WEEK
ในสัปดาห์นี้ควรทำการเฝ้าดูภาพรวมตลาดเป็นหลัก เนื่องด้วยช่วงนี้ตลาดคริปโทฯ มีความผันผวนในระดับหนึ่ง จึงควรจะทำธุรกรรมในกลยุทธ์ที่มี Bitcoin เป็นหลักเนื่องจากมีความผันผวนน้อยที่สุด ในขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนเพิ่มเติมจากเรื่อง Tariff และ Geopolitical อย่างไรก็ตามในภาพระยะสั้น เหรียญที่น่าจับตามองคือเหรียญที่ออกโดยนักลงทุนชาวอเมริกัน หรือเหรียญที่อยู่ภายใต้การถือครองของ World Liberty Finance ซึ่งมีแนวโน้มได้รับความสนใจเป็นพิเศษในตลาด
ISM Manufacturing PMI คือตัวเลขการจัดซื้อและจัดจ้างในภาคการผลิตสินค้าต่างๆ จากการจัดทำการสำรวจสอบถามภาคธุรกิจการผลิตต่างๆ รวมถึง 300 บริษัททั่วประเทศเพื่อทราบถึงผลกระทบทางบวก และ ลบในภาคเศรษฐกิจ โดยดัชนีนี้จะประกอบไปด้วย คำสั่งซื้อใหม่ 30% การผลิต 25% แรงงาน 20% เวลาส่งมอบของผู้ผลิต 15% และสินค้าคงคลัง10% รวมถึงสินค้าคงคลังที่ซื้อมา 10%
คาดการณ์จาก Tradingeconomic: ISM Manufacturing PMI มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจาก 50.9 เป็น 51
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การคาดการณ์การเพิ่มขึ้นของ ISM Manufacturing แสดงให้เห็นถึงตัวเลขในภาคการผลิตมีการขยายตัวเล็กน้อย แต่ด้วยการที่ค่าตัวชี้วัดของดัชนีนี้มากกว่า 50 ทำให้ภาคการผลิตยังมีความแข็งแกร่งอยู่
รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อที่ไม่ใช่ภาคการผลิต หรือ Non-Manufacturing Purchasing Manager Index (PMI) จากสถาบัน Institute of Supply Management (ISM) ที่ยังเป็นที่รู้จักในนามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ (ISM Service PMI) นั้นเป็นดัชนีรวมที่ได้คำนวณในฐานะเป็นดัชนีที่บ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจโดยรวมสำหรับธุรกิจภาคบริการ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อที่ไม่ใช่ภาคการผลิต นี้เป็นดัชนีรวมที่ได้จากดัชนีการกระจายต่างๆ ที่ประกอบด้วยดัชนีจำนวนสี่ประเภทที่มีน้ำหนักความสำคัญเท่าเทียมกันก็คือดัชนี: กิจกรรมทางธุรกิจที่ได้ปรับตามฤดูกาลแล้ว ยอดคำสั่งซื้อใหม่ที่ได้ปรับตามฤดูกาลแล้ว การจ้างงานที่ได้ปรับตามฤดูกาลแล้ว และการจัดส่งสินค้าของผู้จัดหา
คาดการณ์จาก Tradingeconomic: ISM Servies PMI มีแนวโน้มที่จะลดลงจาก 52.8 เป็น 52.7
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การคาดการณ์การลดลงของ ISM Services PMI แสดงให้เห็นถึงภาคการบริการที่มีการหดตัวเล็กน้อย แต่ด้วยการที่ค่าของดัชนีนี้ยังมากกว่า 50 ทำให้ภาคบริการยังมีความแข็งแกร่งอยู่ แต่ในระยะสั้น ภาคการบริการยังถือว่ามีอาการทรงตัวอยู่
ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม เป็นรายงานการจ้างงานที่ถูกปล่อยออกมาเป็นระยะๆ โดยทั่วไปจะออกในวันศุกร์แรกของทุกเดือน และมีผลกระทบมากต่อดอลลาร์ของสหรัฐ ตลาดหุ้น และตลาดหลักทรัพย์ Current Employment Statistics (CES) จากหน่วยงานสถิติแรงงานของกรมแรงงานของสหรัฐ ทำการสำรวจประมาณ 141,000 ธุรกิจ หน่วยงานรัฐบาล และ 486,000 ธุรกิจส่วนตัว เพื่อให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการจ้างงาน ชั่วโมงทำงาน และรายได้ของคนงานในกลุ่มที่ไม่ใช่ภาคเกษตร
คาดการณ์จาก Tradingeconomic: Non Farm Payrolls มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจาก 143K เป็น 150K
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การคาดการณ์การเพิ่มขึ้นของ Non Farm Payrolls แสดงให้เห็นถึงการที่ตลาดแรงงานหดตัวลง ทำให้การจ้างงานนอกภาคเกษตรมีการเพิ่มขึ้น และยังส่งผลต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยงได้โดยที่นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้น และหันมาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มมากขึ้้น
Key Event ที่น่าสนใจที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์และอาจจะทำให้เกิดความผันผวนกับสินทรัพย์ดิจิทัล
26 กุมภาพันธ์
ในส่วนของ Funding rate สำหรับอาทิตย์นี้มีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย หลายเหรียญมีการปรับตัวขึ้นเป็นบวก แต่ก็ยังถือว่าเป็นระดับที่ต่ำอยู่ บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดที่เพิ่มขึ้นหลังจากการ ประกาศของ Donald trump ที่ทำให้ BTC ETH XRP ADA SOL เป็น Crypto Strategic Reserve ของ US ซึ่งทำให้มีความคาดหวังมากขึ้น
ในฝั่งของ Bitcoin Open Interest อยู่ในแนวโน้มขาลง บ่งบอกถึงการลดความเสี่ยงของนักลงทุนอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ อาจจะมาจากเหตุผลเรื่องความไม่แน่นอนทาง Macroeonomics
ในส่วนของ Bitcoin ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกระแสเงินไหลออกสุทธิที่ 2,614.1 ล้านเหรียญ นับว่าเป็นสัปดาห์ที่มี outflow ไหลค่อนข้างมากจากแรงเทขาย จาก Blackrock และ Fidelity หลังจากมีความกังวลทางภาวะเศรษฐกิจ และสงครามการค้า
ในส่วนของ Ethereum ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกระแสเงินไหลออกสุทธิที่ 335.5 ล้าน เหรียญซึ่ง ETH ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอาทิตย์ที่ ไม่มีการไหลเข้าของเงินทุนและมีแต่แรงเทขาย สืบเนื่องจากความกังวลทางเศรษฐกิจ
• ในเดือนกุมภาพันธ์ มูลค่าตลาดรวมของ Stablecoin เพิ่มขึ้น 4.02% สู่ระดับ 226 พันล้านดอลลาร์ ทำสถิติสูงสุดใหม่ตลอดกาลสำหรับสินทรัพย์ประเภทนี้ ถือเป็น 17 เดือนที่มีที่มูลค่าตลาดติดต่อกัน ทำให้ ตลาดของ Stablecoin เพิ่มขึ้น
• อัตราส่วนของ Stablecoin ในตลาดคริปโตอยู่ที่ 7.67% เพิ่มขึ้นจาก 6.12% ในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของ Stablecoin นับตั้งแต่เดือนตุลาคม หลังจากที่สินทรัพย์ดิจิทัลเริ่มฟื้นตัวจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายภาษีและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
• ณ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ตลาดซื้อขายบน CEX Centralized Exchanges มีปริมาณการซื้อขายคู่เหรียญ Stablecoin รวม 1.45 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าปริมาณการซื้อขายอาจทำสถิติต่ำสุดในเดือนนี้ เนื่องจากนักลงทุนรอความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายสินทรัพย์ดิจิทัลและความกังวลทางด้าน macroeconomic
• ในเดือนกุมภาพันธ์ มูลค่าตลาดของ Tether (USDT) เพิ่มขึ้น 1.99% เป็น 143 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นเดือนที่ 18 ติดต่อกันที่มูลค่าตลาดของ USDT เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม อัตราการครองตลาดของ USDT อยู่ที่ 63.2% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2023
• มูลค่าตลาดของ USD Coin (USDC) เพิ่มขึ้น 6.46% เป็น 56.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดใหม่ตลอดกาลของเหรียญ USDC
• PayPal USD (PYUSD) กลับเข้าสู่ 10 อันดับ Stablecoin ชั้นนำอีกครั้ง โดยมีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้น 5.13% เป็น 787 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นของมูลค่าตลาด ณ สิ้นเดือนครั้งแรกในรอบ 6 เดือน และเป็นมูลค่าตลาดสูงสุดเป็นอันดับสองที่เหรียญเคยทำได้
การที่ปริมาณ Stablecoin ถูกผลิตออกมามาก อาจสะท้อนถึงแนวโน้มที่ความต้องการใน USD จะเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งหาก Donald Trump กลับมาดำรงตำแหน่งและมีนโยบายที่สนับสนุนการใช้ดอลลาร์ในระบบเศรษฐกิจดิจิทัล นี่เป็นหนึ่งในตัวอย่างของแนวคิด “America First” ที่อาจขยายไปถึงการทำให้ USD มีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ความนิยมของ Stablecoin ซึ่งมักถูกใช้เป็นทางเลือกในการถือครองมูลค่าและทำธุรกรรมบนบล็อกเชน อาจกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่เสริมความแข็งแกร่งให้กับดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินกลางของเศรษฐกิจโลก
$BTC ยังอยู่ในกรอบขาลง Sideway Down แม้จะมีปรับตัวขึ้นมารุนแรงในช่วงสุดสัปดาห์ โดยภาพรวมในระยะสั้นยังมีแนวโน้มที่จะลงต่อได้แต่ด้วยแรงซื้อที่มากอาจจะทำให้การปรับตัวลงไม่ได้รุนแรงมากนัก โดยแนวรับสำคัญจะเป็นบริเวณ $83,500 ที่เป็นจุดกลับตัวของราคาในช่วงที่ผ่านมา สำหรับมุมมองในการกลับตัวนั้นราคาควรจะมีการ Breakout ออกจากกรอบขาลงก่อนและสร้างชุดสะสมก่อนที่ราคาจะขยับไปต่อได้
แนวต้าน : $93,500 | $100,000 | $108,000
แนวรับ : $87,000 | $83,500 | $77,000
$ETH ยังคงเป็นขาลงโดยแนวรับสำคัญอยู่ที่บริเวณ $2,100 ในส่วน RSI มีการเข้าโซน Oversold แล้วซึ่งอาจบอกว่าเราเข้าใกล้ Bottom การลงในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามสำหรับมุมมองการกลับตัวนั้นราคาควรจะ Breakout ออกจากกรอบขาลงก่อนที่จะมีโอกาสในการกลับตัวเป็นขาขึ้นต่อไป
แนวต้าน : $2,400 | $2,850 | $3,400
แนวรับ : $2,100 | $1,870 | $1,550
Bitcoin Dominance ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงมากกว่า 50% และเมื่อพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจที่ผันผวนในสัปดาห์นี้และสถานการณ์เงินเฟ้อที่ยังไม่สู้ดีนัก จึงแนะนำให้นักลงทุนถือสัดส่วนของ Bitcoin เอาไว้เพื่อลด Drawdown โดยรวมของพอร์ต บวกกับถือสัดส่วนของ Altcoins ที่มีพื้นฐานที่ดี และเก็บ Stablecoin ที่เป็น USD เพื่อใช้เป็นไม้สำรอง
Disclaimer