Merkle Weekly Snapshot 24th - 28th June 2024

มิถุนายน 26, 2024

thumbnail

Merkle Weekly Snapshot

 

24th - 28th June 2024


บทวิเคราะห์มุมมองการลงทุนในสัปดาห์นี้




หมายเหตุ : บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นในทุกวันจันทร์ ดังนั้นบทความบางส่วนอาจจะมีความคลาดเคลื่อนของข้อมูลได้


MACROECONOMICS


Key Takeaways


• Durable Goods Orders มีแนวโน้มลดลงจาก 0.7% เป็น 0.3%

• Core PCE มีแนวโน้มลดลงจาก 0.2% เป็น 0.1%

• Personal Income มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 0.3% เป็น 0.4%


WEEKLY TONE : MONITOR WEEK

  ในฝั่งของตัวเลขเศรษฐกิจสัปดาห์นี้จะมีตัวเลขที่น่าสนใจ คือ Core PCE ที่มีแนวโน้มลดลงเนื่องจากสภาวะแนวโน้มของเงินเฟ้อที่เริ่มลดลง และ Core PCE ที่ลดลงมาเรื่อยๆนั้น มองถึงการวางนโยบายการเงินและการคลังเริ่มกลับมาสอดคล้องกันทำให้ช่วยลดความร้อนแรงของระบบเศรษฐกิจที่ขยายตัวจนมากเกินไปจากการอัดฉีดเงินในระบบในช่วงปี 2024 ซึ่งจากการคาดการณ์หากเงินเฟ้อลดลงจริงและตามเป้าที่วางไว้ของ FED เราอาจจะได้เห็นการลดลงของ อัตราดอกเบี้ยในช่วงไตรมาสที่ 4 แต่อาจจะต้องพิจารณาเรื่องของราคาของอสังหาริมทรัพย์และราคาของพลังงานเข้ามาร่วมด้วย ในฝั่งของ Personal Income นั้นจะเติบโตเพิ่มขึ้นในสัดส่วนประมาณ 0.2%-0.4% ดังนั้นอาจจะไม่ส่งผลกระทบหรือมีปัจจัยต่อเศรษฐกิจมากขนาดนั้น




Important Economic Data this week :


1.Durable Goods Orders


  Durable Goods Orders คือยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน เป็นดัชนีชี้วัดถึงกิจกรรมการผลิตที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยจะเป็นตัววัดปริมาณของการสั่งสินค้า การส่งสินค้าโดยจะเป็นตัววัดถึงภาคการผลิตซึ่งหากว่าเศรษฐกิจมีปัญหาจะส่งผลให้ปริมาณการสั่งสินค้าลดลง


คาดการณ์จาก Trading Economics : Durable Goods Orders มีแนวโน้มลดลงจาก 0.7% เป็น 0.3%


Source : https://tradingeconomics.com/united-states/durable-goods-orders

ส่งผลอย่างไรต่อตลาด

  จากตัวเลขคาดการณ์ที่ลดลงจากการสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ลดลง แสดงถึงการหดตัวของกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยโดยอาจจะมาจากหลายปัจจัยเช่น การเริ่มคงที่ของปัจจัยการผลิตทำให้สัดส่วนการสั่งซื้อสินค้าคงทนนั้นลดลงโดยอาจจะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม


2. Core PCE Price MoM


  United States Core PCE Price Index (Personal Consumption Expenditures Price Index) คือดัชนีราคาที่ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงในระดับราคาของสินค้าและบริการที่บรรจุในการบริโภคของประชากรในสหรัฐอเมริกา โดยไม่รวมราคาของอสังหาริมทรัพย์ และค่าประกันสุขภาพ และราคาของสินค้า และบริการที่เป็นผลมาจากราคาของพลังงาน และอาหารที่มีความผันผวนมาก


คาดการณ์จาก Trading Economics : Core PCE มีแนวโน้มลดลงจาก 0.2% เป็น 0.1%


Source : https://tradingeconomics.com/united-states/durable-goods-orders

ตีความอย่างไรต่อตลาด

  เนื่องจากสภาวะแนวโน้มของเงินเฟ้อที่เริ่มลดลงและ Core PCE ที่ลดลงมาเรื่อยๆ มองถึงการวางนโยบายการเงินและการคลังเริ่มกลับมาสอดคล้องกันทำให้ช่วยลดความร้อนแรงของระบบเศรษฐกิจที่ขยายตัวจนมากเกินไปจากการอัดฉีดเงินในระบบในช่วงปี 2024 ซึ่งจากการคาดการณ์หากเงินเฟ้อลดลงจริงและตามเป้าที่วางไว้ของ FED เราอาจจะได้เห็นการลดลงของ อัตราดอกเบี้ยในช่วงไตรมาสที่ 4 แต่อาจจะต้องพิจารณาเรื่องของราคาของอสังหาริมทรัพย์และราคาของพลังงานเข้ามาร่วมด้วย


3. Personal Income MoM


  Personal Income MoM หมายถึง อัตราการเปลี่ยนแปลงของรายได้ส่วนบุคคลต่อเดือน ซึ่งเป็นข้อมูลทางเศรษฐกิจที่วัดการเปลี่ยนแปลงของรายได้ของบุคคลในแต่ละเดือนเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ข้อมูลนี้มักถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์และประเมินสภาวะของเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงในรายได้ส่วนบุคคลส่วนใหญ่จะส่งผลต่อการบริโภคและกำลังซื้อของบุคคล ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจ


คาดการณ์จาก Trading Economics : Personal Income มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 0.3% เป็น 0.4%


Source : https://tradingeconomics.com/united-states/personal-income

ตีความอย่างไรต่อตลาด

 จากตัวเลขคาดการณ์แสดงถึงรายได้ส่วนบุคคลที่เพิ่มขึ้นซึ่งอาจจะมาจากหลากหลายปัจจัยทั้งอัตราส่วนตัวเลขการว่างงาน หรือรายได้จากการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ทำให้ในส่วนของรายได้ส่วนบุคคลที่เพิ่มขึ้น แต่โดยรวมจะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่แล้ว Personal Income นั้นจะเติบโตเพิ่มขึ้นในสัดส่วนประมาณ 0.2% - 0.4% ดังนั้นอาจจะไม่ส่งผลกระทบหรือมีปัจจัยต่อเศรษฐกิจมากขนาดนั้น




CRYPTOCURRENCY EVENT THIS WEEK

Credit from LayerGG


Key Event ที่น่าสนใจที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์และอาจจะทำให้เกิดความผันผวนกับสินทรัพย์ดิจิทัล


    24 มิถุนายน

  • $MTL - snapshot

  • 25 มิถุนายน

  • $SD - เบิร์นเหรียญ

  • 26 มิถุนายน

  • $THETA - เปิดตัว Edge Node Client
  • $FLUX - เปิดตัว Fluxedge Alpha

  • 27 มิถุนายน

  • การโต้วาทีครั้งแรกของ Biden และ Trump

  • 28 มิถุนายน

  • $VET - เปิดตัว mainnet


Weekly Crypto Must Watch


Source : https://www.coinglass.com/FundingRateHeatMap

  ในส่วนของ Funding rate สำหรับอาทิตย์นี้ถือว่าอยู่ในระดับที่ปกติแสดงถึงการเก็งกำไรในตลาดบนสัญญาอนุพันธ์ที่คงตัว และเมื่อดูควบคู่กับปริมาณการเทรดสัญญา Future ที่ลดลงกว่า 50% นั้น แสดงถึงตลาดที่มีความต้องการในการเก็งกำไรลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ


Source : https://www.coinglass.com/BitcoinOpenInterest

  ในส่วนของ Bitcoin ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีกระแสเงินไหลออกจาก Spot Bitcoin ETFs เกือบทุกวัน รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 544.1 ล้านเหรียญ ซึ่งแรงเทขายส่วนใหญ่มาจาก FBTC และ GBTC เป็นหลัก ประกอบกับแรงซื้อจาก IBIT เพียงเล็กน้อย ทำให้ราคา Bitcoin ตกลงมาอยู่ในช่วง $62,000 - $63,000


Bitcoin ETF Flow Analysis


ในฝั่งของ Open Interest ปริมาณเงินมีแนวโน้มลดลงจากต้นเดือนมิถุนายน แต่ภาพโดยรวมยังคงตัวอยู่ในระดับสูง แสดงถึงความสนใจของตลาดในระดับที่สูง แต่มีความคลุมเครือในระยะสั้น อาจจะมีการ sideways อยู่ในระดับนี้ จนกว่าจะมีปัจจัยบวกมาส่งเสริม


Source : https://farside.co.uk/?p=997

  ในส่วนของ Bitcoin ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีกระแสเงินไหลออกจาก Spot Bitcoin ETFs เกือบทุกวัน รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 544.1 ล้านเหรียญ ซึ่งแรงเทขายส่วนใหญ่มาจาก FBTC และ GBTC เป็นหลัก ประกอบกับแรงซื้อจาก IBIT เพียงเล็กน้อย ทำให้ราคา Bitcoin ตกลงมาอยู่ในช่วง $62,000 - $63,000


Market Cycle Update


Source : https://insights.glassnode.com/the-week-onchain-week-25-2024/

  ถึงแม้ตลาดช่วงนี้จะมีภาวะซึมลงเล็กน้อย แต่เมื่อมองในภาพใหญ่ จะสังเกตได้ว่าตลาดยังคงอยู่ในสภาวะกระทิง โดยในปัจจุบัน นักลงทุนที่ถือ Bitcoin มากกว่า 80% ยังคงมีกำไรโดยเฉลี่ยถึง 120% ซึ่งถือว่าตลาดยังคงอยู่ในสภาวะขาขึ้น


Source : https://panteracapital.com/blockchain-letter/newsflash-crypto-owners-vote/

  แม้ว่าตัวชี้วัดหลายอย่างจะแสดงให้เห็นว่า ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีขึ้นมาค่อนข้างเยอะแล้ว แต่เมื่อดูข้อมูลในอดีตของจำนวนกระเป๋าที่มีการถือ Bitcoin นานกว่า 1 ปี จากกราฟข้างต้นจะสังเกตได้ว่า เมื่อจำนวนกระเป๋าดังกล่าวทำจุดพีคแล้วค่อยๆ ลดลง จะเป็นสัญญาณของการพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงของราคา Bitcoin และเป็นจุดเริ่มต้นของ Bull run อย่างแท้จริง ซึ่งตัวเลขนี้มีโอกาสที่จะเจอจุดพีคแล้วเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2023 จากสัญญาณที่เริ่มมีการปรับตัวลดลง


  การที่จำนวนกระเป๋าที่ถือ Bitcoin นานกว่า 1 ปี มีจำนวนลดลงนั้น เกิดจากการขายทำกำไรของกลุ่มนักลงทุนดังกล่าว และทำให้เกิดการกระจายไปยังนักลงทุนหน้าใหม่ที่เข้ามาในตลาด ซึ่งส่งผลกระทบเชิงลบต่อราคาในระยะสั้น แต่เมื่อตลาดเจอจุดสมดุลใหม่ (Equilibrium) จะทำให้แรงขายลดลงได้


Source : https://panteracapital.com/blockchain-letter/newsflash-crypto-owners-vote/

  จากสถิติข้างต้น แสดงถึง Upside ของตลาดที่ยังสามารถเกิดได้ เพียงแต่นักลงทุนควรระมัดระวังแรงขายในระยะสั้นเพื่อล็อคกำไรของนักลงทุนบางกลุ่ม




WEEKLY TECHNICAL ANALYSIS

by Cryptomind Advisory


BTC/USDT


  $BTC มีการหลุดแนวรับ $67,000 ทำให้ Momentum เป็นขาลงและทำ Lower High Lower Low อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งใน RSI ที่ยังไม่มีสัญญาณกลับตัวทำให้ช่วงข้างหน้าราคาอาจทำรูปแบบ Sideway Down ไปอีกระยะหนึ่ง แนวรับที่สำคัญแนวถัดไปคือบริเวณ $60,500 - $61,500 ที่คาดว่าจะมีการพักตัวของราคาเกิดขึ้น ซึ่งหากรับอยู่ก็อาจทำให้ราคาของ $BTC นั้น Sideway ออกไปในช่วงสัปดาห์ข้างหน้า แต่หากไม่สามารถยืนราคาได้ก็อาจจะลงไปถึง $56,000 ได้เลยเช่นกัน


แนวต้าน: $67,000 | $73,000 | $76,500

แนวรับ: $61,500 | $56,500 | $52,500


ETH/USDT


  $ETH ได้มีการ Sideway Down ลงมาจนถึงบริเวณแนวรับ $3,350 โดยในระยะสั้นแล้วหากสามารถยืนราคาอยู่บริเวณนี้ได้ ก็ยังมีโอกาสกลับตัวเพื่อขึ้นต่อได้ อย่างไรก็ตามใน RSI ยังไม่ได้มีสัญญาณกลับตัวเกิดขึ้นชัดเจนทำให้แนวโน้มยังคงเป็นขาลงอยู่ในช่วงสัปดาห์นี้ ในกรณีที่ราคามีการปิดต่ำกว่าแนวรับ $3,350 จะทำให้ Momentum ขาลงรุนแรงขึ้นและอาจมีโอกาสที่ราคาจะลงไปทดสอบแนวรับบริเวณ $2,870 ได้


แนวต้าน: $3,700 | $4,070 | $4,450

แนวรับ: $3,350 | $2,870 | $2,400




ASSET ALLOCATION

by Cryptomind Advisory


  "มีความเป็นไปได้" ของการลดดอกเบี้ยของ FED อาจจะเลื่อนออกไปถึงเดือนกันยายน และ Bitcoin Dominance ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงมากกว่า 50% และการมาของ Ethereum spot ETF และมุมมองเชิงบวกมากๆต่อตลาดคริปโทในสหรัฐในเชิงการเมืองที่อาจจะเห็นภาพชัดเจนในไตรมาสที่ 4 และเมื่อพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจที่ผันผวนในสัปดาห์นี้ จึงแนะนำให้นักลงทุนถือสัดส่วนของ Bitcoin เอาไว้เพื่อลด Drawdown โดยรวมของพอร์ต และเพิ่มสัดส่วนของ Ethereum ในพอร์ตเพิ่มขึ้น บวกกับถือสัดส่วนของ Altcoins ที่มีพื้นฐานที่ดีรับสัญญาณของ Altcoins season และเก็บ Stablecoin ที่เป็น USD เพื่อใช้เป็นไม้สำรอง


BITCOIN 60%
SELECTIVE ALTCOINS (ETH, LAYER 2 ,LSD) 20%
STABLECOIN 20%

คริปโทเคอร์เรนซีมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน

ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต

เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

Merkle Capital คือผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกในประเทศไทย ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานก.ล.ต. บริษัทให้การดูแลและบริหารเงินลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลแก่ลูกค้าด้วยกลยุทธ์ที่หลากหลายโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนและการบริหารจัดการ