Merkle Weekly Snapshot 16th - 20th September 2024

September 18, 2024

thumbnail

Merkle Weekly Snapshot

 

16th - 20th September 2024

 

บทวิเคราะห์มุมมองการลงทุนในสัปดาห์นี้

 


 

หมายเหตุ : บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นในทุกวันจันทร์ ดังนั้นบทความบางส่วนอาจจะมีความคลาดเคลื่อนของข้อมูลได้

 

MACROECONOMICS

 

Key Takeaways

  • Core Retail Sales MoM มีแนวโน้มที่จะลดลงเพียงเล็กน้อย
  • Retail Sales MoM มีแนวโน้มที่จะลดลง
  • FED Interest Rate Decision มีแนวโน้มที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยลดลง
  • Unemployment Claims มีแนวโน้มที่จะลดลงเล็กน้อย

 

WEEKLY TONE: MONITOR WEEK

 

  ด้วยสัปดาห์นี้ของเดือนกันยายนนั้น มีตัวชี้วัดที่สำคัญอย่าง Core Retail Sales และ Retail Sales ออกมา และมีแนวโน้มว่าทั้งสองตัวชี้วัดจะลดลง อีกทั้งยังมี FED Interest Rate Decision ที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกด้วย แต่ FED จะเลือกปรับลงที่ 25 BPS หรือ 50 BPS และมีโอกาสมากกว่า 50% ที่ FED จะปรับลดลง 50 BPS และอาจทำให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงได้รับผลกระทบเชิงลบอีกด้วย ฉะนั้นสัปดาห์นี้ควรรอดูตลาดคริปโตฯ เพื่อดูราคาให้ทำการลงทุนในสัปดาห์ถัด ๆ ไป

 


 

Important Economic Data this week :

 

1. Core Retail Sales MoM

 

  Core Retail Sales MoM หรือ ดัชนียอดค้าปลีก เป็นการวัดค่าการเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายอดขายทั้งหมดในระดับการค้าปลีก ซึ่งเป็นดัชนีที่สำคัญมากที่สุดที่บ่งชี้ถึงการใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นส่วนสำคัญมากที่สุดของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวม สำหรับ Retail Sales ที่ไม่รวมการซื้อรถ จะเรียกว่า Core Retail Sales

 

คาดการณ์จาก Tradingeconomic: Core Retail Sales MoM มีแนวโน้มที่จะลดลงจาก 0.4% เหลือ 0.3%

 

Source : https://tradingeconomics.com/united-states/retail-sales-ex-gas-and-autos-mom

 

ตีความอย่างไรต่อตลาด

  การที่มีแนวโน้มลดลงของ Core Retail Sales เพียงเล็กน้อย หรือมีแนวโน้มที่จะลดลงเพียง 0.1% อาจสามารถเป็นสัญญาณของการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และหาก Core Retail Sales ลดลงจะส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์เสี่ยงในเชิงลบเนื่องจากนักลงทุนจะไม่หลีกเลี่ยงการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงและจะไปถือครองสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากกว่า

 

2. FED Interest Rate Decision

 

  Federal Reserve (FED) หรือ ธนาคารกลางสหรัฐ จะมีการตัดสินใจในการเพิ่มลดหรือคงอัตราดอกเบี้ย ในการประชุมครั้งที่จะถึงนี้

 

คาดการณ์จาก: Tradingeconomic: FED มีแนวโน้มที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 5.00% - 5.25%

 

Source : https://tradingeconomics.com/united-states/interest-rate

 

ตีความอย่างไรต่อตลาด

  การที่ FED จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างแน่นอนในการประชุมครั้งถัดไป แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีโอกาสที่ FED จะลดอัตราดอกเบี้ยลงมากถึง 4.75% - 5.00% หมายความลดครั้งละ 50 BPS และถ้าหากลดครั้งละ 50 BPS อาจส่งผลให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงมีแรงตอบโต้ในทางลบ เนื่องด้วยนักลงทุนอาจกลัวที่จะเข้าสู่สภาวะตลาดถดถอยหรือ Recession

 

3. Unemployment Claims

 

  Initial Jobless Claims หรือ Unemployment Claims คือจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนค่าใช้จ่ายของรัฐได้ชัดกว่าอัตราการว่างงาน เพราะยิ่งตัวเลขนี้สูงขึ้นนั่นหมายความว่าค่าใช้จ่ายของภาครัฐ หรือ Government Expenditure ถูกใช้ไปในการช่วยเหลือกลุ่มคนว่างงานมากขึ้น เศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะหดตัว และยังแสดงให้เห็นถึงช่องว่างความเหลื่อมล้ำในประเทศอีกด้วย โดยตัวเลขนี้จะมีประกาศทุก ๆ วันพฤหัสบดี

 

คาดการณ์จาก Tradingeconomic: Unemployment Claims มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจาก 230K เป็น 234K

 

Source : https://tradingeconomics.com/united-states/jobless-claims

 

ตีความอย่างไรต่อตลาด

  การที่มีแนวโน้มว่า Unemployment Claims จะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย อาจไม่มีผลกระทบที่แน่ชัดต่อตลาด แต่อย่างไรก็ตาม ทุก ๆ ตัวชี้วัดนั้นจะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการคาดการณ์การลดอัตราดอกเบี้ย และการที่ Unemployment Claims มีแนวโน้มที่จะเพิ่ืมขึ้นนั้นอาจเป็นตัวบ่งชี้ถึงเศรษฐกิจที่กำลังจะชะลอ นักลงทุนที่มีความกังวลในการลงทุนก็อาจมีการปรับเปลี่ยนสินทรัพย์ไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่า

 

 


 

CRYPTOCURRENCY EVENT THIS WEEK

Credit from Coindar

 

Key Event ที่น่าสนใจที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์และอาจจะทำให้เกิดความผันผวนกับสินทรัพย์ดิจิทัล

 

    16 กันยายน

  • $BOBA - อัพเกรด Hard fork
  •  

    18 กันยายน

  • U.S. Fed interest rate decision
  • $MKR, $DAI - อัพเกรดเป็น $SKY และ $USDS ตามลำดับ
  •  

    19 กันยายน

  • $PIXEL - ปลดล็อคเหรียญ 7.05% ของอุปทานหมุนเวียน
  •  

    20 กันยายน

  • $DUSK - เปิดตัว Mainnet
  • $SOL - งาน Solana Breakpoint 2024

 

 

Weekly Crypto Must Watch

 

Source : https://www.coinglass.com/FundingRateHeatMap

 

  ในส่วนของ Funding rate สำหรับอาทิตย์นี้ยังค่อนข้างต่ำ หลายเหรียญมี Funding rate ติดลบ แสดงถึงตลาดที่นักลงทุนต่างพากันลดความเสี่ยง นักลงทุนมีมุมมองเชิงลบต่อตลาด และทำการเปิดสถานะชอร์ตมากกว่าสถานะลอง

 

Source : https://www.coinglass.com/BitcoinOpenInterest

 

  ในฝั่งของ Bitcoin Open Interest ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลง แสดงให้เห็นถึงการลดความเสี่ยงของนักลงทุนอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ มาจากการที่นักลงทุนรอดู Reaction ของตลาดต่อการประกาศนโยบายอัตราดอกเบี้ยของ Fed ในสัปดาห์นี้ และต่อด้วยการประกาศนโยบายอัตราดอกเบี้ยของ BoJ ทำให้ตลาดเกิดความกังวลเรื่อง Unwind Yen carry trade อีกครั้ง

 

Source : https://farside.co.uk/?p=997

 

  ในส่วนของ Bitcoin ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีกระแสเงินไหลเข้าจาก Spot Bitcoin ETFs รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 403.9 ล้านเหรียญ ถึงแม้ว่าจะเป็นสัปดาห์ที่มีแรงซื้อสุทธิเป็นบวก แต่ก็ยังไม่สามารถหักล้างกับแรงเทขายในช่วงสองสัปดาห์ก่อนได้ บ่งบอกถึงแรงเทขายที่ผ่อนลงในระยะสั้น แต่นักลงทุนสถาบันยังคงจับตามองเศรษฐกิจภาพรวมมากกว่า

 

Source : https://farside.co.uk/?p=1518

 

  ในส่วนของ Ethereum ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีกระแสเงินไหลออกทั้งสิ้น 12.9 ล้านเหรียญ ซึ่งยังคงเป็นแรงเทขายจาก ETHE เป็นหลัก ประกอบกับแรงซื้อจากเจ้าอื่นที่มีเข้ามาเพียงเล็กน้อย ทำให้ภาพรวมยังคงดูแย่สำหรับ Ethereum

 

Institutional Investors Analysis

 

  หลังจากการอนุมัติของ SEC ทั้ง Spot Bitcoin และ Ethereum ETF ทำให้นักลงทุนสถาบันกลายมาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่สำคัญในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี และเปลี่ยนโครงสร้างตลาดจากที่ครองโดยนักลงทุนรายย่อยมาเป็นนักลงทุนสถาบันแทน ทำให้การจับตามองยอดเงินเข้าออกสำคัญต่อทิศทางตลาดมาก

 

  เนื่องจากปัจจัยทางด้าน Macroeconomics สร้างความกังวลให้กับนักลงทุน ส่งผลให้เกิดการลดความเสี่ยงอย่างเห็นได้ชัด โดยตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน ได้มียอดไหลออกจาก Spot Bitcoin และ Ethereum ETF กว่า 302.2 ล้านเหรียญ และ 104 ล้านเหรียญตามลำดับ

 

Source : https://insights.glassnode.com/the-week-onchain-week-37-2024/

 

 

Source : https://insights.glassnode.com/the-week-onchain-week-37-2024/

 

  หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ยอดการไหลเข้าของ Spot ETF ทั้งสองลดลงนั้น มาจากการลดลงของ CME Basis หรือความต่างระหว่างราคา Futures และราคา Spot นั่นเอง โดยปัจจุบันมีการตกลงทำจุดต่ำสุดในรอบ 8 เดือนเลยทีเดียว เมื่อช่องว่างในการทำกำไรจากการ Arbitrage ของนักลงทุนสถาบันลดลง ทำให้ไม่มีเม็ดเงินไหลเข้ามาในตลาดคริปโตเคอร์เรนซีมากเท่าช่วงต้นปี 2024

 

นอกจากนี้ CME Basis อาจจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ Ethereum underperform ตลาด เนื่องจาก CME Basis ของ Ethereum นั้นต่ำกว่า Bitcoin ซึ่งหมายความว่า โอกาสในการทำกำไรจากส่วนต่างราคาก็น้อยลงไปด้วยนั่นเอง ปัจจัยนี้ทำให้ Spot Ethereum ETF ดูน่าดึงดูดน้อยลงไปอีก

 

 

Source : https://www.coinbase.com/institutional/research-insights/research/weekly-market-commentary/weekly-2024-09-13

 

 


 

WEEKLY TECHNICAL ANALYSIS

by Cryptomind Advisory

 

BTC/USDT

 

  $BTC สัปดาห์ที่ผ่านมามีการ Rebound ขึ้นมาถึงบริเวณแนวต้าน $60,000 - $61,000 ซึ่งในระยะสั้นแล้วหากราคายืนอยู่เหนือแนวดังกล่าวได้จะเป็นการกลับตัวของ Momentum ราคาเป็นขาขึ้นของ $BTC อย่างไรก็ตามจากการย่อตัวของราคาที่ลงมาหลังจากชนแนวต้าน แสดงถึงความไม่แน่นอนที่มากของตลาด ทำให้มีโอกาสให้ช่วงสัปดาห์ข้างหน้า $BTC อาจมีการ Sideway Down ออกไปก่อนอยู่ในชุดสะสม Descending Triangle เพื่อรอการ Breakout ต่อไป

 

แนวต้าน : $61,000 | $67,000 | $73,500

แนวรับ : $53,500 | $48,000 | $44,000

 

ETH/USDT

 

  $ETH สัปดาห์ที่ผ่านมาไม่สามารถยืนราคาเหนือแนวต้าน $2,400 ได้ทำให้ราคามีการเคลื่อนที่ Sideway Down ต่อไปในช่วงข้างหน้า โดยแนวรับสำคัญที่น่าจับตามองยังคงอยู่ที่บริเวณราคา $2,100 ซึ่งอาจเป็นตัวกำหนดการเคลื่อนที่ของราคา $ETH โดยหากราคานั้นรับอยู่ก็อาจเป็นจุดกลับตัว แต่หากมีการหลุดแนวรับดังกล่าวลงไปมีโอกาสลงต่อไปยังแนวรับบริเวณ $1,850 ได้เช่นกัน

 

แนวต้าน : $2,400 | $2,870 | $3,350

แนวรับ : $2,125 | $1,870 | $1,550

 

 


 

ASSET ALLOCATION

by Cryptomind Advisory

 

  “มีความเป็นไปได้สูง” ของการลดดอกเบี้ยของ FED จะมาถึงในเดือนกันยายน และ Bitcoin Dominance ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงมากกว่า 50% และการมาของ Ethereum spot ETF และมุมมองเชิงบวกมากๆต่อตลาดคริปโทในสหรัฐในเชิงการเมืองที่อาจจะเห็นภาพชัดเจนในไตรมาสที่ 4 และเมื่อพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจที่ผันผวนในสัปดาห์นี้ จึงแนะนำให้นักลงทุนถือสัดส่วนของ Bitcoin เอาไว้เพื่อลด Drawdown โดยรวมของพอร์ต และเพิ่มสัดส่วนของ Ethereum ในพอร์ตเพิ่มขึ้น บวกกับถือสัดส่วนของ Altcoins ที่มีพื้นฐานที่ดีรับสัญญาณของ Altcoins season และเก็บ Stablecoin ที่เป็น USD เพื่อใช้เป็นไม้สำรอง

 

BITCOIN 40%
SELECTIVE ALTCOINS (ETH, LAYER 2 ,LSD) 40%
STABLECOIN 20%

 

คริปโทเคอร์เรนซีมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน

 

ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต

เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

Merkle Capital คือผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกในประเทศไทย ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานก.ล.ต. บริษัทให้การดูแลและบริหารเงินลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลแก่ลูกค้าด้วยกลยุทธ์ที่หลากหลายโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนและการบริหารจัดการ