อยากลงทุนในสินทรัพย์ที่มีมาร์เก็ตแคปสูง ต้องทำยังไง

ตุลาคม 28, 2024

thumbnail

มาร์เก็ตแคป (Market Cap) คืออะไรในคริปโต

ในโลกของคริปโตเคอร์เรนซี "มาร์เก็ตแคป คริปโต" หรือ "Market Cap of Cryptocurrency" (มูลค่าตลาด) เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินมูลค่ารวมของคริปโตเคอร์เรนซีทั้งหมดในตลาด โดยคำนวณจากราคาปัจจุบันของเหรียญคูณกับจำนวนเหรียญทั้งหมดที่มีอยู่ มาร์เก็ตแคปช่วยให้นักลงทุนเข้าใจขนาดและความสำคัญของคริปโตเคอร์เรนซีแต่ละเหรียญ รวมถึงระดับความเสี่ยงและโอกาสในการเติบโต ทำให้การตัดสินใจลงทุนมีข้อมูลและเหตุผลที่ดีขึ้น ซึ่งมีหลายรูปแบบของ Market Cap


มาร์เก็ตแคป (Market Cap) คืออะไรในคริปโต

Market Cap of Crypto (มูลค่าตลาด) 

คือการวัดมูลค่ารวมของคริปโตเคอร์เรนซีทั้งหมดที่มีอยู่ในตลาด คำนวณได้โดยการคูณราคาปัจจุบันของคริปโตเคอร์เรนซีนั้นด้วยจำนวนเหรียญหรือโทเค็นที่มีอยู่ทั้งหมด โดยสูตรในการคำนวณ Market Cap คือ: 

Market Cap = ราคาปัจจุบันของคริปโตเคอร์เรนซี × จำนวนเหรียญหรือโทเค็นที่มีอยู่ในตอนนั้น

Market Cap = Price x Total Supply

ตัวอย่างเช่น:

ถ้าคริปโตเคอร์เรนซี A มีราคาปัจจุบันที่ 10 ดอลลาร์ และมีจำนวนเหรียญที่มีอยู่ทั้งหมด 1,000,000 เหรียญ Market Cap ของคริปโตเคอร์เรนซี A จะเท่ากับ 10,000,000 ดอลลาร์

Total Crypto Market Cap (มูลค่ารวมทั้งตลาด) 

คือมูลค่ารวมของคริปโตเคอร์เรนซีทั้งหมดที่มีอยู่ในตลาด คำนวณโดยการรวมมูลค่าตลาดของคริปโตเคอร์เรนซีทุกเหรียญที่ซื้อขายอยู่ในตลาด ซึ่งช่วยให้นักลงทุนและผู้สนใจสามารถเข้าใจภาพรวมของตลาดคริปโตเคอร์เรนซีทั้งหมดว่ามีมูลค่าเท่าใดและมีแนวโน้มการเติบโตหรือหดตัวอย่างไร

Total Crypto Market Cap=ผลรวมของทุกเหรียญ(ราคาปัจจุบันของแต่ละเหรียญ×จำนวนเหรียญที่มีอยู่) / จำนวนคริปโตเคอร์เรนซีทั้งหมด

Fully Diluted Market Cap หรือ Fully Diluted Valuation (FDV) (มูลค่าตลาดเต็มที่) 

คือมูลค่าตลาดของคริปโตเคอร์เรนซีถ้าทุกเหรียญที่ถูกการสร้างออกมาได้ถูกนำเข้าสู่ตลาดแล้ว คำนวนเหมือนกันกับ Market Cap แต่จะคำนวนจากจำนวนเหรียญหรือโทเค็นที่มีอยู่ทั้งหมด ให้ภาพที่ชัดเจนเกี่ยวกับมูลค่าที่เป็นไปได้ของคริปโตเคอร์เรนซีหากทุกเหรียญถูกสร้างออกมาและเข้าสู่ตลาดแล้ว ซึ่งช่วยให้นักลงทุนเข้าใจถึงความเสี่ยงและศักยภาพในการเจือจางมูลค่าของเหรียญ

Market Cap ถูกใช้เป็นตัวชี้วัดความสำคัญและความนิยมของคริปโตเคอร์เรนซีในตลาด โดยทั่วไปแล้ว คริปโตเคอร์เรนซีที่มี Market Cap สูงจะถูกมองว่ามีความเสถียรและได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนมากกว่า ซึ่งจะถูกแบ่งแยกออกเป็นอีก 3 ประภท "Large Cap," "Mid Cap," และ "Small Cap" และมีความสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุน

 

มาร์เก็ตแคปสำคัญอย่างไร

Market Cap หรือมูลค่าตลาด มีความสำคัญในโลกของคริปโตเคอร์เรนซีด้วยเหตุผลหลายประการ ดังนี้:

1. การวัดขนาดและความสำคัญของคริปโตเคอร์เรนซี:

  • Market Cap ช่วยให้นักลงทุนและผู้สนใจสามารถเข้าใจได้ว่าคริปโตเคอร์เรนซีนั้นมีขนาดใหญ่หรือเล็กเมื่อเปรียบเทียบกับคริปโตเคอร์เรนซีอื่น ๆ ในตลาด
  • มูลค่าตลาดที่สูงบ่งบอกถึงการยอมรับและความไว้วางใจจากนักลงทุนมากขึ้น

2. การประเมินความเสี่ยง:

  • คริปโตเคอร์เรนซีที่มี Market Cap สูงมักจะมีความเสถียรและความเสี่ยงต่ำกว่า เนื่องจากมีการลงทุนและการสนับสนุนจากนักลงทุนมากขึ้น
  • คริปโตเคอร์เรนซีที่มี Market Cap ต่ำมักจะมีความเสี่ยงสูงกว่า แต่ก็มีโอกาสในการเติบโตสูงหากได้รับการยอมรับมากขึ้น

3. การกระจายความเสี่ยงในการลงทุน:

  • นักลงทุนสามารถใช้ Market Cap เพื่อช่วยในการกระจายการลงทุน โดยการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีที่มี Market Cap ต่างกันเพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทน
  • การลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีที่มี Market Cap หลากหลายช่วยให้พอร์ตการลงทุนมีความหลากหลายและปลอดภัยมากขึ้น

4. การเปรียบเทียบกับตลาดอื่น:

  • Market Cap ช่วยให้สามารถเปรียบเทียบคริปโตเคอร์เรนซีกับสินทรัพย์การเงินอื่น ๆ เช่น หุ้นหรือทองคำ เพื่อประเมินความสำคัญและแนวโน้มการเติบโตของคริปโตเคอร์เรนซีในภาพรวม
  • นักลงทุนสามารถใช้ข้อมูลนี้ในการตัดสินใจเกี่ยวกับการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ

5. การวิเคราะห์ตลาด:

  • Market Cap เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญที่ใช้ในการวิเคราะห์ตลาดคริปโตเคอร์เรนซี โดยสามารถใช้ร่วมกับข้อมูลอื่น ๆ เช่น ปริมาณการซื้อขาย และราคา เพื่อประเมินแนวโน้มและสุขภาพของตลาด
  • ช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลและมีเหตุผลมากขึ้น

การไม่ดู Market Cap (มูลค่าตลาดรวม) อาจมีข้อเสียหลายประการดังนี้:

  • การประเมินมูลค่าที่ไม่ถูกต้อง: การไม่ดู Market Cap อาจทำให้คุณไม่สามารถประเมินมูลค่าของสินทรัพย์หรือบริษัทได้อย่างถูกต้อง การพิจารณาเฉพาะราคาหุ้นหรือราคาสินทรัพย์โดยไม่ดู Market Cap อาจทำให้คุณคิดว่าราคาถูกหรือแพงเกินไป
  • การพิจารณาความเสี่ยงที่ไม่ครบถ้วน: Market Cap ช่วยในการประเมินขนาดและความเสถียรของบริษัทหรือสินทรัพย์ โดยทั่วไปบริษัทหรือสินทรัพย์ที่มี Market Cap สูงมักมีความเสี่ยงต่ำกว่าเพราะมีขนาดใหญ่และมีฐานการเงินที่แข็งแกร่ง
  • การลงทุนที่ไม่มีข้อมูลที่เพียงพอ: Market Cap เป็นหนึ่งในข้อมูลที่สำคัญในการวิเคราะห์เบื้องต้น การละเลยข้อมูลนี้อาจทำให้การตัดสินใจลงทุนของคุณขาดการวิเคราะห์ที่เพียงพอและครอบคลุม
  • การบริหารความเสี่ยงไม่ดี: Market Cap ช่วยในการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน หากไม่พิจารณา Market Cap อาจทำให้คุณมีการกระจายความเสี่ยงที่ไม่ดีและเสี่ยงต่อการสูญเสียเงินทุนมากขึ้น

โดยสรุป Market Cap เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการวัดมูลค่าและขนาดของคริปโตเคอร์เรนซี ช่วยในการประเมินความเสี่ยง การกระจายการลงทุน และการวิเคราะห์ตลาด ทั้งนี้เพื่อให้การตัดสินใจลงทุนมีความมั่นใจและมีเหตุผลมากยิ่งขึ้น

 

ประเภทของมาร์เก็ตแคปในคริปโต

การแบ่งประเภทของ Market Cap ในคริปโตเคอร์เรนซีช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้นในการจัดการพอร์ตการลงทุน โดยการกระจายการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีที่มีมาร์เก็ตแคป คริปโตหลากหลายจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนในระยะยาว ซึ่งในโลกของคริปโตเคอร์เรนซีจะมีคำว่า "Large Cap," "Mid Cap," และ "Small Cap" ถูกใช้เพื่อจัดกลุ่มคริปโตเคอร์เรนซีตามมูลค่าตลาด (Market Cap) ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถประเมินความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุนได้ดีขึ้น


ประเภทของมาร์เก็ตแคปในคริปโต

นี่คือการอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับแต่ละกลุ่ม:

Large Cap (มูลค่าตลาดสูง):คริปโตเคอร์เรนซีในกลุ่มนี้มีมูลค่าตลาดที่สูงมาก โดยทั่วไปมักจะมี Market Cap มากกว่า 10 พันล้านดอลลาร์ ตัวอย่างคริปโตเคอร์เรนซีในกลุ่มนี้ ได้แก่ Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH) คริปโตเคอร์เรนซีในกลุ่มนี้มักถูกมองว่ามีความเสถียรและปลอดภัยกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น ๆ แม้ว่าโอกาสในการเติบโตอาจจะน้อยกว่าคริปโตเคอร์เรนซีที่มี Market Cap ต่ำกว่า

Mid Cap (มูลค่าตลาดปานกลาง): คริปโตเคอร์เรนซีในกลุ่มนี้มีมูลค่าตลาดปานกลาง โดยทั่วไปมักจะมี Market Cap อยู่ระหว่าง 1 ถึง 10 พันล้านดอลลาร์ ตัวอย่างคริปโตเคอร์เรนซีในกลุ่มนี้ ได้แก่ Cardano (ADA) และ Polkadot (DOT) คริปโตเคอร์เรนซีในกลุ่มนี้มักมีโอกาสในการเติบโตที่ดี แต่ยังคงมีความเสี่ยงมากกว่ากลุ่ม Large Cap

Small Cap (มูลค่าตลาดต่ำ): คริปโตเคอร์เรนซีในกลุ่มนี้มีมูลค่าตลาดต่ำ โดยทั่วไปมักจะมี Market Cap น้อยกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ตัวอย่างคริปโตเคอร์เรนซีในกลุ่มนี้ ได้แก่ เหรียญที่เพิ่งออกใหม่หรือเหรียญที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก

คริปโตเคอร์เรนซีในกลุ่มนี้มักมีความเสี่ยงสูงมาก แต่ก็มีโอกาสในการเติบโตสูงเช่นกันหากมีการยอมรับและการใช้งานเพิ่มขึ้น การจัดกลุ่มตาม Market Cap ช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้นในการกระจายการลงทุนและการจัดการความเสี่ยงตามระดับของความเสถียรและโอกาสในการเติบโตของแต่ละคริปโตเคอร์เรนซี

อย่างไรก็ตาม การตั้งแบบกำหนดตัวเลขมูลค่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพตลาด หากอยู่ในตลาดหมี จะเรียงตามลำดับของคริปโตเคอร์เรนซี ขนาดมูลค่าที่เป็นตัวเลข และความเป็นที่นิยมของโปรเจกต์

 

ข้อควรระวังของ Market Cap


ข้อควรระวังของ Market Cap

มาร์เก็ตแคป คริปโต ที่ยังปล่อย Token ออกมาไม่หมดจะมีการปล่อย Token ออกมาเรื่อยๆ ในฝั่งคริปโตเราเรียกว่า Token Unlock ซึ่ง Token Unlock ส่งผลกระทบต่อราคาของเหรียญคริปโตฯนั้นๆ เพราะนักลงทุนจะหวาดกลัวแรงเทขายที่มาจากการปลดเหรียญทำให้ราคามีการปรับตัวลงในระยะสั้นๆ อาจยาวนานถึงหลายเดือนได้ ซึ่งในโลกคริปโตฯจะมีการปลดเหรียญอยู่เรื่อยๆ อยู่แล้ว ระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับการกำหนด แต่มักจะเป็นทุกๆ วันและทุกๆ เดือน แต่จะมีรอบที่ปลดเหรียญรอบใหญ่ๆ ในปริมาณที่มากๆ ซึ่งการปลดเหรียญอาจเพิ่ม Token Supply เกือบ 2 เท่า ตัวอย่างตามรูปด้านบน ซ่งตลาดจะตอบสนองด้วยการ Price In ไปก่อนถึงเวลาปลดเหรียญราว 3 เดือน

ดังนั้นการเลือกลงทุนในเหรียญในช่วงที่ตลาดคริปโตฯยังไม่เข้าสู่ Bull Market อย่างเต็มตัว จะต้องพิจารณาการปลดเหรียญเป็นหนึ่งใน Criteria สำคัญ เพราะเป็นช่วงที่ยังมี Demand น้อยกว่า Supply ที่ถูกปลดออกมา ซึ่งนอกจากการปลดเหรียญแล้ว นักลงทุนอาจต้องคอยติดตามการเพิ่ม Supply อื่นๆที่นอกเหนืออย่างเช่น การแจก Airdrop เป็นต้น

 

ลงทุนใน Large-cap assets ด้วยกลยุทธ์ M-LCAP ของ Merkle Capital


ลงทุนใน Large-cap assets

การลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีที่มีมูลค่าตลาดสูงหรือ Large Cap มีข้อดีและเหตุผลหลายประการที่นักลงทุนควรพิจารณา ดังนี้

ความเสถียรและความมั่นคง

  • เสถียรภาพทางราคา: คริปโตเคอร์เรนซีที่มีมาร์เก็ตแคป คริปโตสูงมักมีเสถียรภาพทางราคามากกว่าเนื่องจากมีปริมาณการซื้อขายสูงและมีการยอมรับจากนักลงทุนจำนวนมาก
  • ความน่าเชื่อถือ: เหรียญเหล่านี้มักจะได้รับการยอมรับในวงกว้างและมีการใช้จริงในเศรษฐกิจดิจิทัล เช่น Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH) ที่ถูกนำมาใช้เป็นสกุลเงินหลักในหลายธุรกรรม

ความเสี่ยงที่ต่ำกว่า

  • ความผันผวนต่ำกว่า: คริปโตเคอร์เรนซีที่มี Market Cap สูงมักมีความผันผวนของราคาต่ำกว่าเมื่อเทียบกับเหรียญที่มี Market Cap ต่ำ ทำให้การลงทุนในเหรียญเหล่านี้มีความเสี่ยงทางการเงินน้อยกว่า
  • ความมั่นคงในระยะยาว: การลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีที่มี Market Cap สูงมีแนวโน้มที่จะให้ผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว เนื่องจากมีฐานการลงทุนและการสนับสนุนที่แข็งแกร่ง

การยอมรับในวงกว้าง

  • การยอมรับทางกฎหมายและธุรกิจ: คริปโตเคอร์เรนซีที่มี Market Cap สูงมักได้รับการยอมรับจากหน่วยงานกำกับดูแลและธุรกิจในหลายประเทศ ทำให้สามารถใช้ในธุรกรรมและการดำเนินงานจริงได้
  • การสนับสนุนจากสถาบันการเงิน: คริปโตเคอร์เรนซีที่มี Market Cap สูงมักได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงินและนักลงทุนรายใหญ่ ทำให้มีความน่าเชื่อถือและเสถียรมากขึ้น

โอกาสในการเติบโตและพัฒนา

  • การพัฒนาและนวัตกรรม: คริปโตเคอร์เรนซีที่มี Market Cap สูงมักมีทีมพัฒนาที่แข็งแกร่งและมีการลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ซึ่งช่วยให้เหรียญเหล่านี้มีโอกาสในการเติบโตและปรับปรุงตนเอง
  • เครือข่ายและระบบนิเวศน์: เหรียญที่มี Market Cap สูงมักมีเครือข่ายและระบบนิเวศน์ที่กว้างขวาง เช่น Ethereum ที่มีการพัฒนาแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (DApps) และสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contracts)

การเข้าถึงข้อมูลและการวิเคราะห์

  • ข้อมูลและการวิจัย: คริปโตเคอร์เรนซีที่มี Market Cap สูงมักมีข้อมูลและการวิจัยที่พร้อมให้บริการแก่นักลงทุนมากกว่า ทำให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลและมีเหตุผล
  • การสนับสนุนจากชุมชน: เหรียญเหล่านี้มักมีชุมชนผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งและมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและความคิดเห็นกันอย่างต่อเนื่อง


Merkle Capital

การลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีที่มี มาร์เก็ตแคป คริปโตสูงมีข้อดีมากมาย เช่น ความเสถียรและความมั่นคง ความเสี่ยงที่ต่ำกว่า การยอมรับในวงกว้าง โอกาสในการเติบโตและพัฒนา และการเข้าถึงข้อมูลและการวิเคราะห์ที่ดีกว่า ทั้งนี้นักลงทุนควรพิจารณาความเหมาะสมและความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้ในการลงทุน อย่างไรก็ตามโลกคริปโตเคอร์เรนซีเปลี่ยนไปเร็วมากๆ ต้องติดตามตลาดตลอดเวลา คอยหาความรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ และอัพเดทเทรนคริปโตอยู่เสมอ ซึ่งต้องใช้ทรัพยากรเวลาเป็นอย่างมาก ทาง Merkle Capital เลยเข้ามาแก้ไขปัญหาจุดนั้นโดยเสนอกองทุน คริปโตเคอร์เรนซีที่มีมูลค่าตลาดสูง Large-cap ให้นักลงทุนได้เข้าถึงกันอย่างง่ายดาย

 

สรุป 

มาร์เก็ตแคป คริปโต (Market Cap) ในโลกคริปโตเคอร์เรนซีคือมูลค่าตลาดรวมของคริปโตเคอร์เรนซีทั้งหมดที่มีอยู่ในตลาด คำนวณได้โดยการคูณราคาปัจจุบันของคริปโตเคอร์เรนซีด้วยจำนวนเหรียญหรือโทเค็นที่มีอยู่ทั้งหมด การแบ่งประเภทของมาร์เก็ตแคปเป็น Large Cap (มูลค่าตลาดสูงกว่า 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เช่น Bitcoin และ Ethereum), Mid Cap (มูลค่าตลาดระหว่าง 1 ถึง 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เช่น Cardano และ Polkadot) และ Small Cap (มูลค่าตลาดต่ำกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เช่น เหรียญที่เพิ่งออกใหม่หรือยังไม่เป็นที่รู้จักมาก) ช่วยให้นักลงทุนสามารถประเมินขนาดและความเสี่ยงของคริปโตเคอร์เรนซีแต่ละเหรียญได้ดีขึ้น เหรียญที่มีมูลค่าตลาดสูงมักมีความเสถียรและความมั่นคงสูง ความเสี่ยงต่ำ ได้รับการยอมรับและสนับสนุนจากนักลงทุนและสถาบันการเงินมาก ส่วนเหรียญที่มีมูลค่าตลาดต่ำมักมีความเสี่ยงและความผันผวนสูง แต่ก็มีโอกาสในการเติบโตสูงหากได้รับการยอมรับมากขึ้น การเข้าใจมาร์เก็ตแคปช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีข้อมูลและมีเหตุผล โดยพิจารณาจากระดับความเสี่ยงและโอกาสในการเติบโตของแต่ละประเภท ข้อดีของการลงทุนใน Large Cap เช่น ความเสถียรและความมั่นคง ความเสี่ยงที่ต่ำกว่า มีการยอมรับในวงกว้าง มีโอกาสในการเติบโตและพัฒนา และมีข้อมูลจากนักวิเคราะห์ที่เพียบพร้อม

 

หมายเหตุ

คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวนและสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง และ ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

 

เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

Merkle Capital คือผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกในประเทศไทย ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานก.ล.ต. บริษัทให้การดูแลและบริหารเงินลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลแก่ลูกค้าด้วยกลยุทธ์ที่หลากหลายโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนและการบริหารจัดการ