มิถุนายน 17, 2024
จริง ๆ แล้วในตลาดการลงทุนนั้นมีเครื่องมือหรืออินดิเคเดอร์หลากหลายแบบ หลากหลายชนิด ที่ช่วยให้นักลงทุนได้ดูว่าสภาพตลาด สถานการณ์ตลาด และอารมณ์ตลาดเป็นอย่างไร ในราคาของ Bitcoin ณ ปัจจุบัน โดยบทความนี้จะนำเสนอให้รู้จักกับอินดิเคเตอร์ที่นักลงทุนใช้ดูอารมณ์ของตลาดคริปโตฯ ที่ชื่อว่า Crypto Fear & Greed Index หรือ Fear and Greed Index Crypto ที่สามารถใช้ดูอารมณ์ของนักลงทุนในตลาดคริปโตฯ ว่ามองตลาด ณ จุดนั้นเป็นอย่างไร
ดัชนีความกลัวและความโลภสำหรับคริปโตฯ หรือ Fear and greed index crypto คือเครื่องมือที่ใช้ในการประเมินความรู้สึกของนักลงทุนในตลาดคริปโตฯ ซึ่งตัวมันมีการทำงานคล้ายกับตัวชี้วัดความรู้สึกอื่น ๆ ที่วัดอารมณ์และความรู้สึกของนักลงทุนในตลาดต่าง ๆ ซึ่งในตลาดหุ้นเองก็มีเหมือนกัน และนี่คือส่วนประกอบต่าง ๆ ของอินดิเคเตอร์หรือดัชนีนี้
1.ดัชนีนี้ใช้ดูอะไร : ดัชนีตัวนี้มุ่งหวังที่จะเข้าใจว่านักลงทุนส่วนใหญ่รู้สึกกลัวหรือโลภเกินไป เวลาใดเวลาหนึ่ง ซึ่งตีความได้ว่า เมื่อความกลัวที่มากเกินไปสามารถทำให้คริปโตฯ ถูกประเมินค่าต่ำ หลังจากโดนกดดันจากสถานการณ์ของตลาดต่าง ๆ ในขณะที่ความโลภที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดฟองสบู่ เนื่องจากผู้คนซื้อมากเกินไป
2.ดัชนีนี้ประกอบด้วยอะไรบ้าง : ดัชนีความกลัวและความโลภสำหรับคริปโตฯ พิจารณาปัจจัยหลายอย่างเพื่อกำหนดอารมณ์ของตลาด ซึ่งปกติจะรวมถึงความผันผวน (ระดับของการเปลี่ยนแปลงราคา), แรงขับเคลื่อนของตลาด/ปริมาณ, ความรู้สึกในโซเชียลมีเดีย, แนวโน้ม, และแม้กระทั่งการสำรวจความคิดเห็นของรายย่อย
3.มาตราส่วนของดัชนีนี้ดูอย่างไร : ดัชนีจะให้คะแนนความรู้สึกในช่วงตั้งแต่ 0 ถึง 100 ค่า 0 หมายถึง “ความกลัวอย่างมาก” ซึ่งบ่งชี้ว่านักลงทุนอาจกังวลเกินไป อาจนำไปสู่การขายเพื่อหนีออกจากตลาด ค่า 100 หมายถึง “ความโลภอย่างมาก” บ่งชี้ว่าตลาดอาจต้องมีการปรับตัวลดลงบ้างเนื่องจากการซื้อมากเกินไป
4.ประโยชน์ของดัชนีนี้คืออะไร : เทรดเดอร์และนักลงทุนอาจใช้ดัชนีนี้ในการตัดสินใจซื้อหรือขายคริปโตได้ แนวคิดคืออาจพิจารณาซื้อเมื่อมีความกลัวอย่างมากและขายเมื่อมีความโลภอย่างมาก เพื่อทำให้สมดุลกับอคติทางอารมณ์ของตลาดโดยรวม
ดัชนีนี้ให้ภาพรวมของอารมณ์ตลาดคริปโตฯ และสามารถเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการตัดสินใจลงทุน โดยเฉพาะในการทำให้อารมณ์การลงทุนมีความสมดุลยิ่งขึ้นนั่นเอง
1.ใช้วัดอารมณ์ : ดัชนีวัด 2 อารมณ์หลักที่มีผลต่อราคาที่นักลงทุนยอมจ่ายสำหรับหุ้นหรือสกุลเงินดิจิทัล คือความกลัวและความโลภ ความกลัวอาจนำไปสู่การขายสินทรัพย์ออกจากตลาด ในขณะที่ความโลภอาจนำไปสู่ฟองสบู่ตลาด โดยการประเมินค่าอารมณ์เหล่านี้ดัชนี้จึงให้ภาพรวมของอารมณ์ตลาดได้ค่อนข้างดี
2.การกำหนดเวลาตลาด : แม้ว่าจะไม่ได้รับประกันความแม่นยำก็จริง แต่ดัชนีนี้สามารถช่วยให้เทรดเดอร์และนักลงทุนตัดสินใจเกี่ยวกับการเวลาในการซื้อขายได้ ตัวอย่างเช่น ความกลัวสูงอาจบ่งบอกถึงโอกาสในการซื้อหากนักลงทุนเชื่อว่าการขายทิ้งนั้นมากเกินไป ในทางกลับกัน ความโลภสูงอาจบ่งบอกถึงตลาดที่จำเป็นต้องปรับตัวลดลงในอนาคต
3.ใช้ลงทุนในทิศทางสวนตลาดเพื่อหาโอกาสได้ของถูก : นักลงทุนบางคนใช้ดัชนีนี้เป็นตัวชี้วัดการเป็นนักลงทุนแบบผิดทิศผิดทาง แนวคิดคือความโลภมากเกินไปสามารถส่งสัญญาณถึงการลดลงของตลาดที่กำลังจะมาถึง ในขณะที่ความกลัวสูงอาจบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น การ Panic sell เป็นต้น
4.ช่วยสรุปการอ่านข้อมูลที่ซับซ้อนให้เรียบง่าย : ดัชนีนี้จะรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ รวมถึงความผันผวนของตลาด แรงขับเคลื่อนของตลาด แนวโน้มในสื่อสังคม การสำรวจ และถือครองสินทรัพย์ในตลาด เพื่อสร้างตัวชี้วัดตัวเดียวที่เข้าใจได้ง่าย การทำให้ข้อมูลเรียบง่ายนี้ช่วยให้นักลงทุนประเมินสภาพอารมณ์ตลาดได้อย่างรวดเร็ว
5.การจัดการความเสี่ยง : การทำความเข้าใจอารมณ์ตลาด จะทำให้นักลงทุนสามารถจัดการความเสี่ยงได้ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น ระดับความโลภที่สูงอาจกระตุ้นให้นักลงทุนใช้กลยุทธ์การลงทุนที่ระมัดระวังมากขึ้น ในขณะที่ระดับความกลัวสูงอาจกระตุ้นให้มองหาโอกาสที่มีมูลค่าต่ำเกินไป
1.นำมาใช้ระบุอารมณ์ตลาดคริปโตฯ ทั้งหมดได้ : Bitcoin เป็นคริปโตฯ ที่มีขนาด Marketcap ใหญ่ที่สุด และเงินมักจะไหลเข้า Bitcoin ก่อนจะไปหาคริปโตฯ ตัวอื่น ๆ หากดัชนีแสดงถึงความกลัวอย่างรุนแรง อาจบ่งบอกว่าตลาดกำลังประเมินค่า Bitcoin ต่ำเกินไปเนื่องจากความกลัวอย่างไร้เหตุผล อาจเป็นช่วงเวลาที่ดีในการซื้อ ในทางกลับกัน หากดัชนีแสดงถึงความโลภอย่างรุนแรง ตลาดอาจประเมินค่า Bitcoin และตลาดคริปโตฯ ทั้งหมดสูงเกินไป ซึ่งบ่งบอกถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมในการขายหรือระมัดระวังในการซื้อเพิ่ม
2.ใช้ทำการซื้อ Bitcoin ในจังหวะที่นักลงทุนกลัวแบบสุดขีดและขายตอนนักลงทุนโลภมาก ๆ : นักลงทุนบางคนใช้ดัชนีเพื่อการลงทุนแบบสวนเทรนด์ตลาด เมื่อดัชนีชี้ให้เห็นถึงความกลัวอย่างรุนแรง พวกเขาอาจมองว่านี่คือเวลาที่เหมาะสมในการซื้อ Bitcoin เนื่องจากตลาดอาจมองในแง่ลบเกินความเป็นจริงอยู่ เมื่อดัชนีชี้ให้เห็นถึงความโลภอย่างรุนแรง พวกเขาอาจเห็นว่าเป็นสัญญาณในการขายเมื่อนักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มโลภแล้วทำการ Fomo
3.ใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่น ๆ ได้ : ไม่ควรใช้ดัชนีความกลัวและความโลภโดยลำพัง การรวมมันเข้ากับเครื่องมือวิเคราะห์อื่น ๆ เช่น การวิเคราะห์ทางเทคนิค (เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่และระดับแนวรับแนวต้าน) การวิเคราะห์พื้นฐาน On-chain (เช่น การใช้งานเครือข่ายและปริมาณการทำธุรกรรม) และตัวชี้วัดเศรษฐกิจภาพมาโคร สามารถให้มุมมองที่ครบถ้วนเกี่ยวกับเวลาในการเข้าหรือออกจากตำแหน่ง Bitcoin ได้แม่นยำมากขึ้น
4.Bitcoin fear and greed index ใช้เปรียบเทียบข้อมูลย้อนหลังของ Bitcoin ได้ : การดูข้อมูลย้อนหลังเพื่อดูว่าราคา Bitcoin มีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อมีระดับความกลัวหรือความโลภที่คล้ายคลึงกันถูกบันทึกไว้ย้อนหลัง ซึ่งสิ่งนี้สามารถช่วยให้นักลงทุนเข้าใจรูปแบบหรือผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นและทำนายการเคลื่อนไหวของตลาดในสถานการณ์ปัจจุบันได้ดีขึ้น
สรุปได้ว่า การใช้ดัชนีความกลัวและความโลภ (Fear and Greed Index) สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าเกี่ยวกับอารมณ์ของตลาดได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าไม่มีเครื่องมือเดียวที่สามารถทำนายการเคลื่อนไหวของตลาดได้อย่างแน่นอน ควรพิจารณาปัจจัยหลายอย่างและรักษาวินัยในการลงทุนอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน
คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวนและสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง และ ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
Disclaimer