สิงหาคม 28, 2024
เหรียญ BTC เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่เป็นสกุลเงินแรกที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน แต่ยังเป็นที่สนใจของนักลงทุนทั่วโลก ด้วยราคาที่ผันผวนและโอกาสในการลงทุนที่น่าตื่นเต้น ในบทความนี้ เราจะพานักลงทุนไปรู้จักกับที่มาของ เหรียญ BTC ปัจจัยที่ทำให้มีมูลค่า ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง และข้อควรพิจารณาก่อนการลงทุน BTC
เหรียญ BTC เป็นสกุลเงินดิจิทัลแรกที่ถูกสร้างขึ้นในปี 2009 โดยบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ใช้นามแฝงว่า ซาโตชิ นากาโมโตะ (Satoshi Nakamoto) ซึ่งยังคงเป็นปริศนาถึงทุกวันนี้ การสร้าง Bitcoin มีจุดประสงค์เพื่อสร้างสกุลเงินที่ไม่ต้องพึ่งพาธนาคารกลางหรือสถาบันการเงินใด ๆ แต่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) เพื่อบันทึกการทำธุรกรรมและป้องกันการปลอมแปลง
บล็อกเชนเป็นระบบการบันทึกข้อมูลแบบกระจายศูนย์ที่มีความปลอดภัยสูงและโปร่งใส โดยทุก ๆ การทำธุรกรรม Bitcoin จะถูกบันทึกลงในบล็อกเชน ซึ่งเป็นโครงสร้างข้อมูลที่เชื่อมโยงเป็นกลุ่ม (บล็อก) ต่อเนื่องกัน การทำธุรกรรมที่ถูกบันทึกไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือย้อนกลับได้ ทำให้ระบบมีความน่าเชื่อถือและป้องกันการโกงได้เป็นอย่างดี
กระบวนการที่ทำให้เกิด เหรียญ BTC ใหม่เรียกว่า "การขุด" (Mining) ซึ่งเป็นการใช้คอมพิวเตอร์ในการแก้สมการคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน การขุดนั้นไม่เพียงแต่สร้าง Bitcoin ใหม่เข้าสู่ระบบ แต่ยังเป็นกระบวนการที่ยืนยันและบันทึกการทำธุรกรรมต่าง ๆ ลงในบล็อกเชน การทำงานนี้ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าและการคำนวณที่สูงมาก เพื่อให้การขุด Bitcoin สำเร็จต้องใช้คอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถสูง
การขุด Bitcoin มีความยากมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีผู้เข้าร่วมมากขึ้นและสมการคณิตศาสตร์ที่ต้องแก้ก็ซับซ้อนขึ้น ทำให้ต้องใช้พลังงานและเวลาในการขุดมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการจำกัดจำนวน Bitcoin ที่สามารถขุดได้สูงสุดเพียง 21 ล้านเหรียญเท่านั้น ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ Bitcoin มีความหายากและมีมูลค่าสูงขึ้น
นอกจากนี้ Bitcoin ยังเป็นสกุลเงินที่ไม่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลหรือองค์กรใด ๆ ทำให้ผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมระหว่างประเทศได้อย่างรวดเร็วและมีค่าใช้จ่ายต่ำ การใช้ เหรียญ BTCในการทำธุรกรรมยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการควบคุมจากรัฐบาลหรือองค์กรทางการเงิน โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการยืนยันตัวตนที่ซับซ้อนเหมือนกับระบบการเงินทั่วไป
อย่างไรก็ตาม การลงทุนใน Bitcoin มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากราคาของ Bitcoin มีความผันผวนมาก ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนสูญเสียเงินลงทุนได้ นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของการเก็บรักษา Bitcoin เนื่องจากมีกรณีการถูกแฮ็กหรือการสูญหายของกุญแจส่วนตัวที่ใช้ในการเข้าถึงกระเป๋าเงินดิจิทัล รวมถึงความเสี่ยงทางด้านกฎหมาย เนื่องจากบางประเทศยังไม่มีการยอมรับ Bitcoin เป็นสกุลเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย
แม้ว่า Bitcoin จะมีความเสี่ยงสูง แต่ก็มีโอกาสในการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าร่วมในโลกของสกุลเงินดิจิทัล การเข้าใจถึงที่มาและการทำงานของ Bitcoin จะช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและมีข้อมูลที่ครบถ้วน
มูลค่าของเหรียญ Bitcoin (BTC) ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งจากปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยภายนอกที่มีผลกระทบต่อความต้องการ (Demand) และอุปทาน (Supply) ในตลาด Bitcoin มักถูกมองว่าเป็น "ทองคำดิจิทัล" เนื่องจากมีคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกับทองคำ เช่น การมีจำนวนจำกัดและความหายาก แต่มีความสะดวกในการใช้และเคลื่อนย้ายมากกว่าทองคำจากการที่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่สามารถจับต้องได้แต่มีการให้มูลค่าสำหรับบางบุคคล
หนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ Bitcoin มีมูลค่าคือการจำกัดจำนวนเหรียญ Bitcoin ที่มีอยู่เพียง 21 ล้านเหรียญเท่านั้น เมื่อเทียบกับสกุลเงินทั่วไปที่รัฐบาลสามารถพิมพ์เพิ่มได้ไม่จำกัด Bitcoin มีความหายากที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ทำให้เมื่อความต้องการเพิ่มขึ้น ราคาของ Bitcoin ก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ความหายากนี้ทำให้ Bitcoin มีคุณค่าในสายตาของนักลงทุนและผู้ถือครอง
การที่ Bitcoin ถูกนำมาใช้จริงในชีวิตประจำวันก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้มีมูลค่า ปัจจุบันมีบริษัทและร้านค้ามากมายที่ยอมรับ Bitcoin เป็นวิธีการชำระเงิน การนำ Bitcoin มาใช้ในโลกการเงิน การลงทุน และการโอนเงินระหว่างประเทศก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้มูลค่าของ Bitcoin เพิ่มขึ้น การที่ Bitcoin สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการเก็บรักษามูลค่า (Store of Value) และเป็นวิธีการชำระเงินที่รวดเร็วและมีค่าใช้จ่ายต่ำ ทำให้มีความต้องการในการใช้งานเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นของผู้คนในการใช้ Bitcoin เป็นสกุลเงินและการยอมรับในวงกว้างก็มีผลต่อมูลค่าของ Bitcoin การที่นักลงทุนรายใหญ่และบริษัทใหญ่ ๆ เช่น Tesla, MicroStrategy และ Square ได้ประกาศการลงทุนใน Bitcoin และการนำ Bitcoin มาใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงิน เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดและทำให้ราคาของ Bitcoin พุ่งสูงขึ้น
อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ Bitcoin มีมูลค่าคือเทคโนโลยีบล็อกเชนที่เป็นฐานรองรับ Bitcoin บล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยสูงและโปร่งใส โดยทุกๆ การทำธุรกรรมจะถูกบันทึกลงในบล็อกเชน และผู้ใช้ทุกคนสามารถตรวจสอบได้ ไม่มีใครสามารถแก้ไขหรือย้อนกลับข้อมูลการทำธุรกรรมได้ ทำให้ระบบมีความน่าเชื่อถือและป้องกันการโกงได้เป็นอย่างดี การที่บล็อกเชนมีการพัฒนาและการนำมาใช้ในด้านอื่นๆ เช่น การบริหารจัดการโซ่อุปทาน (Supply Chain Management) การยืนยันตัวตน (Identity Verification) และการโอนเงินระหว่างประเทศ ยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือและความสำคัญของ Bitcoin ในฐานะสกุลเงินดิจิทัล
การที่ Bitcoin ไม่ถูกควบคุมโดยรัฐบาลหรือองค์กรใดๆ ทำให้มีความเป็นอิสระและปลอดภัยจากการถูกควบคุมหรือแทรกแซงจากหน่วยงานทางการเงิน การที่ Bitcoin สามารถทำธุรกรรมระหว่างประเทศได้อย่างรวดเร็วและมีค่าใช้จ่ายต่ำ ทำให้ผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมระหว่างประเทศได้โดยไม่ต้องพึ่งพาธนาคารหรือสถาบันการเงินใดๆ ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการควบคุมจากรัฐบาลหรือองค์กรทางการเงิน
อย่างไรก็ตาม มูลค่าของ Bitcoin มีความผันผวนสูงและอาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin เช่น การรับรองจากบริษัทใหญ่ การเข้ามาควบคุมของรัฐบาล หรือการประกาศเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin นักลงทุนที่สนใจลงทุนใน Bitcoin ควรตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและมีการติดตามข่าวสารและการเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างใกล้ชิด
การที่ Bitcoin ถูกนำมาใช้ในการฟอกเงินและกิจกรรมที่ผิดกฎหมายก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อมูลค่าของ Bitcoin การที่บางประเทศยังไม่มีการยอมรับ Bitcoin เป็นสกุลเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้เกิดข้อจำกัดในการใช้ Bitcoin และการซื้อขาย นอกจากนี้ การที่รัฐบาลบางประเทศเข้ามาควบคุมหรือห้ามการใช้ Bitcoin ก็มีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและมูลค่าของ Bitcoin นอกจากนั้นแล้วยังมีประเด็นในส่วนความมั่นคงของสกุลเงินตราในแต่ละประเทศส่งผลให้อีกหนึ่งหน่วยงานที่เข้ามากำกับดูแลคือธนาคารกลางของแต่ละประเทศ
การลงทุนในเหรียญ Bitcoin (BTC) มีทั้งความเสี่ยงและผลตอบแทนที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจาก Bitcoin เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความผันผวนสูง ซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนที่มากมายในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ก็สามารถทำให้สูญเสียเงินลงทุนได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วเช่นกัน
ความผันผวนของราคาเป็นหนึ่งในความเสี่ยงหลักของการลงทุน BTC ราคา Bitcoin สามารถขึ้นหรือลงได้อย่างมากในช่วงเวลาสั้น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ข่าวสารที่มีผลกระทบต่อตลาด ความเชื่อมั่นของนักลงทุน การเปลี่ยนแปลงในกฎระเบียบ และการประกาศข่าวสำคัญของบริษัทใหญ่หรือบุคคลสำคัญ การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของราคาเหล่านี้อาจทำให้นักลงทุนได้รับผลกำไรมหาศาลหรือสูญเสียเงินลงทุนได้ในทันที เช่น เหตุการณ์การล้มละลายของ Mt. Gox ในปี 2014 ส่งผลกระทบอย่างมากต่อราคาของ Bitcoin และความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก Mt. Gox ซึ่งเป็นกระดานซื้อขาย Bitcoin ที่ใหญ่ที่สุดในขณะนั้น สูญเสีย Bitcoin จำนวน 850,000 BTC เนื่องจากการถูกแฮ็กและปัญหาความปลอดภัย ส่งผลให้ราคาของ Bitcoin ร่วงลงจากระดับสูงสุดที่ประมาณ 1,200 ดอลลาร์ในปลายปี 2013 เหลือเพียงประมาณ 400 ดอลลาร์ในต้นปี 2014 เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยในการเก็บรักษา Bitcoin และความเสี่ยงในการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล อย่างไรก็ตาม ตลาด Bitcoin ได้ฟื้นตัวและเติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแกร่งในระยะยาว โดยมีการปรับปรุงมาตรการความปลอดภัยและการพัฒนากระดานซื้อขายที่มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
การเก็บรักษาเหรียญ BTC มีความเสี่ยงทางด้านความปลอดภัยเช่นเดียวกับสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ การที่เหรียญ BTC ถูกเก็บรักษาในกระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet) ที่ต้องใช้กุญแจส่วนตัว (Private Key) ในการเข้าถึง หากกุญแจส่วนตัวนี้ถูกขโมย สูญหาย หรือถูกแฮ็ก นักลงทุนจะไม่สามารถเข้าถึงเหรียญ BTC ของตนเองได้อีก นอกจากนี้ยังมีกรณีของการแฮ็กกระดานซื้อขาย (Exchange) ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งสามารถทำให้ผู้ลงทุนสูญเสีย เหรียญ BTC ที่เก็บรักษาอยู่ในกระดานซื้อขายนั้น ๆ ได้
กฎระเบียบและการควบคุมของรัฐบาลเป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องพิจารณา บางประเทศยังไม่มีการยอมรับ Bitcoin เป็นสกุลเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือมีการกำหนดข้อจำกัดในการใช้และการซื้อขาย เหรียญ BTC ซึ่งอาจทำให้การลงทุนใน Bitcoin มีความเสี่ยงในการถูกควบคุมหรือห้ามใช้ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงในกฎหมายและนโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลก็อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและมูลค่าของ เหรียญ BTC
แม้ว่าการลงทุนใน Bitcoin จะมีความเสี่ยงสูง แต่ก็มีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สูงมากเช่นกัน จากประวัติการเปลี่ยนแปลงของราคา Bitcoin ตั้งแต่เริ่มแรกจนถึงปัจจุบัน ราคาของ เหรียญ BTC มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะยาว เนื่องจากมีความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้น และการยอมรับที่กว้างขวางมากขึ้น
การลงทุนใน Bitcoin สามารถให้ผลตอบแทนที่สูงได้หากนักลงทุนสามารถซื้อ Bitcoin ในช่วงที่ราคาต่ำและขายในช่วงที่ราคาสูง อย่างไรก็ตาม การที่ราคาของ Bitcoin มีความผันผวนสูงก็ทำให้การคาดการณ์ราคาในอนาคตเป็นเรื่องที่ยากลำบาก นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จในการลงทุนใน Bitcoin มักจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในตลาดและสามารถรับมือกับความเสี่ยงได้ดี
เนื่องจาก Bitcoin หรือสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่มีอายุน้อยกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่นดังนั้นแล้วก่อนการตัดสินใจลงทุนควรเริ่มจากการศึกษาข้อมูลก่อนเสมอเพราะยิ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนของราคาสูงมากเท่าใดจำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมทั้งในเรื่องความรู้ การประเมินความเสี่ยง และการใช้ระยะเวลาในการทำการบ้านการศึกษามากขึ้นเท่านั้นแม้ว่าการที่เริ่มศึกษาช้าอาจจะทำให้เสียโอกาสอยู่บ้างแต่ในการลงทุนแล้วการลงทุนโดยที่ศึกษารายละเอียดไม่รอบคอบอาจสร้างความเสี่ยงหายมากกว่าค่าเสียโอกาสที่เสียไปจากการศึกษาและเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มลงทุน
การลงทุนในเหรียญ Bitcoin (BTC) กำลังเป็นที่สนใจของนักลงทุนทั่วโลก เนื่องจากเป็นสกุลเงินดิจิทัลแรกของโลกที่ถูกสร้างขึ้นบนเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ซึ่งมีคุณสมบัติที่โดดเด่นอย่างการเป็นระบบเปิด ไร้ตัวกลาง ไร้พรมแดน และปิดกั้นไม่ได้ ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ การลงทุนใน Bitcoin ถือเป็นโอกาสในการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก (Alternative Investment) ที่น่าสนใจถึงแม้ว่าจะมีความเสี่ยงค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับการลงทุนในสินทรัพย์ดังเดิมหรือ Traditional Assets
ดังนั้น Merkle Capital จึงได้พัฒนากลยุทธ์ M-BTCA ขึ้นมาเพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุนใน Bitcoin และเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่ดี
Merkle Capital คือผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกของประเทศไทยซึ่งสังกัดอยู่ภายใต้เครือบริษัท Cryptomind Group บริษัทให้การดูแลและบริหารการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลแก่ลูกค้าด้วยกลยุทธ์ที่หลากหลายและปลอดภัยอย่างยั่งยืน ลูกค้าสามารถเปิดบัญชีได้ที่ https://merkle.capital/invest/register โดยใช้บัตรประจำตัวประชาชน ทำการยืนยันตัวตน 7 ขั้นตอน เราจะใช้เวลา 1-2 วันโดยประมาณในการตรวจสอบ ท่านจะได้รับอีเมลแนะนำการลงทุนหลังจากผ่านขั้นตอนการยืนยันตัวตน
กลยุทธ์ M-BTCA จะเน้นลงทุนในบิตคอยน์ (Bitcoin) หรือ BTC โดยมีสัดส่วนการถือครอง Bitcoin โดยเฉลี่ยในรอบปีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าเงินลงทุน
การประเมินความเหมาะสมเบื้องต้น
ผู้ลงทุนสามารถประเมินความเหมาะสมเบื้องต้นในกลยุทธ์จัดการเงินทุนนี้ ดังนี้
กลยุทธ์จัดการเงินทุนนี้เหมาะกับใคร
ความเสี่ยงในกลยุทธ์จัดการเงินทุน
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูงดังนั้นแล้วก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนควรเลือกที่จะสำรวจความเสี่ยงที่ยอมรับได้และข้อจำกัดพร้อมทั้งศึกษารายละเอียดสินทรัพย์ที่ลงทุนก่อนทุกครั้งเช่นเดียวกันกับการลงทุนรูปแบบอื่นๆ
คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวนและสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง และ ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
Disclaimer