มิถุนายน 17, 2024
เหรียญ Solana คือบล็อกเชนสาธารณะและแพลตฟอร์มสำหรับ Decentralize Finance หรือสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อการทำธุรกรรมที่รวดเร็วและประหยัดพลังงาน ด้วยการใช้โปรโตคอลฉันทามติที่เรียกว่า Proof of History (PoH) ร่วมกับ Proof of Stake (PoS) ทำให้ Solana สามารถทำธุรกรรมได้เร็วถึง 65,000 ธุรกรรมต่อวินาที (TPS) และมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับบล็อกเชนอื่น ๆ เช่น Ethereum
Solana Network หรือเหรียญ Solana ได้รับแรงบันดาลใจในการพัฒนาบล็อกเชนที่สามารถทำธุรกรรมได้รวดเร็วและขยายขนาดได้ดี หลังจากเห็นผู้ใช้งานต้องแบกรับข้อจำกัดของบล็อกเชนแบบดั้งเดิม เช่น Bitcoin และ Ethereum ที่มีปัญหาเรื่องความล่าช้าและค่าธรรมเนียมที่สูง
โดยเหรียญ Solana และ Solana Network ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท Solana Labs ซึ่งเริ่มก่อตั้งโดย Anatoly Yakovenko ในปี 2017 Yakovenko เคยทำงานที่ Qualcomm และ Dropbox เขามีความเชี่ยวชาญในด้านระบบกระจายและเครือข่าย ทำให้เขามีความคิดที่จะสร้างบล็อกเชนที่สามารถทำธุรกรรมได้เร็วและมีความสามารถในการขยายตัวได้สูง และ Solana ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนที่มีชื่อเสียงและบริษัทร่วมทุนหลายแห่ง (Venture Capital) เช่น Andreessen Horowitz (a16z), Polychain Capital และ Multicoin Capital ทำให้ได้รับความน่าเชื่อถือและสายตาจากนักลงทุนมากมาย ในเวลาที่รวดเร็ว
ในปี 2017 ปีที่ก้าวแรกของเหรียญ Solana ได้เกิดขึ้น โดยเริ่มจากการพัฒนา Consensus Mechanism ของเหรียญ Solana ขึ้นมาก่อน นั่นคือ Proof of History (PoH) เป็น Consensus Mechanism ที่แตกต่างจาก Ethereum ที่ใช้ Proof of Stake (PoS) และ Bitcoin ที่ใช้ Proof of Work (PoW) ต่อมา ในปี 2018 Solana ได้เปิดตัว Testnet ครั้งแรกและ Mainnet เบต้าของ Solana เปิดตัวตามมาในเดือนมีนาคม 2020
เหรียญ Solana หรือ SOL ถูกใช้เป็นค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมทุกอย่างบน Solana Network แม้กระทั้ง Developer ที่ต้องการสร้าง สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมเป็นเหรียญ Solana เช่นกัน ที่มากไปกว่านั้น เหรียญ Solana ยังถูกใช้เป็นตัวกลางเพื่อฝาก (Stake) และเข้ามาเป็นผู้ดูแลความปลอดภัยของ Network (Node) ท้ายที่สุดเหรียญ Solana สามารถถูกใช้เพื่อโอนมูลค่าให้กันระหว่างผู้ใช้งานได้ เปรียบได้เป็นเหมือนเงินเสมือนที่ผู้ใช้งานใช้รับส่งให้กันและกัน ซึ่งถ้าขยายความมากกว่านั้น เงินเสมือนคือ สินทรัพย์ที่มูลค่าในตัวเองและสามารถโอนถ่ายไปให้กันได้ หรือแลกเปลี่ยนกันได้
จุดเด่นที่ทำให้ Solana เป็นที่ยอมรับและมีชุมชนที่แข็งแกร่งได้แก่
และภาษาใหม่ในตอนนั้นอย่างภาษา Rust ที่ตอนแรกเกิดขึ้นมาพร้อมข้อถกเถียงมากมายว่าจะดีเท่า Solidity ของ Ethereum ไหม ? ในทางกลับกัน การถกเถียงของชางอินเทอร์เน็ตทำให้ Solana ได้รับการมองเห็นจากชาวอินเทอร์เน็ตได้มากมายโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย เป็นเหมือนการ Marketing ไปด้วยเลย
และด้วยจุดเด่นเหล่านี้ทำให้ทางบริษัทจากโลกการเงินดั้งเดิมหรือ Web 2.0 เข้ามาใช้โครงสร้างในการสร้าง Payment Rail ของเขา อย่าง Paypal สร้าง PYUSD บน Solana หรือ Stripe ที่มีการแสดงการใช้งาน Wallet Web 3.0 อย่าง Phantom เข้ามาจ่ายเงินในการซื้อของผ่านอินเทอร์เน็ต
Solana เป็นเหรียญที่มาแรงในปี 2024 อย่างมาก และด้วยการที่คนนั้นให้ความสนใจมากมาย อีกทั้งยังมี Chain เป็นของตัวเองอีกด้วย ในหัวข้อนี้เราจะมาดูกันว่า Solana นั้นใช้เทคโนโลยีแบบไหน ทำไมเหล่านักลงทุนถึงให้ความสนใจแก่ Chain นี้กันอย่างมาก
Consensus Algorithm หรือระบบฉันทามติ เป็นระบบที่สำคัญอย่างมากของ Solana เพราะด้วยการที่ Solana นั้นใช้ Proof-of-Stake หรือ PoS ในการตรวจสอบข้อมูลหรือธุรกรรมที่เกิดขึ้นในเครือข่าย Solana ด้วยการให้นักลงทุนมาล็อคเหรียญหรือ Staking เพื่อยกระดับความปลอดภัยขึ้นไปอีก อีกทั้งนักลงทุนที่เข้ามา Stake ใน Solana ยังได้รับรางวัลจากการ Staking อีกด้วย
Proof-of-History หรือ PoH คือระบบฉันทามติที่ถูกคิดค้นขึ้นมาในปี 2017 โดยเข้ามาเพื่อช่วยให้การทำธุรกรรมนั้นเร็วเพิ่มมากขึ้น และยังช่วยให้คน Run Node หรือคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบธุรกรรมบน Solana นั้นทำหน้าที่ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น โดยที่ ณ ปัจจุบัน Solana นั้นสามารถรองรับการทำธุรกรรมได้สูงที่สุดที่ 50,000 ธุรกรรมต่อวินาที และใช้เวลาการสร้างบล็อกเพียง 400 มิลลิวินาทีต่อหนึ่งบล็อก และ Solana ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเครือข่ายที่รวดเร็วที่สุดในปัจจุบัน
Clusters หรือกลุ่มผู้ตรวจสอบที่ได้รับมอบหมายฝห้ตรวจสอบโดยเฉพาะกลุ่ม เช่น กลุ่มที่ได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบธุรกรรมบน Raydium หรือ Solanart ทำให้การตรวจสอบและการประมวลผลนั้นไวเพิ่มขึ้นไปอีก
การที่ Solana มีการทำธุรกรรมที่เร็วเนื่องด้วยระบบเทคโนโลยีเบื้องหลัง และอีกทั้งยังสามารถรองรับธุรกรรมในจำนวนที่เยอะกว่าเครือข่ายอื่นได้ ทำให้ Solana นั้นเป็นหนึ่งในเครือข่ายที่ได้รับความที่นิยมอย่างสูงในปี 2024 และนอกจากการทำธุรกรรมที่รวดเร็วแล้ว Solana ยังได้มีความปลอดภัยในระดับที่ยกสูงขึ้นอีกด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจและความไว้วางใจให้แก่ผู้ที่เข้ามาใช้งานแพลตฟอร์ม
Solana เป็นหนึ่งในบล็อกเชนที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ด้วยความสามารถในการประมวลผลธุรกรรมที่รวดเร็วและค่าธรรมเนียมต่ำ ทำให้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และโครงการต่าง ๆ มากมายบนเครือข่ายนี้ ซึ่งครอบคลุมทั้ง DeFi, NFT, เกม และ Web3
DeFi (Decentralized Finance)
NFT
Gaming
Web3 Applications
ถึงจะมีข้อดีที่แข็งแกร่ง แต่เหรียญ Solana ก็มีข้อเสียขนาดใหญ่เช่นกัน ได้แก่
Solana เป็นบล็อกเชนสาธารณะสำหรับ Decentralized Finance (DeFi) และสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contracts) ที่มีความโดดเด่นด้วยความเร็วในการประมวลผลถึง 65,000 ธุรกรรมต่อวินาที (TPS) และค่าธรรมเนียมต่ำ โดยใช้โปรโตคอล Proof of History (PoH) ร่วมกับ Proof of Stake (PoS) ซึ่งช่วยให้การทำธุรกรรมเป็นไปอย่างรวดเร็วและประหยัดพลังงาน Solana มีจุดเด่นที่ความสามารถในการปรับขยาย ชุมชนที่แข็งแกร่ง และการสนับสนุนจากนักลงทุนและนักพัฒนาชั้นนำ อย่างไรก็ตาม Solana ก็มีความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัย การรวมศูนย์อำนาจ การแข่งขันกับบล็อกเชนอื่น ๆ และการกำกับดูแลทางกฎหมายที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต
หมายเหตุ
คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวนและสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง และ ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
Disclaimer