การเก็บเงินซื้อบ้านหนึ่งหลังแล้วจริง ๆ นั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย อีกทั้งการซื้อบ้านหนึ่งหลัง ผู้ซื้อยังต้องเตรียมเงินไว้ประมาณหนึ่ง เพื่อที่ไว้ซ่อมแซมและบำรุงบ้านอีกด้วย แล้วการเก็บเงินซื้อบ้านในฝัน ต้องรู้อะไรบ้าง หาคำตอบได้ในบทความนี้

ซื้อบ้าน ต้องคำนึงถึงอะไร

การตั้งเป้าหมายในการซื้อบ้านนั้น จะช่วยให้ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านรู้จักตนเองมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถสร้างระเบียบวินัยให้แก่ผู้ที่ต้องการซื้ออีกด้วย และผู้ที่ต้องการซื้อบ้านยังสามารถรู้จักตัวเองมากกว่าเดิมในเรื่องของการออมและการใช้จ่าย การซื้อบ้านหลังแรกแล้วจริง ๆ เป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถเอื้อมถึงได้ การเก็บเงินซื้อบ้านจึงไม่เกินความสามารถของทุกคน

• รูปแบบและขนาดของบ้าน ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของการเลือกซื้อบ้าน เนื่องด้วยขนาดของบ้านนั้นจะต้องเหมาะสมกับครอบครัวของผู้ที่ต้องการซื้อหรือผู้ที่จะอยู่อาศัยในบ้านหลังนั้น และการเลือกขนาดบ้านที่พอดีกับจำนวนสมาชิกผู้อยู่อาศัยจะทำให้การอยู่อาศัยไม่อึดอัดและยังรู้สึกสบายอีกด้วย รวมถึงจำนวนห้องนอนที่พอดีกับสมาชิกในบ้านถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญและจะสร้างความส่วนตัวให้กับสมาชิกในบ้านทุกคนอีกด้วย รูปแบบของบ้านก็มีผลเช่นกัน บางคนต้องการอยู่ในแบบทาวเฮ้าส์หรือทาวน์โฮมก็จะมีรูปแบบของบ้านที่แตกต่างกันออกไป สำหรับบ้านเดี่ยวก็จะมีสไตล์ของบ้านที่แตกต่างกันเช่นเดียวกัน ฉะนั้นการจะอยู่บ้านแล้วมีความสุข ก็ควรจะต้องเลือกแบบบ้านและขนาดนี้ให้เหมาะสมกับที่ตนเองชอบ

• ที่จอดรถในบ้าน ที่จอดรถในบ้านนั้นเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ลืมนึกถึง ที่จอดรถนั้นมีส่วนสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการมีบ้านและครอบครองรถอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น การบ้านที่ต้องการสามารถจอดรถได้ 2 คัน แต่ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านนั้นมีรถถึง 3 ทำให้อีกคันหนึ่งต้องจอดนอกบ้านที่เสี่ยงต่อการเกิดเฉี่ยวชนและยังสร้างปัญหาการจราจรให้แก่บ้านที่อยู่ใกล้เคียงอีกด้วย รวมไปถึงการจอดรถนอกบ้านและการจอดรถตากแดดนั้นจะทำให้รถนั้นเสื่อมสภาพลงเร็วขึ้น และจะตามมาด้วยค่าใช้จ่ายที่แสนสิ้นเปลือง

• ทำเลที่ตั้งของบ้าน ที่ดินในแต่ละทำเลก็จะมีราคาที่แตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง โดยที่ดินที่อยู่ติดหรือใกล้ ๆ กับในเมืองก็จะมีราคาตารางวาที่สูงกว่าที่ดินที่อยู่นอกเมือง และการเลือกทำเลนั้นก็จะบ่งบอกถึงค่าครองชีพอีกด้วย ทำเลที่ตั้งที่อยู่ที่ในเมืองหรือที่ ๆ เป็นที่นิยมก็จะมีค่าครองชีพที่สูงกว่าที่อื่นเป็นธรรมดา และการจราจรก็เป็นหนึ่งสิ่งที่ควรพิจารณาในหัวข้อทำเลที่ตั้ง บางทำเลนั้นมีการจราจรที่ค่อนข้างจะติดขัด หากผู้ที่ต้องการซื้อบ้านมีงานประจำนั้นก็จำเป็นที่จะต้องตื่นเช้ากว่าปกติเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงรถติดหรือการเข้างานสายนั้นเอง 

• สิ่งอำนวยความสะดวก แน่นอนหากผู้ที่ต้องการซื้อบ้านในหมู่บ้าน ก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกในหมู่บ้านอยู่แล้ว เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สนามกีฬาต่าง ๆ สวนในหมู่บ้าน สิ่งอำนวยความสะดวกถือว่าเป็นหนึ่งอย่างที่ผู้คนนั้นให้ความสนใจมากมาย หากหมู่บ้านไหนมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่มากมายก็จะตกเป็นเป้าหมายของผู้ที่ต้องการจะซื้อบ้าน รวมถึงปัจจัยอำนวยความสะดวกนอกหมู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นความใกล้ของศูนย์การค้า โรงเรียน โรงพยาบาล หรือ อื่น ๆ ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายก็ถือเป็นสิ่งที่น่าดึงดูด

• ราคาบ้านและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แน่นอนว่าเรื่องราคาของบ้านนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในการเลือกซื้อบ้านและการเลือกราคาบ้านที่สอดคล้องกับสถานะทางการเงินนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่เพราะตัวผู้ซื้อเองจะมีความสามารถในการซื้อหรือผ่อน และแน่นอนว่าถ้าหากผู้ที่ซื้อบ้านแบบบ้านเปล่านั้นก็ต้องเตรียมเงินส่วนหนึ่งไปซื้อเฟอร์นิเจอร์และสิ่งอื่น ๆ อีกด้วย อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้คนมองข้ามไปคือ หากอยู่ในหมู่บ้านนั้นก็คือค่าส่วนกลางที่จำเป็นต้องจ่าย ค่าน้ำและค่าไฟที่ยังต้องจ่ายทุกเดือนอีกด้วย ค่าน้ำค่าไฟจะเยอะหรือน้อยก็อยู่ที่บุคคลที่พักอาศัยอยู่ในบ้านใช้ไฟเยอะหรือน้อยนั้นเอง รวมถึงค่าบำรุงรักษาต่าง ๆ ในบ้านอีกด้วย

วางแผนการเงินก่อนซื้อบ้าน

การวางแผนการเงินก่อนการเก็บเงินซื้อบ้านนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะตัวผู้ซื้อเองจะได้รับรู้ถึงอำนาจในการผ่อนชำระหรือแบกรับค่าใช้จ่ายของตนเอง

1. เก็บเงินซื้อบ้าน

การที่เลือกบ้านที่ต้องการได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเก็บเงินซื้อบ้าน การเลือกบ้านที่เราต้องการซื้อก่อนการเก็บเงินนั้นจะช่วยให้ผู้ที่ต้องการซื้อมีแรงผลักดันและกำลังใจในการเก็บเงินมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยควบคุมรายจ่ายไม่ให้ฟุ่มเฟือยอีกด้วย ผู้ที่มีความฝันในการซื้อบ้านไม่จำเป็นต้องเก็บเงินทั้งจำนวนของราคาบ้าน เพราะอาจต้องใช้เวลาเก็บเงินซื้อบ้านที่นานมาก ๆ และหนึ่งวิธีที่สามารถครอบครองบ้านได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเต็มจำนวนก็คือ สินเชื่อบ้าน โดยสินเชื่อบ้านนั้นจะสามารถแบ่งได้เป็นสองส่วนก็คือการดาวน์บ้านและการผ่อนบ้าน และสิ่งที่ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านต้องทำเป็นอันดับแรกคือการออมเงินดาวน์บ้าน โดยสินเชื่อบ้าน ธนาคารส่วนใหญ่จะปล่อยสินเชื่ออยู่ที่ประมาณ 80% - 95% ทำให้ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านนั้นต้องเก็บเงินจำนวน 5% - 15% จากราคาทั้งหมด และอีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าโอนกรรมสิทธิ์ เป็นต้น

2. สำรวจรายรับรายจ่ายและวางแผนการเงิน

การสำรวจรายรับและรายจ่าย คือการสำรวจตัวเองที่ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านทุกคนควรจะทำ เพราะการทำแบบสำรวจจะทำให้รู้ว่าเรามีความสามารถในการผ่อนชำระหรือไม่ และยังเหลือเงินที่สามารถเก็บออมต่อเดือนได้ไหม และที่สำคัญการสำรวจรายรับรายจ่ายทำให้สามารถตัดการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยออกไปได้ พร้อมทั้งยังสามารถคาดการณ์จำนวนเงินในอนาคตได้อีกด้วย ในขณะที่การวางแผนการเงินก็เป็นเรื่องที่สำคัญเช่นเดียวกัน การที่ทดลองเก็บออมต่อเดือนก่อนการซื้อบ้านถือว่าเป็นเรื่องที่ควรทำอย่างยิ่ง เนื่องด้วยตัวผู้ซื้อเองจะได้รู้ว่าตนเองนั้นมีความสามารถในการผ่อนบ้านไหมและยังต้องเตรียมตัวสำหรับการใช้เงินที่ฉุกเฉินอีกด้วย 

3. การเปรียบเทียบราคา 

การเปรียบเทียบราคาบ้านที่ต่างกันนั้นจะช่วยให้ผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน สามารถหาบ้านในราคาที่ถูกและคุ้มที่สุดได้ โดยสามารถทำการเปรียบเทียบได้หลายแบบ เช่น ในเรื่องของ ขนาด รูปแบบ ทำเล ราคา ความสะดวกสบาย 

4. วิธีการชำระเงิน

ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านควรเลือกระหว่างการจ่ายเงินก้อนเดียว จ่ายเงินแบบผ่อนหรือสินเชื่อบ้าน วิธีการแต่ละอย่างก็จะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป การจ่ายเงินแบบก้อนเดียวนั้นจะมีข้อดีตรงที่ว่า ผู้ซื้อนั้นจะไม่มีหนี้สินติดค้างไว้ และยังสร้างความสบายใจที่ไม่ต้องหาเงินมาผ่อนบ้านต่อเดือนอีกด้วย ในด้านของการขอสินเชื่อบ้าน ข้อดีก็คือ หลังจากที่เอาเงินไปดาวน์บ้านแล้ว สามารถนำเงินที่ออมไว้ไปลงทุนหรือทำอย่างอื่นเพื่อให้มีเงินงอกเงยเพิ่มมากขึ้นได้ แต่ว่าข้อเสียคือ การที่ต้องเป็นหนี้ในทุกเดือน ๆ และยังต้องผ่อนชำระทุกเดือนอีกด้วย และยังต้องยอมรับความเสี่ยงในการที่ไม่สามารถผ่อนชำระบ้านตามงวดที่กำหนดได้

5. มองหาส่วนลด 

การซื้อบ้านแล้วจริง ๆ ก็เหมือนกับการซื้อรถหรือซื้อของอื่น ๆ ที่สามารถถามหาส่วนลดได้ที่เหมาะสมได้ อีกทั้งการซื้อบ้านกับโครงการนั้น โครงการยังสามารถจัดโปรโมชั่นได้อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น ค่าส่วนกลางฟรี 1 ปี หรือการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกของส่วนกลางฟรี 1 ปีอีกด้วย 

6. การมองหาสินเชื่อบ้านที่ดี 

การเลือกสินเชื่อบ้านนั้นต้องสอดคล้องกับสถานะทางการเงินของผู้ซื้อ การผ่อนต่อเดือนต้องไม่แพงเกินความสามารถในการผ่อนชำระของผู้ซื้อ และที่สำคัญคือดอกเบี้ยของสินเชื่อนั้นต้องไม่แพงจนเกินไป การมีสินเชื่อบ้านจะดีนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับเครดิตบูโรของผู้กู้อีกด้วย การที่มีประวัติเครดิตบูโรที่ดีนั้นคือการที่ชำระหนี้ตรงตามงวดและไม่ค้างหนี้เกิน 90 วัน หากมีประวัติที่ไม่ดีนั้นธนาคารอาจไม่ปล่อยสินเชื่อบ้านให้ก็เป็นได้ ผู้ที่ต้องการทำสินเชื่อบ้านนั้นควรที่จะมีหนี้สินต่อเดือนน้อยกว่า 40% ของรายรับต่อเดือน มิฉะนั้นเจ้าหน้าที่ธนาคารอาจไม่สามารถปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้ 

ลงทุนให้งอกเงยก่อนซื้อบ้าน

การลงทุนให้มีเงินมากกว่าเดิมก่อนซื้อถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง เนื่องด้วยการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนในระดับที่น่าประทับใจและยังช่วยให้มีเงินเพิ่มมากขึ้นก่อนการซื้อบ้านอีกด้วย การลงทุนก่อนการซื้อบ้านจึงเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่นั้นให้ความสำคัญ เพราะมันสามารสร้างข้อดีและสร้างเงินเก็บได้มากมาย แต่ก่อนที่จะสามารถลงทุนได้นั้น นักลงทุนทุกคนต้องมีเงินออมหรือเงินเก็บก่อนถึงจะสามารถทำการลงทุนได้ และนี้คืออันดับปัจจัยพื้นฐานที่สามารถเพิ่มเงินออมได้และการวางแผนซื้อบ้านนั้นจะง่ายขึ้นเยอะ

1. วิธีออมเงินซื้อบ้าน

จริง ๆ แล้วการออมเงินนั้นสามารถทำได้หลากหลายวิธีมาก แต่หนึ่งในวิธีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายคือการมีบัญชี 2 บัญชี นั้นก็คือบัญชีที่ใช้ประจำและบัญชีฝากประจำหรือบัญชีออมเงิน โดยหากผู้ที่ต้องการซื้อบ้านได้รับเงินเดือนมาแล้วก็สามารถแบ่งสัดส่วนหนึ่งเพื่อเอาไปเก็บไว้ในบัญชีฝากประจำเพื่อป้องกันการถอนเงินออกมาใช้จ่าย และการวางแผนเก็บเงินแบบนี้จะช่วยให้มีเงินออมที่เพิ่มมากขึ้นอย่างคงที่ อีกหนึ่งข้อดีของวิธีนี้คือหากเราใช้เงินในบัญชีใช้จ่ายไม่หมด ก็สามารถโอนเงินเข้าไปในบัญชีฝากประจำได้อย่างง่ายดาย

2. การลงทุนในเงินออม

เป็นขั้นตอนถัดไปหลังจากที่ได้ทำการออมเงินแล้ว การที่จะทำให้เงินออมเข้าใกล้การดาวน์บ้านหรือการผ่อนบ้านที่เร็วขึ้นนั้นก็คือการลงทุนในเงินออม ในการลงทุนนั้นมีหลายรูปแบบมากมีทั้งแบบผลตอบแทนน้อยและมาก และความเสี่ยงน้อยถึงมากเช่นเดียวกัน 

การลงทุนมีหลากหลายแบบด้วยกัน และผู้คนก็ต่างให้ความสำคัญกับการลงทุนเพื่อเพิ่มเงินออมเป็นอย่างมาก การลงทุนในแต่ละแบบก็จะเหมาะกับผู้คนที่แตกต่างกันไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นช่วงอายุ การยอมรับความเสี่ยง หรือเงินต้น

• การลงทุนที่ความเสี่ยงต่ำที่นิยมมาก ๆ นั้นมีอยู่นอกเหนือจากการฝากเงินเพื่อรับดอกเบี้ย ก็คือการซื้อพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐบาลก็จะได้รับความเสี่ยงในระดับที่ต่ำเช่นเดียวกับการเงินฝาก แต่ก็จะมีผลตอบแทนที่ต่ำเช่นเดียวกับความเสี่ยง จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีต้นทุนในการลงทุนที่ค่อนข้างเยอะ เพราะตัวเลขของอัตราตอบแทนนั้นน้อย แต่ถ้าหากมีเงินทุนเยอะ ตัวเลขของผลตอบแทนนั้นก็จะดูเยอะเช่นกัน แต่ในช่วงนี้อีกหนึ่งการลงทุนที่น่าจับตามองก็คือ การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลต่างประเทศ หรือที่นิยมสุด ๆ ก็จะเป็นการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เนื่องด้วย ณ ปัจจุบัน ปี 2024 อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ค่อนข้างที่จะสูง เลยทำให้มีนักลงทุนจำนวนมากได้เลือกเข้าไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตาม การลงทุนในต่างประเทศก็จะมีความเสี่ยงที่มากกว่าการลงทุนในประเทศอยู่ แต่หากเปรียบเทียบตัวเลขนั้น การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ นั้นจะมีผลตอบแทนที่มากกว่าการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทยอยู่ประมาณหนึ่ง การลงทุนในพันธบัตรต่างประเทศจึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่นักลงทุนต้องคำนึงอัตราแลกเปลี่ยนที่ค่อนข้างจะผันผวน

• การลงทุนที่มีความเสี่ยงระดับปานกลางคงหนีไม่พ้นกองทุนรวม แต่ก็จะแลกมาด้วยความเสี่ยงที่อยู่ในระดับปานกลาง และผลตอบแทนที่สูงกว่าสินทรัพย์ที่อยู่ในหมวดหมู่ความเสี่ยงต่ำ อย่างไรก็ตาม การเลือกกองทุนรวมก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน เพราะด้วยการที่กองทุนรวมนั้นมีหลายเกรดมาก ๆ และประวัติกำไรและขาดทุนของแต่ละกองทุนรวมก็ไม่เหมือนกัน ฉะนั้นเวลานักลงทุนเลือกลงทุนในกองทุนรวมนั้นก็ควรที่จะตัดสินใจซื้อกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงที่นักลงทุนนั้นรับได้ 

• การลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง นั้นคือการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก เช่น การซื้อขายกรมธรรม์ประกันภัย อสังหาริมทรัพย์นอกตลาด การซื้อขายหุ้นนอกตลาด สกุลเงิน หรือแม้แต่ สินทรัพย์ใหม่อย่าง สินทรัพย์ดิจิทัลหรือ Cryptocurrencies การเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงนั้นก็มีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนสูงเช่นเดียวกัน แต่ ณ เวลานี้ต้องยอมรับว่าสินทรัพย์ที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากก็คือ สินทรัพย์ดิจิทัลหรือ Cryptocurrencies นั่นเอง เนื่องด้วยการที่เพิ่งประกาศ Bitcoin ETFs ไปเมื่อต้นปี 2024 ทำให้ ETFs เป็นกองทุนที่ทำหน้าที่เหมือนสะพานที่เชื่อมระหว่างการลงทุนในโลกดั้งเดิมและการลงทุนในโลกดิจิทัล และทั้งเร็ว ๆ นี้ในปี 2024 ยังจะมีการเปิดให้ลงทุนใน Ethereum ETFs อีกด้วย การลงทุนในกองทุน ETFs สามารถทำได้ง่ายจึงทำให้นักลงทุนได้ให้ความสำคัญกับสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น และอีกทั้งประเทศสหรัฐฯ ยังให้ความสำคัญกับสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นอย่างมาก เนื่องจากการหาเสียงของทั้ง Donald Trump และ Joe Biden ได้มีการนำ Cryptocurrencies มาเป็นอีกหนึ่งนโยบายในการหาเสียง และสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ อย่างเช่น Blackrock และ Fidelity ได้มีการเปิดกองทุน Bitcoin ETFs แสดงให้ถึงการที่บริษัทต่างๆ ได้มีการยอมรับในตัวสินทรัพย์ดิจิทัล และเริ่มหยิบจับสินทรัพย์ดิจิทัลและนำมาเป็นหนึ่งในตัวเลือกในการลงทุนแก่นักลงทุนทั้งหลาย อีกทั้งสินทรัพย์ดิจิทัลยังถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่ใหม่มากสำหรับโลกใบนี้ และสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นยังมีโอกาสที่จะเติบโตอีกมากมาย 

และด้วยหากที่ผู้ที่ได้ดาวน์บ้านไปแล้ว และต้องการลงทุนเพื่อที่จะทำให้ผ่อนบ้านได้ง่ายขึ้นนั้นก็สามารถที่จะทำได้ แต่ไม่แนะนำให้ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงเป็นส่วนใหญ่ เพราะสามารถเสียเงินลงทุนทั้งจำนวนได้ และแนะนำให้กระจายพอร์ตการลงทุน โดยลงทุนในทุก ๆสินทรัพย์แต่สัดส่วนก็จะต่างกันไป ตามความเสี่ยงที่ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านรับได้ 

การซื้อบ้านนั้นถือว่าเป็นการลงทุนที่สำคัญต่อชีวิตอย่างมาก เนื่องด้วยบ้านนั้นมีราคาที่สูง

มากการวางแผนเก็บเงินซื้อบ้าน จึงถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากเช่นเดียวกัน นอกเหนือจากนั้น การวางแผนนั้นยังช่วยให้ควบคุมระเบียบวินัยของตัวผู้ที่ต้องการจะซื้อบ้านในเรื่องของการสำรวจตัวเองในด้านของรายรับรายจ่าย การรู้จักเก็บออม การเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่ตนเองชื่นชอบและยอมรับได้ 

การหารายได้เสริม

การหารายได้เสริมนั้นถือว่าเป็นการทำที่ไม่ยากเท่าการลงทุนและยังปลอดภัยกว่าการลงทุน ผลตอบแทนที่มาจากการหารายได้เสริมก็แล้วแต่ความสามารถของบุคคลคนนั้นว่าสามารถมีเวลาทำอาชีพเสริมได้มากน้อยเพียงใด โดยอาชีพเสริมที่ได้ความนิยมมีดังนี้

• การขายของออนไลน์ สามารถทำได้ง่ายและมีผลตอบแทนที่น่าประทับใจ รายได้จากการขายของออนไลน์นั้นจะมากหรือน้อยก็จะขึ้นอยู่กับตัวผู้ขายเอง ว่าสามารถดึงดูดลูกค้าได้มากน้อยเพียงใด อีกทั้งการขายของออนไลน์บางทียังใช้ต้นทุนที่ต่ำมาก ๆ เช่น การเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าจากแบรนด์ที่ดัง ในบางครั้งจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายไม่จำเป็นที่จะต้องสต๊อกสินค้าไว้หากอยากเลิกทำอาชีพก็ค่อนข้างที่จะง่าย

• ขับรถส่งอาหารหรือขับรถส่งคน เป็นอาชีพที่รายได้จะขึ้นอยู่กับเวลาของคนขับ หากคนขับมีเวลาขับมากก็สามารถสร้างผลตอบแทนต่อวันที่มากขึ้นเช่นกัน แต่การทำอาชีพนี้จะคุ้มที่สุดก็ต่อเมื่อมียานพาหนะเป็นของตนเอง เพราะจะได้ไม่ต้องลงทุนที่จะซื้อยานพาหนะมาใช้นั่นเอง แต่ด้วยบางแพลตฟอร์มนั้นมีเงื่อนไขที่เอาเปรียบคนขับเกินไป ผู้ที่สนใจงานนี้จึงควรเลือกแพลตฟอร์มที่มีเงื่อนไขที่ไม่เอาเปรียบผู้ขับจนเกินไป 

• ติวเตอร์สอนพิเศษ หากคุณเป็นผู้ที่มีความรู้ทักษะในเรื่องของการเรียนดีอยู่แล้ว การเป็นติวเตอร์ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอาชีพเสริมที่สามารถสร้างรายได้ดี จนสามารถมาทำเป็นอาชีพหลักได้เช่นเดียวกัน รายได้ของอาชีพนี้ค่อนข้างที่จะสูงและยังสามารถเลือกเวลาและสถานที่ทำงานตามสะดวกได้อีกด้วยเพราะติวเตอร์สามารถสอนออนไลน์ได้ และอย่างไรก็ตามถ้าหากผู้ปกครองของนักเรียนต้องการให้สอนพิเศษแบบตัวต่อตัวก็ได้เช่นเดียวกัน และอีกหนึ่งตัวเลือกก็คือการสร้างคอร์สเรียนเป็นแบบกลุ่ม ซึ่งก็เป็นที่นิยมในหมู่ติวเตอร์เนื่องด้วยการที่ได้รับเงินทีเดียวเยอะ ๆ และยังไม่ต้องเหนื่อยสอนหลายรอบอีกด้วย 

• การขายอาหารออนไลน์ ถือว่าเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่สามารถทำได้ง่าย เพราะ ในปัจจุบัน มีแพลตฟอร์มที่คนทั่วไปสามารถลงทะเบียนเพื่อขายอาหารได้ และถ้าหากคุณเป็นคนที่มีฝีมือในการทำอาหารอยู่แล้ว อาชีพนี้ก็เป็นหนึ่งตัวเลือกในการทำเป็นอาชีพเสริมอีกด้วย อีกทั้งยังมีผู้คนบางกลุ่มที่ชอบสั่งอาหารตอนกลางคืน และตอนกลางคืนก็ไม่ได้มีร้านอาหารให้เลือกเท่าตอนกลางวันอีกด้วย ทำให้ถ้าหากขายอาหารตอนกลางคืนด้วย ก็จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางการทำเงินได้

• Influencer การรีวิวสินค้าสำหรับหนุ่มสาวความสามารถเฉพาะตัว การเป็น Influencer หรือที่เรารู้จักกันในนาม อินฟูล ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยาก อีกทั้งยังสามารถหารายได้ที่ง่ายและรวดเร็วอีกด้วย และอีกหนึ่งข้อดีของอาชีพนี้คือการที่สามารถเลือกรับงานตามความชอบได้อีกด้วย 

• รับจ้างต่อคิว อาชีพเสริมหนี้เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่มีมานานแล้ว แต่ผู้คนนั้นยังไม่ค่อยรู้จักกัน ผู้ที่ทำอาชีพรับจ้างต่อคิวนั้นต้องเป็นคนที่มีเวลาว่างและความอดทนพอสมควร เนื่องด้วยร้านบางร้านนั้นมีคิวที่ยาวมาก ๆ ทำให้การรอนั้นเป็นสิ่งที่ค่อนข้างจะน่าเบื่อ และอาชีพนี้เป็นอาชีพที่สามารถทำได้เลย โดยที่ไม่ต้องลงทุนแม้แต่บาทเดียว

• เทรนเนอร์ส่วนตัว เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ได้รับความสนใจจากผู้ที่ทำงานประจำและยังชื่นชอบในการเข้าฟิตเนส อาชีพนี้สามารถได้รับรายได้ที่สูงในระดับหนึ่งเช่นเดียวกัน และอาชีพนี้ยังสร้างข้อได้เปรียบตรงที่ผู้ที่เป็นเทรนเนอร์นั้นสามารถออกกำลังกายได้ในเวลาที่ทำไปด้วยได้เลย 

• รับจ้างถ่ายภาพ แค่คุณมีเวลา มีกล้อง และมีทักษะในการแต่งรูปเป็นของตัวเองนั้นก็สามารถทำอาชีพนี้ได้เช่นเดียวกัน โดยที่อาชีพนี้ส่วนใหญ่แล้วจะต้องใช้เวลาที่นานพอสมควร การทำอาชีพเสริมรับจ้างถ่ายภาพนั้นจึงจะหาคนที่สามารถทำได้ค่อนข้างยาก นอกจากวันหยุดหรือวันเสาร์อาทิตย์เท่านั้น

หมายเหตุ

คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวนและสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง และ ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้