เกษียณก่อนกำหนด คืออะไร ? วางแผนเกษียณอย่างไรให้มีความสุข ?

ตุลาคม 10, 2024

thumbnail

การเกษียณก่อนกำหนดนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ปกติสำหรับคนยุคนี้ และการวางแผนการเกษียณนั้นก็สำคัญต่อการเกษียณก่อนกําหนดอย่างมาก

 

เกษียณก่อนกําหนด คืออะไร ?

 

เกษียณก่อนกําหนด คืออะไร

 

การเกษียณก่อนกําหนดหรือ Early Retirement คือ การเกษียณอายุก่อนอายุ 60 ปี ซึ่งเป็นอายุการเกษียณตามปกติในประเทศไทย ซึ่งการเกษียณก่อนกำหนดนั้นเปรียบเสมือนหนึ่งในความฝันของใครหลาย ๆ คน เนื่องจากการเกษียณก่อนกําหนดนั้นจะเป็นการได้พักจากการทำงานเร็วกว่ากำหนด และสามารถมีเวลาทำอย่างอื่นได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องกระทบเวลางาน แต่การเกษียณก่อนกําหนดนั้นควรจะมีการวางแผนที่ดีและครอบคลุมในทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการเงิน ที่ควรมีการจัดแบ่งไว้อย่างดีและเก็บไว้เผื่อฉุกเฉิน

 

  • การเกษียณก่อนกําหนด หรือ Early Retirement การเกษียณอายุก่อนอายุ 60 ปี ซึ่งผู้คนที่เลือกการเกษียณก่อนกำหนด หรือ Early Retirement นั้นมักจะมีเป้าหมายในชีวิตที่ไม่ต้องทำงาน ไม่ต้องเร่งรีบ ไม่ต้องเครียด 
  • สำหรับการเกษียณก่อนกำหนด หรือ การ Early Retirement ก็เปรียบเสมือนการหยุดการทำงานและหยุดการสร้างรายได้จากการทำงานและต้องใช้ชีวิตอย่างประหยัด มิฉะนั้นเงินที่ออมไว้ตั้งแต่วัยทำงานอาจะหมดลงได้ 
  • การเกษียณก่อนกำหนดนั้นควรที่จะมีการวางแผนไว้อย่างดี รวมถึงการวางแผนด้านการเงิน และควรที่จะมีระเบียบวินัยต่อตนเองในการเก็บออมเงินในช่วงวัยทำงานอีกด้วย ไม่งั้นการเกษียณก่อนกำหนด หรือการ Early Retire จะเป็นเรื่องที่ยากที่จะทำได้ 

 

และนี่คือเหตุผลที่คนส่วนใหญ่เลือกที่จะเกษียณก่อนกำหนด แล้วการเกษียณก่อนกำหนด ได้อะไรบ้าง

  • อยากใช้ชีวิตแบบอิสระ โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องงาน
  • อยากมีเวลาสำหรับครอบครัวและคนรักเพิ่มมากขึ้น
  • อยากมีเวลาพักผ่อนได้อย่างเต็มที่โดยที่ไม่ต้องมากังวลเรื่องงาน
  • อยากได้มีโอกาสทำกิจกรรมใหม่ ที่ตอนช่วงทำงานไม่มีเวลาที่จะได้ทำ
  • อยากเดินทางไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ ที่ยังไม่เคยไป

 

ส่วนใหญ่การเกษียณก่อนกำหนดนั้นจะมีอยู่ 2 แบบด้วยกัน นั้นก็คือ Voluntary Early Retirement และ Involuntary Early Retirement 

  • Voluntary Early Retirement หรือการเกษียณก่อนกำหนดที่เป็นการตัดสินใจของพนักงานหรือเป็นการสมัครใจลาออกเองนั้นเอง โดยที่ในหลายบริษัทมีการจัดทำโครงการสมัครในลาออกให้กับพนักงาน ซึ่งหนักงานที่มีการเข้าร่วมโครงการ ก็จะมีสิทธิที่จะได้รับประโยชน์ต่าง ๆ สำหรับโครงการนี้ ยกตัวอย่างเช่น เงินชดเชย เงินบำนาญ หรือสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ โดยที่จุดประสงค์ของโครงการนี้คือการให้ผู้ที่สมัครใจในการเกษียณก่อนกำหนดนั้นสามารถในชีวิตเกษียณได้อย่างมีคุณภาพและมีเงินใช้ได้ตลอดการเกษียณ
  • Involuntary Early Retirement หรือการเกษียณด้วยการไม่สมัครใจ ถ้าแผลตรง ๆ ก็คือการโดนไล่ออก หรือโดนบีบให้ออกนั้นเอง ซึ่งอาจจะเกิดจากหลากหลายสาเหตุได้เช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น บริษัทล้มละลาย บริษัทขาดทุนไม่มีงบประมาณในการจ้างพนักงานต่อ โดยที่ปกติแล้วพนักงานที่โดนบริษัทไล่ออกนั้นก็จะได้รับเงินชดเชยอยู่แล้ว แต่ทว่าเงินชดเชยนั้นอาจไม่พอสำหรับการใช้ชีวิตเกษียณนั้นเอง 

 

ประเมินความพร้อมเพื่อเกษียณก่อนกำหนดอย่างมีความสุข 

 

ประเมินความพร้อมเพื่อเกษียณก่อนกำหนดอย่างมีความสุข

 

การเกษียณก่อนกำหนดนั้นเป็นเรื่องที่ใครก็สามารถทำได้ แต่ว่าการเกษียณก่อนกำหนดแล้วมีชีวิตที่มีความสุขนั้นไม่ใช่ทุกคนจะทำได้ เนื่องด้วยคนที่ความต้องการไม่เท่ากันโดยธรรมชาติ บางคนอาจจะชอบมีเงินเยอะ บางคนอาจจะชอบมีความสุขมากกว่าการมีเงิน บางคนนั้นแค่ต้องการที่จะอยู่กับครอบครัวในทุก ๆ วัน และด้วยยุคนี้เป็นยุคที่การเกษียณก่อนกำหนดนั้นเป็นสิ่งที่แพร่หลาย ฉะนั้นการมีความรู้และการประเมินตนก่อนการเกษียณก่อนกำหนดนั้นถือว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก และการประเมินความพร้อมก่อนการเกษียณสามารถทำได้ด้วยตัวเองเช่นกัน และนี่คือการประเมินตามนี้

 

1. ประเมินอายุที่ต้องการจะเกษียณและเวลาที่เหลืออยู่ในการทำงาน ยกตัวอย่างเช่น ตอนนี้อายุ 25 แต่ว่าต้องการที่จะเกษียณในอายุ 45 เท่ากับว่าจะเหลือเวลาในการทำงานอีก 20 ปี หรือแปลได้อีกแบบนึงคือการมีเวลาหาเงินอีก 20 ปีนั้นเอง และผู้ที่ต้องการเกษียณก่อนกำหนดก็สามารถคำนวณรายรับรายจ่ายของตนเองต่อเดือนได้และสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่าเมื่อเกษียณแล้วจะมีเงินอยู่เท่าไหร่ 

 

2. รายรับรายจ่ายหลังการเกษียณ เราควรจะคำนวณว่าหลังการเกษียณไปแล้วค่าใช้จ่ายต่อเดือนจะอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ รวมไปถึงการที่ต้องออมเงินและเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉินอีกด้วย 

 

3. ทรัพย์สินและหนี้สิน การที่มีทรัพย์สินนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และยังเป็นอีกหนึ่งหลักประกันที่ช่วยให้ผู้ที่ต้องการเกษียณก่อนกำหนดมีไว้ในยามฉุกเฉินได้อีกด้วย ในช่วงหลังการเกษียณ ยังสามารถนำทรัพย์สินที่มีไปต่อยอดให้มีเงินงอกเงยขึ้นมาได้อีกด้วย และในส่วนของหนี้สิน ผู้ที่ต้องการที่จะเกษียณก่อนกำหนดควรที่จะสำรวจตัวเองว่าตนเองมีหนี้สินอะไรไหม หากมีควรเริ่มชำระหนี้สินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงเป็นอันดับแรก และไล่ไปจนถึงหนี้ที่มีดอกเบี้ยต่ำ การมีหนี้สินก็ทำให้ผู้ที่ต้องการเกษียณก่อนกำหนดนั้นต้องเก็บเงินมากขึ้นกว่าเดิมเพื่อที่ต้องการที่จะชำระหนี้ให้หมดนั้นเอง

 

4. สุขภาพของตัวผู้ที่ต้องการเกษียณก่อนกำหนด ผู้ที่ต้องการเกษียณก่อนกำหนดอาจจะต้องมองหาประกันภัยด้านสุขภาพให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก เพราะการที่เกษียณไปแล้วก็จะไม่มีอำนาจในทำงานและหาเงินในจำนวนที่คงที่ทุกเดือน การทำประกันภัยด้านสุขภาพนั้น เมื่อเราเจ็บป่วยทางประกันก็จะมีหน้าที่ในการรับผิดชอบในค่าใช้จ่ายตามที่วงเงินกำหนดนั้นเอง อีกทั้งยังไม่ต้องกระทบถึงเงินเก็บฉุกเฉินอีกด้วย 

 

5. เงินออมและการลงทุนหลังเกษียณ เงินออมเป็นเงินต้นในการลงทุนในช่วงชีวิตเกษียณ และการลงทุนในการเกษียณก่อนกำหนดนั้นถือว่าเป็นหนึ่งในการเลือกในการเพิ่มเงินออมให้งอกเงยขึ้นมานั้นเอง โดยที่การลงทุนนั้นสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบและความเสี่ยงก็สามารถเลือกได้ตามความต้องการของนักลงทุนเลย ยกตัวอย่างเช่น การลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงน้อยอย่าง พันธบัตรรัฐบาล ดอกเบี้ยเงินฝาก การลงทุนในสินทรัพย์ระดับความเสี่ยงกลางอย่าง กองทุนรวม การลงทุนในสินทรัพย์ระดับความเสี่ยงสูงอย่าง หุ้น สินทรัพย์ดิจิทัลหรือ Cryptocurrencies สำหรับการลงทุนนั้นนักลงทุนควรที่จะกระจายความเสี่ยงไปในหลาย ๆ สินทรัพย์ด้วยกัน เช่นการที่มีสินทรัพย์เสี่ยงสูงอยู่ประมาณ 10% สินทรัพย์เสี่ยงกลาง 20% และสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ 70% แต่อย่างไรก็ตามสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มว่าจะได้ผลตอบแทนเยอะที่สุดก็หนีไม่พ้นสินทรัพย์ดิจิทัลหรือ คริปโตฯ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ใหม่มากสำหรับโลกการลงทุนและแน่นอนว่าโอกาสในการเติบโตก็สูงเช่นเดียวกัน แต่ก็ต้องแลกมาด้วยกับความเสี่ยงที่สูงเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม การลงทุนในทุกสินทรัพย์นั้นมีความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาในสินทรัพย์นั้น ๆ ให้เป็นอย่างดีก่อนทำการลงทุน 

 

6. ที่อยู่อาศัยหลังเกษียณ สำหรับผู้ที่ต้องการเกษียณและมีที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโดอยู่ ก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับด้านของที่อยู่อาศัย แต่สำหรับคนที่ยังไม่มีที่อยู่อย่างถาวรก็ต้องคำนึงจุดนี้เป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญในการคาดการณ์ค่าใช้จ่าย และอย่าลืมคำนึงถึงการเป็นหนี้และชำระหนี้อีกด้วย

 

ขั้นตอนการเกษียณก่อนกำหนด

 

ขั้นตอนการเกษียณก่อนกำหนด

 

การวางแผนการเกษียณก่อนกำหนดถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก หากไม่มีการวางแผนก่อน จะทำให้เกิดความผิดพลาดในเรื่องต่าง ๆ ได้ ยกตัวอย่างเช่น เรื่องเงิน เรื่องที่อยู่อาศัย เป็นต้น และเมื่อได้มีการประเมินความพร้อมเพื่อเข้าสู่การเกษียณก่อนกำหนดเรียบร้อยแล้ว และนี้คือขั้นตอนการเกษียณก่อนกำหนดที่ผู้คนควรจะต้องทำ

 

1. คำนวณค่าใช้จ่ายยามเกษียณ โดยทั่วไปแล้วการคาดการณ์จำนวนเงินที่ต้องใช้ไม่ใช่เรื่องยากซะทีเดียว โดยที่เราสามารถคำนวณจากการที่เอาเงินที่จะใช้ระหว่างเกษียณต่อเดือนมาคุณกับจำนวนเดือนที่คิดว่าเราจะมีอายุถึง และโดยสำคัญที่สุดอย่าลืมคูณกับจำนวนเงินเฟ้อเข้าไปด้วย อย่างไรก็ตามพอได้ตัวเลขทั้งหมดมาแล้ว ต้องเพิ่มในส่วนของเงินสำรองฉุกเฉินเข้าไปอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น การตั้งเป้าหมายว่าต้องการเกษียณในอายุ 40 ปี และต้องการมีชีวิตอยู่ถึงอายุ 70 ปี ในช่วงเวลาของเกษียณ 30 ปี นั้นมีความต้องการที่จะใช้เงินเดือนละ 25,000 บาท และสมมุติว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 3% ต่อปี และเมื่อรวมเงินออมสำรองที่ใช้ในยามฉุกเฉินเข้าไปก็ต้องมีเงินถึง 9,500,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนเงินที่เยอะมาก 

 

2. ตรวจสอบเงินออมที่มีอยู่ เมื่อได้จำนวนเงินที่ต้องใช้ในช่วงเวลาหลังการเกษียณก่อนกำหนดแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือการสำรวจ ณ ปัจจุบันว่ามีเงินออมอยู่เท่าไหร่ ตัวอย่างเช่น บัญชีเงินฝาก ประกันภัยต่าง ๆ เงินลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เป็นต้น และการตรวจสอบเงินออมนั้นสามารถแสดงให้เงินถึงเงินออมทั้งหมดที่มี และยังแสดงให้เห็นถึงตัวผู้ที่ต้องการเกษียณก่อนกำหนดนั้นขาดเงินอีกเท่าไหร่ถึงจะครบตามการคำนวณค่าใช้จ่ายในช่วงชีวิตเกษียณ 

 

3. วางแผนการลงทุนสร้างเงินออม เมื่อรับรู้ถึงจำนวนเงินที่ขาดไปแล้ว ก็ควรที่จะสำรวจรายรับรายจ่ายต่อเดือนว่าเหลือเงินลงทุนต่อเดือนเท่าไหร่ และการลงทุนก็ควรไปควบคู่กับความเสี่ยงที่นักลงทุนรับได้ สินทรัพย์ที่เสี่ยงต่ำอย่าง ดอกเบี้ยเงินฝาก พันธบัตรรัฐบาล สินทรัพย์เสี่ยงกลางอย่าง กองทุนรวม สินทรัพย์แบบเสี่ยงสูงอย่าง หุ้น สินทรัพย์ดิจิทัล หรือ Cryptocurrencies ละอีกหนึ่งตัวชี้วัดที่จะช่วยจัดพอร์ตการลงทุนได้นั้นคืออายุ การเริ่มต้นตั้งแต่อายุยังน้อย หากยังไม่ประสบความสำเร็จในการลงทุนแบบเสี่ยงสูงก็ยังสามารถเริ่มการลงทุนใหม่ได้ แต่ถ้าหากประสบความสำเร็จก็จะทำให้มีเงินออมมากกว่าเดิมค่อนข้างสูง เนื่องด้วยการลงทุนแบบเสี่ยงสูงนั้นก็จะมีผลตอบแทนที่สูงเช่นเดียวกัน และนี้คือการจัดพอร์ตการลงทุนแบบเชิงรุกที่ลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงสูงเพื่อเน้นผลตอบแทนที่สูง แต่ถ้าหากเป็นักลงทุนที่มีอายุ การลงทุนก็ควรจะเปลี่ยนไปด้วย ยกตัวอย่างเช่น การจัดพอร์ตการลงทุน โดยที่ไม่จำเป็นต้องลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยงสูงเสมอไป อาาจะจัดพอร์ตแบบมีสินทรัพย์เสี่ยงสูง 10% สินทรัพย์เสี่ยงกลาง 20% และสินทรัพย์เสี่ยงต่ำอีก 70% เพิ่มเน้นรักษาเงินต้นและยังมีเงินงอกเงยออกมาจากการลงทุนอีกด้วย

 

4. มองหาอาชีพเสริมที่ทำให้มีความสุขและมีเงินเข้ามา การมีอาชีพเสริมในช่วงหลังการเกษียณนั้นสามารถสร้างรายได้ได้อย่างมีนัยสำคัญ การที่ทำสิ่งที่ชอบอยู่แล้วและสร้างรายได้ สามารถสร้างความสุขให้ได้อย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น การชอบรถยนต์ และเปิดอู่เกี่ยวกับรถยนต์ก็สามารถสร้างรายได้ให้ได้ แต่การเปิดอู่รถก็ต้องใส่เงินลงทุนที่เยอะเช่นเดียวกัน อีกหนึ่งตัวอย่างที่มีคนทำกับอย่างแพร่หลายนั้นก็คืออาชีพขายขนม เนื่องด้วยขนมนั้นเป็นสิ่งที่ทำง่ายและยังสามารถสร้างรายได้ที่ดีอีกด้วย อีกทั้งการทำขนมยังสร้างความเพลิดเพลินและสร้างความสุขให้แก่คนทำ และด้วยการที่ทำขนมขายนั้นไม่ได้ใช้ต้นทุนที่สูงนัก ทำให้เป็นอาชีพเสริมที่เรียกว่าแทบจะเริ่มทำได้เลยนั้นเอง โดยที่ยุคสมัยนี้นั้นผู้คนที่เกษียณก่อนกำหนดนั้นได้มีการหารายได้เสริมกันเยอะแยะมากมาย การหารายได้เสริมจึงเป็นเรื่องปกติและไม่ได้ด้อยค่าคนที่ทำอาชีพเสริม 

 

5. ทบทวนเป้าหมายอย่างสม่ำเสมอ เมื่อได้ออมเงินหรือมีเงินทุนที่เก็บไว้ใช้ชีวิตหลังการเกษียณก่อนกำหนดแล้ว ที่สำคัญเลยคือการตรวจสอบหรือสำรวจเป้าหมายการลงทุนอยู่เสมอ และต้องบริหารพอร์ตการลงทุนให้มีผลตอบตามที่คาดหวังเอาไว้ และเมื่อเวลาผ่านไปก็ต้องคำนวณในส่วนของความเสี่ยงเพิ่มเข้าไปอีกด้วย เพราะสินทรัพย์บางประเภท ความเสี่ยงนั้นสามารถที่จะเกิดความเสี่ยงตามเวลาได้ ยกตัวอย่างเช่น ความผันผวนของราคาน้ำมันเมื่อเกิดสงคราม หรือค่าเงินเวลาที่เกิดสงคราม ความเสี่ยงจากการลงทุนจึงเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการเลือกลงทุน และผู้ที่เกษียณก่อนกำหนดนั้นยังควรคำนึงถึงการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและควรที่จะเพิ่มรายรับและลดรายจ่าย เพื่อออมเงินให้ได้มากที่สุดเพื่อป้องกันเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

 

การเกษียณก่อนกำหนดหรือการ Early Retirement คือการที่มีเงินออมพอสมควรแล้วจึงจะทำได้ แปลว่าตอนวัยทำงานนั้นต้องทำงานหนักและหักโหมอย่างมากเพื่อการเก็บเงินไว้ใช้หลังการเกษียณ และด้วยเรื่องสุขภาพที่ต้องดูแลเป็นพิเศษที่อาจต้องพึ่งค่าใช้จ่ายที่เยอะมาก การเกษียณก่อนกำหนดนั้นจึงต้องวางแผนก่อนล่วงหน้า และต้องมีระเบียบวินัยในด้านของการเก็บเงินอย่างสูง สุดท้ายการลงทุนในช่วงหลังการเกษียณก็สำคัญเช่นเดียวกัน เพราะเป็นส่วนที่จะทำให้เงินออมนั้นงอกเงยขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรเลือกสินทรัพย์ที่ตัวเองยอมรับในเรื่องของความเสี่ยงได้และยังต้องจัดพอร์ตให้มีสินทรัพย์หลากหลายประเภทเพื่อกระจายความเสี่ยงอีกด้วย

 

หมายเหตุ

คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวนและสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง และ ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

Merkle Capital คือผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกในประเทศไทย ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานก.ล.ต. บริษัทให้การดูแลและบริหารเงินลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลแก่ลูกค้าด้วยกลยุทธ์ที่หลากหลายโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนและการบริหารจัดการ