Crypto Wallet คืออะไร ควรใช้อันไหนให้เหมาะกับการลงทุน

พฤษภาคม 28, 2024

thumbnail

Crypto Wallet คืออะไร ควรใช้อันไหนให้เหมาะกับการลงทุน

Crypto Wallet คืออะไร

 

Crypto Wallet คืออะไร

 

Crypto wallet หรือกระเป๋าเงินคริปโตคืออุปกรณ์หรือโปรแกรมที่ใช้ในการเก็บและจัดการสกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin, Ethereum และอื่นๆ กระเป๋าเงินคริปโตทำหน้าที่เหมือนกับบัญชีธนาคารในโลกดิจิทัล โดยมีหน้าที่หลักในการจัดการกับกุญแจส่วนตัว (private keys) และกุญแจสาธารณะ (public keys) ที่เกี่ยวข้องกับ cryptocurrencies ที่คุณมี

กระเป๋าเงินคริปโตมีหลายรูปแบบ แต่สามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ๆ ได้แก่:

  • Hot Wallets: กระเป๋าเงินที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา เหมาะสำหรับการทำธุรกรรมอย่างรวดเร็วและสะดวก แต่มีความเสี่ยงสูงกว่าในการถูกแฮ็ค
  • Cold Wallets: กระเป๋าเงินที่ไม่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ให้ความปลอดภัยสูงสุด เหมาะสำหรับการเก็บสินทรัพย์ระยะยาว

 

ประเภทของคริปโตวอลเล็ต

คริปโตวอลเล็ตมีหลายรูปแบบขึ้นแต่ละรูปแบบจะมีความแตกต่างกันไปซึ่งนักลงทุนต้องเป็นคนเลือกเอง แล้ว Crypto Wallet อันไหนดีที่เหมาะสมกับเรา

 

ประเภทของคริปโตวอลเล็ต

 

Hot Wallet

Hot Wallet คือกระเป๋าเงินที่วาง Private Key กับ Public Key ค้างไว้อยู่บนอินเทอร์เน็ต จะมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา เนื่องจากที่เชื่อมอินเทอร์เน็ตตลอดเวลามีโอกาสที่จะโดน Hack ได้ง่ายกว่า และโดน Hack ได้แบบไม่รู้ตัว ส่วนใหญ่ใช้ในการทำธุรกรรมออนไลน์อย่างรวดเร็วและสะดวก เช่น การซื้อขายและการโอนเงิน ความเข้าถึงง่ายและความสะดวกรวดเร็วในการใช้งานเป็นจุดเด่นหลักของ hot wallet นี้ตัวอย่าง Hot Wallet เช่น

  • Web Wallet : Metamask, Rabby Wallet, Phantom Wallet และอื่น ๆ
  • Mobile Wallet : Exodus, Trust Wallet และอื่น ๆ

Cold Wallet

Cold Wallet คือ Hardware ตัวหนึ่งที่เชื่อมต่อเพื่อเอาคีย์ของเราไปไว้ Offline ดังนั้นการจะทำอะไรต้องเอา Hardware ตัวนี้มาเชื่อมต่อเพื่อที่จะเข้าถึง Crypto wallet ได้ ทำให้ Cold Wallet จะปลอดภัยกว่าปกติ ตัวอย่าง Cold Wallet 

  • Hardware Wallet : Trazer, Ledger
  • Paper Wallet (แต่ไม่นิยมกันมากนัก)

 

รูปแบบของ Crypto Wallet มีอะไรบ้าง

รูปแบบต่างๆ จะเป็นตัวอย่าง Crypto Wallet ที่ใช้ในอุปกรณ์ต่างๆ จะอยู่ใน 2 ประเภทของ Wallet ใหญ่ๆ อย่าง

Hot Wallet

  • Desktop Wallet : Desktop Wallet เป็น Crypto Wallet ที่ลงบน Desktop ของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ทั้ง PC และ Laptop จะเป็นการเก็บ File ไว้บนเครื่องคอมของเรา ถ้าไฟล์หายกระเป๋าก็จะหายไปเลย ซึ่งวิธีการป้องกันคือการแบ็คอัพไฟล์เอาไว้ แต่ไม่ค่อยนิยมกันมากนัก
  • Mobile Wallet : เป็น Crypto Wallet ที่ลงบนโทรศัพท์ของเรา เหมาะสมกับนักลงทุนที่เดินทางบ่อย หรือทำงานที่ไม่ได้อยู่หน้าคอมบ่อย ๆ ทำให้สามารถเข้าถึงโลก Web3.0 ได้จากทุกที่และตลอดเวลา แต่มีสิ่งที่ต้องระวังคือไวรัสและมัลแวร์ที่อาจเข้ามาในโทรศัพท์ของคุณ ตัวเลือกนี้เป็นที่นิยมมากสำหรับนักลงทุนเพราะสามารถทำธุรกรรมได้ตลอด
  • Web Wallet : เป็น Wallet ที่นิยมใช้กันมากที่สุดเพราะเรานิยมเข้าถึงโลกคริปโตกันผ่านแลบทอป Web Wallet ทำให้การลงทุนเหมือนการเข้าเล่นอินเทอร์เน็ต มีความเสี่ยงคือต้องระวังไม่ให้ Private Wallet หลุดออกไปบนโลกอินเทอร์เน็ตตัวเลือกนี้เป็นที่นิยมมากสำหรับนักลงทุนเพราะสามารถทำธุรกรรมได้ตลอด และสามารถเปิดดูเปรียบเทียบอะไรต่างๆ ได้ เช่นกราฟ ราคาระหว่างตลาด

Cold Wallet

  • Hardware Wallet : เป็นเหมือนกุญแจรถ ที่ต้องเสียบก่อนถึงจะใช้งานรถได้ Hardware Wallet ทำหน้าที่เอาคีย์ของเราไปไว้ Offline ดังนั้นการจะทำอะไรต้องเอา Hardware ตัวนี้มาเชื่อมต่อเพื่อที่จะเข้าถึง Crypto Wallet ได้ ทำให้ Hardware Wallet จะปลอดภัยกว่าปกติ แต่การที่ต้องเชื่อมต่อเพื่อจะใช้ทำให้มีความลำบากในการใช้งาน ทำให้ Hardware Wallet มักจะใช้กันในสินทรัพย์การลงทุนระยะยาวที่ไม่ต้องทำธุรกรรมบ่อย ๆ หรือคนที่มีสินทรัพย์ปริมาณมาก ๆ
  • Paper Wallet : เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของ Hardware Wallet โดนต้องเข้าถึง Wallet ผ่านกระดาษ ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต จะเชื่อมต่อโดยมี QR Code หรือต้องใช้ Seed Phrase ในการเข้าถึงกระเป๋า ซึ่งมีความปลอดภัยระดับเดียวกันกับ Hardware Wallet แต่มีจุดอ่อนที่ Paper Wallet ต้องดูแลอย่างดีเพราะกระดาษอาจถูกทำลาย หมึกจาง เปียกนำ้ หรือสูญหายได้ Paper Wallet จึงไม่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายนัก

 

ควรใช้คริปโตอันไหนดี

 

ควรใช้คริปโตอันไหนดี

 

Hot Wallet จะที่เชื่อมต่ออินเทอร์ตลอดเวลาจะคล่องตัวกว่าเวลาใช้งาน ไม่ต้องนำ Hardware มาเชื่อมต่อเหมือน Cold Wallet จะเหมาะกับนักลงทุนที่ทำธุรกรรมบนบล็อกเชนบ่อย ๆ ทั้งนี้ hot wallet มักจะมีรูปแบบเป็นแอปพลิเคชันบนมือถือหรือโปรแกรมบนคอมพิวเตอร์ที่เราสามารถเข้าถึงได้ง่าย แต่เนื่องจากมันเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต จึงมีความเสี่ยงต่อการถูกแฮ็คหรือโจมตีจากไซเบอร์มากกว่า cold wallet สิ่งสำคัญที่ผู้ใช้ควรทราบคือไม่ควรเก็บจำนวนเงินที่มากเกินไปใน hot wallet เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

Cold Wallet จำเป็นต้องพก Hardware ตลอดเวลา เพราะต้องเชื่อม Hardware เพื่อทำธุรกรรม ดังนั้น Cold Wallet เหมาะสมกับนักลงทุนที่ไม่ได้ทำธุรกรรมบนบล็อกเชนบ่อย ๆ และ cold wallet เป็นวิธีที่แนะนำสำหรับการเก็บรักษาสกุลเงินดิจิทัลระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงจำนวนที่มาก เพื่อความปลอดภัยจากความเสี่ยงต่างๆ บนโลกอินเทอร์เน็ต

โดยส่วนมากนักลงทุนจะมีทั้งสอง Wallet โดยส่วนใหญ่จะนำ Cold Wallet ไว้เก็บสินทรัพย์ที่ลงทุนระยะยาว และมี Hot Wallet ไว้ทำธุรกรรมและการลงทุนระยะสั้น และนักลงทุนจะต้องเป็นคนเลือกเองว่าต้องเก็บสินทรัพย์ไหนที่ลงทุนระยะสั้นหรือลงทุนระยะยาว

Crypto wallet ที่นิยมใช้

เมื่อนักลงทุนตัดสินใจซื้อ Crypto wallet เพื่อเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลให้ปลอดภัยมากขึ้นหนึ่งในปัญหาที่คิดไม่ตกคือจะใช้งาน Crypto wallet รุ่นไหนดี โดยจากนี้จะพามาแนะนำให้รู้จักกระเป๋าเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลยอดนิยมว่ามีอะไรบ้าง

  1. Trezor เป็น Crypto wallet แบบ Hardware Wallet ที่สามารถเก็บ Bitcoin หรือเหรียญดิจิทัลอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย เพียงเสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์หรือมือถือ โดยมีจุดเด่นที่สามารถ เก็บเหรียญดิจิทัลแบบออฟไลน์ที่มีความปลอดภัยสูงสุด รองรับการเก็บสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 1,000 ชนิด และมีหน้าจอสัมผัสสำหรับสั่งการ (เฉพาะรุ่น Trezer Model T)
  1. Ledger อีกหนึ่งตัวเลือกของ Crypto wallet Bitcoin ยอดนิยม สำหรับผู้ที่มองหา Hardware Wallet ซึ่งโดดเด่นด้านความปลอดภัยและมีวิธีใช้งานที่ง่ายมาก เพียงเชื่อมต่อกับมือถือหรือคอมพิวเตอร์ ปัจจุบันมีรุ่นยอดนิยมให้เลือก 2 รุ่น คือ Ledger S กับ Ledger X จุดเด่นที่รองรับการเก็บเหรียญ Altcoins มากกว่า 1,800 ชนิด และรุ่น Ledger X ต่อแอปฯ ผ่านบลูทูธเพื่อเช็กจำนวนเหรียญในกระเป๋าได้ตลอดเวลา

นอกจากนี้ยังมี Crypto wallet อีกหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นของ Mycelium หรือ Exodus ซึ่งจะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันควรศึกษารายละเอียดและเลือกใช้งานตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์การใช้งาน

 

สรุป

Crypto wallet หรือกระเป๋าเงินคริปโตคืออุปกรณ์หรือซอฟต์แวร์ที่ใช้เก็บและจัดการกับสกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin และ Ethereum โดยมีสองประเภทหลัก ได้แก่ Hot Wallets ซึ่งเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลาเพื่อการทำธุรกรรมที่รวดเร็วและสะดวก แต่มีความเสี่ยงสูงต่อการถูกแฮ็ค และ Cold Wallets ที่ไม่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ให้ความปลอดภัยสูงสุดและเหมาะสำหรับการเก็บสินทรัพย์ระยะยาว โดยทั่วไปนักลงทุนจะใช้ Hot Wallets สำหรับการทำธุรกรรมบ่อยๆ และ Cold Wallets สำหรับการเก็บสินทรัพย์ที่มีความสำคัญและไม่จำเป็นต้องใช้งานบ่อย

 

หมายเหตุ

คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวนและสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง และ ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

 

เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

Merkle Capital คือผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกในประเทศไทย ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานก.ล.ต. บริษัทให้การดูแลและบริหารเงินลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลแก่ลูกค้าด้วยกลยุทธ์ที่หลากหลายโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนและการบริหารจัดการ