October 09, 2024
หมายเหตุ : บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นในทุกวันจันทร์ ดังนั้นบทความบางส่วนอาจจะมีความคลาดเคลื่อนของข้อมูลได้
WEEKLY TONE: BUY WEEK
ด้วยการที่สัปดาห์นี้ทั้งสองตัวชี้วัดอย่าง Core CPI และ Core PPI ได้มีการคาดการณ์ตัวเลขออกมา ซึ่งถ้าหากตัวเลขนั้นคล้อยไปกับการประมาณการณ์ของตลาด ทำให้มีแนวโน้มสูงที่จะให้ผลดีต่อตลาดสินทรัพย์ทางเลือกอย่างคริปโทฯ และด้วยการที่ตลาดคริปโทฯ นั้นได้มีแรงซื้อเข้ามาจาก BTC และ ETH spot ETF ทำให้ตลาดโดยรวมนั้นมีสัญญาณในการขึ้นเพิ่มขึ้น สัปดาห์นี้จึงเป็นอีกหนึ่งสัปดาห์ที่สามารถเปิดความเสี่ยงในตลาดคริปโทฯ และด้วยการที่เหรียญ Altcoins นั้นได้มีการปรับตัวลงในช่วงเวลาที่ผ่านมาค่อนข้างมาก จึงเริ่มทำให้เห็นถึงการ Rebound ทำให้ Altcoins จึงเป็นอีกหนึ่งกลุ่มเหรียญที่มีแนวโน้มที่จะสามารถเปิดความเสี่ยงได้ รวมไปถึงเหรียญที่มี Marketcap สูงๆที่ราคานั้นยังไม่ได้ขยับไปไกลมาก
Core CPI หรือ Core Consumer Price Index จะสามารถใช้ชื่อเรียกอีกอย่างได้คือ Core Inflation Rate หรือแปลว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน คือ อัตราการเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป ที่หักสินค้าในหมวดอาหารสดและพลังงานออก เนื่องจากเป็นหมวดที่มีความเคลื่อนไหวขึ้นลงตามฤดูกาล และอยู่นอกเหนือการควบคุมของนโยบายการเงิน เหลือแต่รายการสินค้าที่ราคาเคลื่อนไหวตามกลไกตลาด
คาดการณ์จาก Tradingeconomic: Core CPI MoM มีแนวโน้มที่จะคงที่ที่ 0.2%
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การคาดการณ์ในส่วนของ Core CPI ที่คงที่เท่าเดิมนั้นแสดงให้เห็นถึงการที่อัตราเงินเฟ้อนั้นกำลังอยู่ในช่วงคงที่หรือกำลังลดลงอย่างช้า ๆ ทำให้การตัดสินใจในการลดอัตราดอกเบี้ยของ FED หรือ ธนาคารกลางสหรัฐฯ สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม เป็นรายงานการจ้างงานที่ถูกปล่อยออกมาเป็นระยะๆ โดยทั่วไปจะออกในวันศุกร์แรกของทุกเดือน และมีผลกระทบมากต่อดอลลาร์ของสหรัฐ ตลาดหุ้น และตลาดหลักทรัพย์ Current Employment Statistics (CES) จากหน่วยงานสถิติแรงงานของกรมแรงงานของสหรัฐ ทำการสำรวจประมาณ 141,000 ธุรกิจ หน่วยงานรัฐบาล และ 486,000 ธุรกิจส่วนตัว เพื่อให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการจ้างงาน ชั่วโมงทำงาน และรายได้ของคนงานในกลุ่มที่ไม่ใช่ภาคเกษตร
คาดการณ์จาก Tradingeconomic: Core PPI MoM มีแนวโน้มที่จะลดลงจาก 0.3% เป็น 0.2%
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การคาดการณ์การลดลงของ Core PPI MoM มีแนวโน้มที่จะสร้างแรงซื้อให้กับตลาดสินทรัพย์ทางเลือกอย่างหุ้น และตลาดคริปโทฯ ก็จะได้รับผลพลอยได้ไปด้วย ฉะนั้นการลดตัวลงของ Core PPI เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการมีอิทธิผลต่อตลาดสินทรัพย์ทางเลือก
Initial Jobless Claims หรือ Unemployment Claims คือจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนค่าใช้จ่ายของรัฐได้ชัดกว่าอัตราการว่างงาน เพราะยิ่งตัวเลขนี้สูงขึ้นนั่นหมายความว่าค่าใช้จ่ายของภาครัฐ หรือ Government Expenditure ถูกใช้ไปในการช่วยเหลือกลุ่มคนว่างงานมากขึ้น เศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะหดตัว และยังแสดงให้เห็นถึงช่องว่างความเหลื่อมล้ำในประเทศอีกด้วย โดยตัวเลขนี้จะมีประกาศทุก ๆ วันพฤหัสบดี
คาดการณ์จาก Tradingeconomic: Unemployment Claims มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจาก 225K เป็น 227K
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การเพิ่มขึ้นของ Unemployment Claims เป็นการแสดงถึงการที่ผู้คนนั้นตกงานมากเพิ่มขึ้นและ ได้มีคนได้ขอรับสวัสดิการจากรัฐบาลเพิ่มมากขึ้น แต่ด้วยการที่มีการคาดการณ์เพิ่มขึ้นเพียงนิดเดียว อาจไม่มีผลเสียต่อตลาดคริปโทฯ มากมาย
Key Event ที่น่าสนใจที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์และอาจจะทำให้เกิดความผันผวนกับสินทรัพย์ดิจิทัล
7 ตุลาคม
8 ตุลาคม
9 ตุลาคม
11 ตุลาคม
11 ตุลาคม
ในส่วนของ Funding rate สำหรับอาทิตย์นี้ยังคงตัวเป็นบวก แต่ก็ยังถือว่าเป็นระดับที่ต่ำอยู่ บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาด โดยมีการเปิดสถานะลองมากกว่าสถานะชอร์ต แต่ไม่ได้มีความร้อนแรง หรือการใช้ Leverage มากจนเกินไป แสดงถึงช่องว่างของ Upside ที่ยังคงมีอยู่
ในฝั่งของ Bitcoin Open Interest มีการปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ถึงแม้จะยังไม่ได้สูงเท่ากับช่วง All Time High แต่ก็แสดงถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้น หลังจากการย่อตัวลงเพียงเล็กน้อยในช่วงที่มีข่าวเรื่องสงครามตะวันออกกลาง นักลงทุนกลับมาเปิดสถานะมากขึ้น และให้ความสำคัญกับข่าวสงครามเพียงระยะสั้นเท่านั้น
ในส่วนของ Bitcoin ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีกระแสเงินไหลออกจาก Spot Bitcoin ETFs รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 274.3 ล้านเหรียญ โดยแรงเทขายส่วนใหญ่มากจาก FBTC และ ARKB เป็นหลัก ในขณะที่ GBTC แทบจะไม่มีแรงขายออกมาแล้ว ทำให้รวมกันกลายเป็นแรงขายสุทธิ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากความกังวลด้านสงคราม ที่ส่งผลให้นักลงทุนลดความเสี่ยงลง ไม่ใช่แค่เพียง Bitcoin แต่รวมถึงสินทรัพย์อื่นอย่างตลาดหุ้นด้วย
ในส่วนของ Ethereum ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีกระแสเงินไหลออกทั้งสิ้น 25.4 ล้านเหรียญ ถึงแม้จะเป็นเงินไหลออกสุทธิจากแรงขายของ ETHE แต่นับว่าเริ่มเห็นแรงซื้อเข้ามาจากลูกค้าของ Blackrock แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจของนักลงทุนสถาบันที่เพิ่มมากขึ้น
ถึงแม้ว่าตลาดจะมีการปรับตัวลงจากความกังวลด้านสงครามเมื่อต้นสัปดาห์ก่อน แต่ก็ถือว่าเป็นการฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดที่ดี โดย Bitcoin ได้มีการปรับตัวขึ้นจากระดับ $50,000 - $55,000 ไปยืนอยู่ที่ $60,000 กว่าๆ และข้อมูลในอดีตก็แสดงให้เห็นว่า ความกังวลเรื่องสงครามมักจะส่งผลต่อตลาดในระยะสั้นเท่านั้น และมีการฟื้นตัวที่รวดเร็ว ทำให้การปรับตัวลดลงนับว่าเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าสะสม
หากสังเกตพฤติกรรมของนักลงทุนระยะยาว จะเห็นได้ว่ามีแรงซื้อเข้าสะสมเรื่อยๆ บ่งบอกถึงความมั่นใจของนักลงทุนต่อตลาด ซึ่งข้อมูลในอดีตก็บ่งชี้ว่าช่วง Accumulation ของนักลงทุนกลุ่มนี้ ตลาดมักจะยังมี Upside ให้เติบโตได้อีก เนื่องจากนักลงทุนกลุ่มนี้ มีความเข้าใจในตลาดและไม่ตอบสนองต่อความผันผวนในระยะสั้น
ในทางกลับกัน เนื่องจากนักลงทุนระยะสั้นมักจะตอบสนองรุนแรงต่อความผันผวนมากกว่า ทำให้การสังเกตพฤติกรรมดังกล่าวสามารถบ่งบอกถึงทิศทางของตลาดได้เป็นอย่างดี เมื่อพิจารณาจากดัชนีอย่าง Short-Term Holder MVRV ที่มีค่าอยู่ใกล้เคียง 1 หมายความว่า สถานะของนักลงทุนกลุ่มนี้ค่อนข้างจะเป็นกลาง คือไม่กำไรและไม่ขาดทุนมากจนเกินไป ทำให้นักลงทุนกลุ่มนี้ไม่มีความกดดันจากการขาดทุน สามารถตีความได้ว่า ตลาดในปัจจุบันมีความแข็งแรงและไม่ได้รับผลกระทบมากจากข่าวสงคราม
หลังจากการปรับตัวลงช่วงสัปดาห์ที่แล้ว $BTC ก็ได้มีการ Retrace กลับขึ้นมาอีกครั้งโดยขยับตัวขึ้นไปแบบ Sideway Up หากดูในภาพรวมแล้วการย่อนี้ก็เหมือนการทำ Higher Low แล้ว หากราคาในช่วงสัปดาห์ข้างหน้านั้นสามารถขึ้นไป Break Local High ได้บริเวณแนวต้าน $67,000 ก็จะเป็น Bullish Case ของ $BTC อย่างมาก อย่างไรก็ตามถ้าราคายังผ่านแนวต้านดังกล่าวไม่ได้ ก็อาจจะ Sideway ออกไปก่อนในช่วงสัปดาห์ข้างหน้านี้
แนวต้าน : $67,000 | $72,000 | $76,500
แนวรับ : $61,000 | $56,500 | $52,000
$ETH ในระยะสั้นได้มีการทำ Higher Low ให้เห็นแล้ว ถ้าราคาสามารถขึ้นไป Break แนวต้าน Trendline ขาลงบริเวณราคา $2,700 ได้ ก็จะเป็นการทำ Pattern Inverse H&S ซึ่งจะเป็น Momentum ที่ Bullish อย่างมากกับ ETH ซึ่งอาจสอดคล้องกับการปรับตัวขึ้นของ RSI อีกด้วย อย่างไรก็ตามในกรณีที่ยัง Breakout ไม่ได้ก็อาจจะ Sideway ออกไปก่อนในช่วงข้างหน้า
แนวต้าน : $2,700 | $2,870 | $3,350
แนวรับ : $2,340 | $2,150 | $1,880
ตลาดกำลังมองเห็นโอกาสของเกิด Soft landing ของเศรษฐกิจสหรัฐหลังจากการลดดอกเบี้ยของ FED ทำให้ตลาดเริ่มเปิดความเสี่ยงมากขึ้น ขณะที่ Bitcoin Dominance ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงมากกว่า 50% ผนวกกับการมาของ Ethereum และ Bitcoin spot ETF / Options และมุมมองเชิงบวกมากๆต่อตลาดคริปโทโดยรวม ในสหรัฐในเชิงการเมืองที่อาจจะเห็นภาพชัดเจนในไตรมาสที่ 4 และเมื่อพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจที่ผันผวนในสัปดาห์นี้ จึงแนะนำให้นักลงทุนถือสัดส่วนของ Bitcoin เอาไว้เพื่อลด Drawdown โดยรวมของพอร์ต และเพิ่มสัดส่วนของ Ethereum ในพอร์ตเพิ่มขึ้น บวกกับถือสัดส่วนของ Altcoins ที่มีพื้นฐานที่ดีรับสัญญาณของ Altcoins season และเก็บ Stablecoin ที่เป็น USD เพื่อใช้เป็นไม้สำรอง
Disclaimer