ETF คืออะไร น่าลงทุนไหม

พฤษภาคม 15, 2024

thumbnail

กองทุน ETF คืออะไร น่าลงทุนไหม


กองทุน ETF คืออะไร


หลังจากที่ Bitcoin หรือ ทรัพย์สินดิจิทัลรูปแบบหนึ่ง ได้รับการอนุมัติจากทางสหรัฐฯ ให้สามารถทำการซื้อขายผ่านทางตลาดหลักทรัพย์ ผ่าน "กองทุนบิทคอยน์อีทีเอฟ" (Bitcoin ETFs) หลังจากเหตุการนี้ทำให้คำว่า ETF กลับมาเป็นที่พูดถึงให้หมู่นักลงทุนในโลกดั้งเดิม เพราะ Bitcoin Spot ETF นั้นเป็นเหมือนเป็นการเปิดประตูของนักลงทุนจากโลกดั้งเดิมสู่โลกของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลแต่ ก่อนจะทำการลงทุนในกองทุนประเภทใหม่นี้ เราควรจะทำความเข้าใจก่อนว่า กองทุน ETF คืออะไร และใครเหมาะสมกับการลงทุนประเภทนี้

 

ETF คืออะไร


ETF คืออะไร


ETF นั้นย่อมาจาก Exchange Traded Fund ซึ่ง กองทุน ETF คือกองทุนรูปแบบหนึ่ง ที่มีรูปแบบการจัดการที่สร้างผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุน ในลักษณะที่ใกล้เคียงกับการเคลื่อนไหวของดัชนี หรือ ราคาของสินทรัพย์ที่กองทุนใช้อ้างอิง ไม่ว่าจะเป็น ทองคำ น้ำมัน ตราสารหนี้ หรือ หุ้น ETF คือกองทุนที่มีคุณสมบัติพิเศษเหนือกองทุนอื่นๆ เพราะมีการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้น กองทุน ETF จึงสามารถซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ผ่าน โบรกเกอร์ต่างๆ ได้แบบ Real Time โดยจะมีผู้ที่ดูแลสภาพคล่อง (Market Maker) ที่อำนวยความสะดวก เพื่อให้สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือกันได้คล่อง และช่วยให้ราคาซื้อขายมีความสอดคล้องกับการปรับตัวของดัชนีหรือสินทรัพย์อ้างอิงนั้นๆ 

โดยในปัจจุบันมี ETF ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดังนี้

  • Equity ETF/Index ETF: หุ้น ETF คือ กองทุนที่สร้างผลตอบแทนอ้างอิงดัชนีราคาหุ้นในประเทศ
  • Sector ETF: อุตสาหกรรม ETF คือ กองทุนที่สร้างผลตอบแทนอ้างอิงดัชนีราคาหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม
  • Foreign ETF: ตลาดหุ้นต่างประเทศ ETF คือ กองทุนที่สร้างผลตอบแทนอ้างอิงดัชนีราคาหุ้นต่างประเทศ
  • Gold ETF: ทองคำ ETF คือ กองทุนที่สร้างผลตอบแทนอ้างอิงดัชนีราคาทองคำ
  • Bond ETF: ตราสารหนี้ ETF คือ กองทุนที่สร้างผลตอบแทนอ้างอิงดัชนีราคาตราสารหนี้

จุดเด่น ของ ETF

  • ใช้เงินลงทุนต่ำ เมื่อเทียบกับการลงทุนเจาะจงในสินทรัพย์ประเภทเดียว
  • ค่าใช้จ่ายในการซื้อขายที่ต่ำกว่ากองทุนรวมทั่วไป เพราะ ETF ไม่ใช่กองทุน Active Fund ที่ผู้จัดการกองทุนหวังที่จะชนะตลาด
  • เป็นการลงทุนที่กระจายความเสี่ยง เนื่องจากกองทุน ETF จะถือสินทรัพย์ในกองอยู่หลายประเภทจึงถือเป็นการกระจายความเสี่ยงในตัว
  • มีสภาพคล่องที่สูงกว่ากองทุนทั่วไป เพราะสามารถซื้อขายได้ผ่านตลาดหลักทรัพย์ และมีผู้ดูแลสภาพคล่องคอยกำกับอยู่สม่ำเสมอ

ข้อเสีย ของ ETF

  • ผลตอบแทนที่ต่ำ เพราะความเสี่ยงที่ต่ำจากการกระจายความเสี่ยงในการถือสินทรัพย์ ซึ่ง ETF เป็นกองทุนประเภท Index Fund ทำให้อาจจะไม่เหมาะสมกับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนที่มากกว่าตลาดหรือชนะตลาด ในกรณีนี้ การลงทุนโดยตรงก็อาจจะเหมาะกว่า

 

เปรียบเทียบ หุ้น ETF และกองทุนรวม


เปรียบเทียบ หุ้น ETF และกองทุนรวม

กองทุน ETF คือ การผสมผสานระหว่างหุ้นและกองทุนรวมรวมเข้าด้วยกัน วิธีการในการลงทุนผ่าน EFT มีลักษณะเดียวกับการลงทุนในหุ้น เนื่องจากกองทุน ETF คือ สามารถซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ได้เเบบ real time จะมีราคาตลาดที่ขยับขึ้นลงอยู่ตลอดเวลาในแต่ละวัน ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบกว่าการซื้อขายลงทุนในกองทุนรวม ที่จะสามารถซื้อขายได้แค่ราคาเดียวในแต่ละวัน และจะทำการธุรกรรมได้ในเวลาเดียวของวัน ผู้ที่ลงทุนแบบหาจุดเข้าออกจะสามารถได้ประโยชน์ตรงนี้จาก ETF ส่วนในเรื่องของความเสี่ยง โดยระดับความเสี่ยงของ ETF นั้น สามารถเลือกให้สูงหรือต่ำได้ขึ้นอยู่กับกลุ่มสินทรัพย์ที่กอง ETF นั้นๆเข้าไปลงทุน ซึ่งระดับความเสี่ยงจากการลงทุนใน ETF จะน้อยกว่าการลงทุนในหุ้นเป็นรายตัวอยู่แล้ว เพราะ ETF คือ การลงทุนในหลายๆสินทรัพย์ จะมีการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว แต่ความเสี่ยงที่ต่ำกว่าก็แลกมาด้วยผลตอบแทนที่น้อยลง ซึ่งในมุมนี้จะมีความคล้ายเคียงกับการลงทุนผ่านกองทุนรวมทั่วไป และการลงทุนกับ ETF โดยตรง มีอัตราค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่า การลงทุนในกองทุนรวม เนื่องจากไม่มีการจ้างผู้บริหารกองทุนแบบกองทุนรวม แต่มีผู้ดูแลสภาพคล่องเพิ่มเติมเข้ามาเพื่อกำกับดูแลการซื้อขายให้ราบรื่น นับว่าเป็นข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับการซื้อขายแบบเปลี่ยนมือในกองทุนรวมที่มีสภาพคล่องต่ำกว่ามาก สรุปง่ายๆนั้น ETF คือการนำข้อดีของการลงทุนใน หุ้น ที่มีความคล่องตัวในการซื้อขาย และ กองทุน ที่มีความสามารถในการกระจายความเสี่ยงมารวมกัน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ผู้ลงทุนที่มองหาประโยชน์ตรงนี้

 

การลงทุนใน ETF มีความเสี่ยงอย่างไร

ในโลกของการลงทุน ความเสี่ยงนั้นถือเป็นของคู่กันกับการลงทุนอยู่แล้ว ซึ่งการลงทุนในสินทรัพย์แต่ละประเภทย่อมให้ความเสี่ยงที่แตกต่างกัน ดังนั้น การลงทุนใน ETF จึงมีความเสี่ยงเช่นกัน

ความเสี่ยงของการลงทุนกับ ETF

  • ความเสี่ยงด้านราคาและสภาวะตลาด เป็นความเสี่ยงที่เกิดจากการปรับตัวขึ้นและลงของราคา ETF โดยอ้างอิงจากผลตอบแทนของสินทรัพย์ที่ลงทุน ซึ่งเกิดได้จากการเปลี่ยนแปลงของสภาวะเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง นับว่าเป็นความเสี่ยงที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้แม้กับการลงทุนใน ETF
  • ความเสี่ยงจากการที่ ETF ไม่สามารถให้ผลตอบแทนได้เท่ากับการเคลื่อนไหวของดัชนีอ้างอิง (Tracking Error) ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายกรณี เช่น ค่าใช้จ่ายของกองทุน ความสามารถในการถือครองสินทรัพย์ตามสัดส่วนของดัชนีอ้างอิง การเปลี่ยนแปลงของสภาวะตลาดที่ผิดปกติ เป็นต้น ซึ่งทําให้อัตราผลตอบแทนของกองทุนคลาดเคลื่อนไปจากอัตราผลตอบแทนของดัชนีอ้างอิง หรือ อัตราผลตอบแทนของ ETF อาจสูงหรือต่ำกว่าอัตราผลตอบแทนของดัชนีอ้างอิงได้
  • ความเสี่ยงของดัชนีอ้างอิง เกิดขึ้นจากการดำเนินงานของบริษัทที่เป็นองค์ประกอบของดัชนีที่อ้างอิง
  • ความเสี่ยงด้านการขาดสภาพคล่องในการซื้อขาย เป็นความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการที่กองทุนมีอัตราการซื้อขายที่ไม่มากพอ ทำให้ผู้ซื้อหรือผู้ขายไม่สามารถทำธุรกรรมได้ตามต้องการ

โดย กองทุน ETF จะมีให้เลือกลงทุนในความเสี่ยงทุกระดับ ขึ้นอยู่กับสาระสำคัญและนโยบายในการลงทุนของกองทุนนั้นๆ ดังนั้น ผู้ลงทุนจึงควรศึกษาลักษณะการลงทุนของแต่ละกองทุน ETF และเลือกลงทุนให้เหมาะกับความเสี่ยงที่รับได้ของตนเอง

 

ETF เหมาะกับใคร

กองทุน ETF คือ การลงทุนที่มีความเสี่ยงที่ต่ำ เนื่องมาจากการกระจายความเสี่ยงในการถือสินทรัพย์ภายในกองทุน และ สามารถซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์ ส่งผลให้มีสภาพคล่องที่สูง จึงนับว่าเป็นกองทุนที่เหมาะกับนักลงทุนทุกประเภท โดยเฉพาะกับ 3 กลุ่มนี้

  • สำหรับนักลงทุนมือใหม่ เนื่องจากกองทุน ETF เป็นการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง ทำให้มีความเสี่ยงที่ต่ำ จึงเหมาะกับนักลงทุนที่มีประสบการณ์น้อย เพราะการลงทุนผ่านกองทุน ETF ถือว่าไม่มีความซับซ้อนเท่ากับการคัดเลือกสินทรัพย์ในการลงทุนแบบเจาะจง จึงสามารถติดตามและบริหารกองทุนได้ง่ายและทำได้ด้วยตัวเอง อีกทั้งยังมีตลาดการซื้อขายที่กว้าง และมีความผันผวนที่ต่ำ นับว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นการลงทุน
  • สำหรับนักลงทุนที่มีเงินทุนไม่มากนัก เพราะ กองทุน ETF เป็นการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงในตัวเองอยู่แล้ว บวกกับมีค่าธรรมเนียมและต้นทุนที่ต่ำ จึงเป็นตัวเลือกสำหรับนักลงทุนที่ยังมีเงินไม่มากพอที่จะกระจายความเสี่ยงในพอร์ตตัวเอง เพราะ การถือหุ้นหรือสินทรัพย์หลายๆตัวจะต้องใช้จำนวนเงินลงทุนที่สูง ดังนั้น การลงทุนในกองทุน ETF จะช่วยลดความเสี่ยงในพอร์ตโดยไม่ถือสินทรัพย์กระจุกตัวเกิยไป สามารถเลือกกองทุน ETF ที่อ้างอิงกับดัชนีตลาด ควบคู่กับหุ้นในพอร์ตได้
  • สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในระยะยาว และไม่มีเวลาในการจัดการพอร์ตการลงทุนเอง กองทุน ETF สามารถให้ผลตอบแทนในระยะยาวได้เทียบเท่ากับตลาดโดยรวม และ เพราะในกองทุน ETF นั้นมีการกระจายตัวของสินทรัพย์อยู่หลายประเภท จึงมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่าการถือสินทรัพย์แบบประเภทเดียว อีกทั้งยังมีผู้จัดการกองทุนที่เป็นผู้จัดการบริหาร ETF ให้ปรับตัวตามตลาด ดังนั้น ผู้ที่ต้องการลงทุนในระยะยาวและไม่มีเวลาในการลงทุนแบบสินทรัพย์เจาะจง จึงนิยมใช้ ETF ในการลงทุน

 

สรุป

กองทุน ETF เป็นกองทุนที่สามารถลงทุนได้ง่าย มีความหลากหลายกระจายอยู่ในทุกสินทรัพย์ทุกกระเภท มีสภาพคล่องที่ดี เพราะมีตลาดที่ใหญ่ และสามารถซื้อขายได้แบบหุ้น แต่มีการกระจายความเสี่ยงในตัวเหมือนกองทุน จึงเหมาะกับผู้ลงทุนทุกประเภท โดยการกระจายความเสี่ยงนั้น ถือว่าเป็นกุญแจสำคัญในการลงทุน ดังนั้น สำหรับพอร์ตที่ยังไม่มีการกระจายตัวของสินทรัพย์ในวงกว้าง การเพิ่ม ETF ไปในพอร์ตการลงทุนอาจจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม

แหล่งข้อมูล:

  • ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย: https://www.set.or.th/th/market/product/etf/introduction
  • Finnomena: https://www.finnomena.com/getwealthsoon/what-is-etf/
  • Krungsi Prime: https://www.krungsri.com/th/wealth/krungsri-prime/privileges/articles/exchange-traded-fund
  • SCB: https://www.scb.co.th/th/personal-banking/stories/grow-your-wealth/exchange-traded-fund.html
  • Investopedia: https://www.investopedia.com/articles/younginvestors/09/etfs-ideal.asp
  • SET investnow: https://www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/176-etf-chapter4
  • BBC NEWS: https://www.bbc.com/thai/articles/c3gyyqq5d4zo
  • Incesting.com: https://th.investing.com/analysis/article-200432133?utm_source=google&utm_medium=cpc&utm_campaign=19277872924&utm_content=641713887824&utm_term=dsa-1456167871416_&GL_Ad_ID=641713887824&GL_Campaign_ID=19277872924&ISP=1&gad_source=1&gclid=Cj0KCQjw-r-vBhC-ARIsAGgUO2At8ZhOzv_-a3LljIGFp-g2Mm1iQbDKCSghVjOjtOk3NwdGkOFcDVIaAqFAEALw_wcB
  • Wealth Connex: https://wconnex.bualuang.co.th/s/article/ceiling-floor?language=th

 

หมายเหตุ
คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวนและสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง และ ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

Merkle Capital คือผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกในประเทศไทย ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานก.ล.ต. บริษัทให้การดูแลและบริหารเงินลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลแก่ลูกค้าด้วยกลยุทธ์ที่หลากหลายโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนและการบริหารจัดการ