January 08, 2025
หมายเหตุ : บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นในทุกวันจันทร์
ดังนั้นบทความบางส่วนอาจจะมีความคลาดเคลื่อนของข้อมูลได้
WEEKLY TONE: BUY WEEK
ในสัปดาห์นี้มีตัวชี้วัดในฝั่งของแรงงานออกมามากพอสมควร โดยที่หลักๆ แล้วตลาดแรงงานกำลังทรงตัวอยู่เพื่อรอการเข้ามารับตำแหน่งของ Donald Trump แต่ในฝั่งของภาคการบริการ มีตัวออกมาที่ไปทางบวก ทำให้ตลาดการบริการมีแนวโน้มว่าจะโตเพิ่มขึ้น ในฝั่งของสินทรัพย์ดิจิทัล ณ ตอนนี้ สกุลเงินดิจิทัลเกือบทุกตัวได้มีการขยับตัวขึ้นของราคาไปเล็กน้อย โดยคาดว่าหาก Donal Trump ได้เข้ามารับตำแหน่งตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลจะเข้าสู่ Bull Run อย่างเต็มตัว ซึ่งสามารถพิจารณาเปิดความเสี่ยงได้ในฝั่งของ Altcoins
ตัวเลขการสำรวจการจ้างงานทุกตำแหน่ง (ที่ยังว่างอยู่) ในทุกวันสุดท้ายของเดือน เป็นส่วนหนึ่งของการสำรวจ "Job Openings and Labor Turnover Survey (JOLTS)" การสำรวจนี้จะรวบรวมข้อมูลจาก 16,400 หน่วยงานนอกภาคเกษตรกรรม ซึ่งรวมถึงร้านค้า และ โรงงาน รวมถึงหน่วยงานรัฐบาลระดับกลาง ภาครัฐ และท้องถิ่นใน 50 รัฐ และ ดิสทริคต์ออฟคอลัมเบีย
คาดการณ์จาก Tradingeconomic: JOLTs Job Opening มีแนวโน้มที่จะเพิ่มจาก 7.744M เป็น 7.69M
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การคาดการณ์การเพิ่มขึ้นของ JOLTs Job Opening แสดงให้เห็นถึงการที่ตลาดแรงงานนั้นยังแข็งแรงอยู่ อีกทั้งยังส่งผลในด้านของการลงทุน ทำให้นักลงทุนนั้นมีความมั่นใจในการลงทุนเพิ่มมากขึ้นหรือว่าเข้าสู่ Risk-On นั้นเอง
รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อที่ไม่ใช่ภาคการผลิต หรือ Non-Manufacturing Purchasing Manager Index (PMI) จากสถาบัน Institute of Supply Management (ISM) ที่ยังเป็นที่รู้จักในนามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ (ISM Service PMI) นั้นเป็นดัชนีรวมที่ได้คำนวณในฐานะเป็นดัชนีที่บ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจโดยรวมสำหรับธุรกิจภาคบริการ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อที่ไม่ใช่ภาคการผลิต นี้เป็นดัชนีรวมที่ได้จากดัชนีการกระจายต่างๆ ที่ประกอบด้วยดัชนีจำนวนสี่ประเภทที่มีน้ำหนักความสำคัญเท่าเทียมกันก็คือดัชนี: กิจกรรมทางธุรกิจที่ได้ปรับตามฤดูกาลแล้ว ยอดคำสั่งซื้อใหม่ที่ได้ปรับตามฤดูกาลแล้ว การจ้างงานที่ได้ปรับตามฤดูกาลแล้ว และการจัดส่งสินค้าของผู้จัดหา
คาดการณ์จาก Tradingeconomic: JOLTs Job Opening มีแนวโน้มที่จะเพิ่มจาก 7.744M เป็น 7.69M
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การคาดการณ์การเพิ่มขึ้นของ ISM Services PMI แสดงให้เห็นถึงในภาคบริการได้มีการเพิ่มตัวขึ้นอย่างชัดเจน อีกทั้งยังสามารถช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ไปในทิศทางบวกเพิ่มขึ้นได้มีด้วย และด้วยการที่ดัชนีนี้เพิ่มมากขึ้นและยังอยู่เหนือ 50 ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดีของเศรษฐกิจ
Unemployment rate คือ อัตราการว่างงานเป็นสัดส่วนจากประชาการที่อยู่ในวัยทำงานทั้งหมด ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดถึงสภาพตลาดแรงงาน และสะท้องถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวม อัตราว่างงานที่สูงบ่งบอกถึงสภาวะเศรษฐกิจที่จะลอตัวลงหรือแม้กระทั้งหดตัวลง
คาดการณ์จาก Tradingeconomic: Unemployment Rate มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจาก 4.2% เป็น 4.3%
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การเพิ่มขึ้นของ Unemployment Rate แสดงให้เห็นถึงเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และนักลงทุนบางส่วนได้มีการลดความเสี่ยงของการลงทุนลง โดยการที่ขายสินทรัพย์เสี่ยงและหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่าไปลงทุนแทน
Key Event ที่น่าสนใจที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์และอาจจะทำให้เกิดความผันผวนกับสินทรัพย์ดิจิทัล
8 มกราคม
9 มกราคม
11 มกราคม
ในส่วนของ Funding Rate สำหรับอาทิตย์นี้ยังคงตัวอยู่ในระดับปกติ คือเป็นบวกเล็กน้อย นับว่าเป็นการปรับฐานหลังจากความร้อนแรงที่ BTC ทำจุดสูงสุดทะลุ $100,000 ได้ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งการปรับฐานแบบนี้ นับว่าเป็นเรื่องที่ Healthy สำหรับตลาด เนื่องจากการปรับฐานเป็นเรื่องปกติของตลาดขาขึ้น
ในฝั่งของ Bitcoin Futures Open Interest มีการปรับฐานลงจากยอด All Time High ซึ่งสอดคล้องกับราคาและข้อมูลอื่นๆ กล่าวคือ นักลงทุนมีการ Risk-off หรือปิดสถานะลงไปบ้าง เนื่องจากตลาดเกิดการปรับฐาน อย่างไรก็ตาม หากมองในภาพใหญ่ Open Interest ของ Bitcoin ยังถือว่าอยู่ในระดับที่สูงมาก
ในส่วนของ Bitcoin ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีกระแสเงินไหลเข้าสุทธิ 256 ล้านเหรียญ นับว่าเป็นสัปดาห์ที่มี Inflow ค่อนข้างน้อย หากพิจารณาข้อมูลในช่วงเดือนธันวาคม 2024 จะพบว่า มีการทยอยขายของนักลงทุนสถาบันก่อนสิ้นปี ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ราคาของ Bitcoin เกิดการปรับฐาน อย่างไรก็ตาม ตัวเลข Inflow ของวันเปิดทำการปี 2025 เริ่มเห็นการซื้อกลับแบบมหาศาล ซึ่งอาจบ่งบอกถึง Momentum ในอนาคตอันใกล้
ในส่วนของ Ethereum ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกระแสเงินไหลออกทั้งสิ้น 38.1 ล้านเหรียญ แสดงถึงแนวโน้มเชิงลบต่อ Ethereum เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม แรงซื้อของนักลงทุนสถาบันในเดือนธันวาคม 2024 ของ Ethereum Spot ETF นั้น มีแนวโน้มเป็นบวกอย่างมากต่อ Ethereum จนทำให้ยอดซื้อต่อมูลค่าตลาดของเหรียญนั้น แซงหน้า Bitcoin เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นี่อาจจะเป็นสัญญาณที่นักลงทุนต้องการหาสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า Bitcoin ก็เป็นไปได้
ในปี 2024 ที่ผ่านมา Bitcoin ได้มีการปรับตัวขึ้นกว่า 121% และ Altcoins หลายเหรียญต่างก็มีช่วงเวลาที่ดี ไม่ว่าจะเป็น Solana, เหรียญกลุ่ม DeFi, และเหรียญมีม นอกจากนี้ยังมี Narrative อย่าง AI ที่มาแรง อาจจะเกิดเป็นคำถามที่ว่า Altseason จบไปแล้วหรือยัง แล้วตอนนี้เราอยู่ตรงไหนของ Cycle เนื่องจากราคาของหลายๆ เหรียญได้มีการปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างเยอะ
หากพิจารณาถึงวัฏจักรของคริปโตเคอร์เรนซีตามการ Halving ของ Bitcoin จะพบว่า ปัจจุบันยังเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น เนื่องจากจุดที่ราคา Bitcoin พีคใน Cycle ที่ผ่านมา จะเกิดขึ้นหลังผ่าน Halving ไปแล้วกว่า 350-500 วัน ซึ่งตอนนี้เพิ่งผ่านไปแค่ 250 วันเท่านั้น สามารถตีความได้ว่า ราคาของ Bitcoin ยังมีพื้นที่ให้วิ่งต่อได้
ในส่วนของ Altseason หากเปรียบเทียบกับข้อมูลใน Cycle ที่แล้ว โดยที่ปี 2021 เป็นปีที่พีคของรอบนั้น จะพบว่า ไตรมาสที่ 4 ของปีก่อนหน้าจุดพีค จะเป็นช่วงที่ Bitcoin สามารถ Outperform เหรียญอื่นๆ ได้ โดยที่ 71.6% ของเม็ดเงินที่ไหลเข้ามาลงทุนในตลาดคริปโตเคอร์เรนซีได้เข้าสู่ได้เข้าสู่ Bitcoin เป็นหลัก แต่ในไตรมาสที่ 1 และไตรมาสที่ 2 ของปี 2021 จะพบว่า Bitcoin Dominace ลดลงอย่างเห็นได้ชัด และเม็ดเงินก็ไหลเข้าสู่ Bitcoin เพียงแค่ 30% กว่าเท่านั้น สามารถตีความได้ว่าเม็ดเงินไหลเข้า Altcoin ในสัดส่วนที่เยอะกว่า
หากเปรียบเทียบกับปัจจุบัน นับตาม Cycle ของ Halving แล้ว 2025 จะเป็นปีที่ดีสำหรับตลาดคริปโตเคอร์เรนซีโดยรวม และการก้าวเข้าสู่ไตรมาสที่ 1 ก็เป็นสัญญาณที่เม็ดเงินอาจจะไหลเข้ามาสู่ Altcoin ในสัดส่วนที่มากกว่า Bitcoin สังเกตได้จากยอดการเข้าซื้อ Ethereum Spot ETF ของนักลงทุนสถาบัน ที่ปัจจุบันได้มียอดซื้อเทียบกับมูลค่าตลาดของสินทรัพย์แซงหน้า Bitcoin ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
$BTC ดีดตัวกลับขึ้นมาทดสอบแนวต้านบริเวณ $100,000 อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ณ ราคาบริเวณนี้เป็นบริเวณแนวต้านของ Trendline ขาลงใน RSI ซึ่งอาจส่งให้เกิดการผันผวนของราคาในบริเวณนี้ได้ หากราคานั้นสามารถขึ้นไปยืนเหนือ $100,000 ได้จะเป็น Momentum ขาขึ้นที่ดี อาจส่งให้ $BTC ขึ้นไปทำ All-Time High ได้ แต่หากราคานั้นติดอยู่ในบริเวณนี้ในระยะสั้นราคาก็อาจจะ Sideway Down ออกไปเพื่อลงต่อได้เช่นกัน
แนวต้าน : $100,000 | $108,000 | $120,000
แนวรับ : $92,500 | $87,000 | $80,000
$ETH มีการ Rebound ขึ้นมาโดยในระยะสั้นมีแนวต้านอยู่บริเวณ $3,720 ที่หากสามารถยืนเหนือบริเวณแนวดังกล่าวได้ ก็มีโอกาสที่จะทำขาขึ้นไปต่อเพื่อทดสอบแนว $4,000 อีกครั้ง อย่างไรก็ตามหากราคานั้นไม่สามารถขึ้นไปเหนือบริเวณแนวดังกล่าวได้ ราคานั้นอาจจะมีการปรับตัวลงแบบ Sideway Down ต่ออีกครั้งหนึ่งโดยมีแนวรับสำคัญอยู่บริเวณ $3,250 โดยมุมมองขาลงนั้นยังจะสอดคล้องกับ RSI ที่ถูกกดลงอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
แนวต้าน : $3,720 | $4,100 | $4,800
แนวรับ : $3,450 | $3,200 | $3,000
ตลาดกำลังมองเห็นโอกาสของเกิด Soft landing ของเศรษฐกิจสหรัฐหลังจากการลดดอกเบี้ยของ FED ทำให้ตลาดเริ่มเปิดความเสี่ยงมากขึ้น ขณะที่ Bitcoin Dominance ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงมากกว่า 50% ผนวกกับการมาของ Ethereum และ Bitcoin spot ETF / Options และมุมมองเชิงบวกมากๆต่อตลาดคริปโทโดยโดนัล ทรัมป์ และเมื่อพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจที่ผันผวนในสัปดาห์นี้ จึงแนะนำให้นักลงทุนถือสัดส่วนของ Bitcoin เอาไว้เพื่อลด Drawdown โดยรวมของพอร์ต และเพิ่มสัดส่วนของ Ethereum ในพอร์ตเพิ่มขึ้น บวกกับถือสัดส่วนของ Altcoins ที่มีพื้นฐานที่ดีรับสัญญาณของ Altcoins season และเก็บ Stablecoin ที่เป็น USD เพื่อใช้เป็นไม้สำรอง
Disclaimer