เมษายน 02, 2025
หมายเหตุ : บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นในทุกวันจันทร์
ดังนั้นบทความบางส่วนอาจจะมีความคลาดเคลื่อนของข้อมูลได้
WEEKLY TONE: MONITOR WEEK
ในสัปดาห์นี้ดัชนียังแสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวในภาพรวมเศรษฐกิจอย่างเห็นได้ชัด และสัปดาห์นี้ยังมีการพูดของ Jerome Powell หรือประธาน FED อีกด้วย ทำให้ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลอาจมีความผันผวนมากกว่าเดิม ฉะนั้น ควรรอเวลาเพื่อทำธุรกรรมในสินทรัพย์ดิจิทัลที่มี Market Cap ใหญ่ ๆ เท่านั้น
ตัวเลขการสำรวจการจ้างงานทุกตำแหน่ง (ที่ยังว่างอยู่) ในทุกวันสุดท้ายของเดือน เป็นส่วนหนึ่งของการสำรวจ "Job Openings and Labor Turnover Survey (JOLTS)" การสำรวจนี้จะรวบรวมข้อมูลจาก 16,400 หน่วยงานนอกภาคเกษตรกรรม ซึ่งรวมถึงร้านค้า และ โรงงาน รวมถึงหน่วยงานรัฐบาลระดับกลาง ภาครัฐ และท้องถิ่นใน 50 รัฐ และ ดิสทริคต์ออฟคอลัมเบีย
คาดการณ์จาก Tradingeconomic: JOLTs Job Opening มีแนวโน้มที่จะลดลงจาก 7.74M เป็น 7.6M
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การคาดการณ์การลดตัวลงของ JOLTs Job Opening แสดงให้เห็นถึงเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และตลาดแรงงานนั้นมีความผันผวนในระยะสั้น
ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม เป็นรายงานการจ้างงานที่ถูกปล่อยออกมาเป็นระยะๆ โดยทั่วไปจะออกในวันศุกร์แรกของทุกเดือน และมีผลกระทบมากต่อดอลลาร์ของสหรัฐ ตลาดหุ้น และตลาดหลักทรัพย์ Current Employment Statistics (CES) จากหน่วยงานสถิติแรงงานของกรมแรงงานของสหรัฐ ทำการสำรวจประมาณ 141,000 ธุรกิจ หน่วยงานรัฐบาล และ 486,000 ธุรกิจส่วนตัว เพื่อให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการจ้างงาน ชั่วโมงทำงาน และรายได้ของคนงานในกลุ่มที่ไม่ใช่ภาคเกษตร
คาดการณ์จาก Tradingeconomic: Non Farm Payrolls มีแนวโน้มที่จะลดลงจาก 151K เป็น 80K
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การคาดการณ์การลดตัวลงอย่างมีนัยสำคัญของ Non Farm Payrolls แสดงให้เห็นถึงความไม่แน่นอนในฝั่งของแรงงานและเศรษฐกิจที่มีการชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัดเจน ทำให้นักลงทุนหันไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่า
ISM Manufacturing PMI คือตัวเลขการจัดซื้อและจัดจ้างในภาคการผลิตสินค้าต่างๆ จากการจัดทำการสำรวจสอบถามภาคธุรกิจการผลิตต่างๆ รวมถึง 300 บริษัททั่วประเทศเพื่อทราบถึงผลกระทบทางบวก และ ลบในภาคเศรษฐกิจ โดยดัชนีนี้จะประกอบไปด้วย คำสั่งซื้อใหม่ 30% การผลิต 25% แรงงาน 20% เวลาส่งมอบของผู้ผลิต 15% และสินค้าคงคลัง10% รวมถึงสินค้าคงคลังที่ซื้อมา 10%
คาดการณ์จาก Tradingeconomic: ISM Manufacturing PMI มีแนวโน้มที่จะลดลงจาก 50.3 เป็น 50
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การคาดการณ์การลดตัวลงของ ISM Manufacturing แสดงให้เห็นถึงภาคการผลิตที่มีการหดตัวลงอย่างชัดเจน ส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
Key Event ที่น่าสนใจที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์และอาจจะทำให้เกิดความผันผวนกับสินทรัพย์ดิจิทัล
1 เมษายน
2 เมษายน
3 เมษายน
4 เมษายน
ในส่วนของ Funding rate สำหรับอาทิตย์นี้มีการปรับตัวลงเล็กน้อย หลายเหรียญมี Funding rate ติดลบ แสดงถึงตลาดที่ปรับตัวลงเล็กน้อย นักลงทุนมีมุมมองเชิงลบต่อตลาด และทำการเปิดสถานะชอร์ตมากกว่าสถานะลอง
ในฝั่งของ Bitcoin Open Interest มีการปรับตัวลดลง บ่งบอกถึงการลดความเสี่ยงของนักลงทุนในระยะสั้น ทั้งนี้ อาจจะมาจากเหตุผลเรื่องความไม่แน่นอนทาง Macroeonomics และนักลงทุนยังคงจับตามองการประกาศตัวเลขในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดในการประกาศดอกเบี้ย ของ FED
ในส่วนของ Bitcoin ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกระแสเงินไหลเข้าสุทธิที่ 196.4 ล้านเหรียญซึ่งแรงซื้อส่วนใหญ่มาจาก IBIT อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงรอปัจจัยบวกเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจเข้าซื้อ แม้ว่าปัจจุบันสัญญา LTH จะมีแรงซื้อเพิ่มขึ้นก็ตาม
ในส่วนของ Ethereum ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกระแสเงินไหลออกสุทธิที่ 8.7 ล้านเหรียญยังคงเป็นอีกสัปดาห์ที่ไม่มีเงินทุนไหลเข้าสู่ตลาด ขณะเดียวกันยังคงเผชิญแรงเทขายอย่างต่อเนื่อง โดยแทบไม่มีเม็ดเงินใหม่เข้ามา เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงเฝ้าจับตาตลาดและภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่มีความชัดเจน
นักลงทุนระยะสั้น หรือ Short-term holders กำลังขาดทุนจากการถือ Bitcoin โดยมีต้นทุนเฉลี่ยอยู่ที่ 93,400 ดอลลาร์ หากราคากลับเป็นขาขึ้นจะต้องมีแนวโน้มที่ต้องยืนเหนือระดับนี้ให้ได้โดยเมื่อวัดจากอดีต เมื่อราคาลงต่ำกว่าต้นทุนเฉลี่ยของนักลงทุนระยะสั้น เรามักเห็นการเด้งกลับ หรือ relief rally ขึ้นมาแตะระดับนี้ ก่อนจะถูกเทและร่วงลงอีกครั้ง เพราะนักลงทุนที่เข้ามาช่วงท้ายๆ มักรีบขายเอาทุนคืน โดยรอบนี้เคยเกิดแล้วช่วงต้นมีนาคม หลังร่วงไปแถว 78K และเด้งกลับมา 90K จากข่าว Trump Strategic Reserve แต่ไม่สามารถยืนในราคานั้นได้ อย่างไรก้ตามถ้ามีการเด้งของราคาอีกครั้ง ต้องดูว่าจะสามารถยืนได้หรือไม่ ถ้าได้ ตลาดจะมีโมเมนตัมอีกครั้ง
ส่วนใหญ่นักลงทุนระยะยาวมักจะเข้าซื้อใน จุดต่ำสุด ของตลาด ส่วนนักลงทุนระยะสั้นมักเป็นคนดันราคาขึ้นไปทำ จุดสูงสุดใหม่ เวลาเกิดฟองสบู่ หลังจากขายทำกำไรใน Q1 และ Q4 ปีที่แล้ว ตอนนี้นักลงทุนระยะยาวเริ่มกลับเข้ามาซื้อในจังหวะตลาดย่ออีกครั้ง ซึ่งถ้าดูจากแถบสีเขียวด้านขวาของกราฟ ถือเป็นสัญญาณที่ดีแต่ก็ยังไม่ได้คอนเฟริมว่าราคานี้คือ จุดต่ำสุด โดยวัดจากอดีตพฤติกรรมแบบนี้เคยเกิดในตลาดขาลงรอบก่อนๆ เหมือนกัน นักลงทุนรีบซื้อจังหวะย่อ แต่สุดท้ายราคาก็ยังร่วงลงต่อจนเกิด capitulation
ดังนั้น นี้อาจกล่าวได้ว่าอาจเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการทยอยเข้าซื้อ หลังจาก Bitcoin ร่วงลงอีกครั้ง หรือรอการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อในเดือนหน้าโดยสำหรับสัปดาห์นี้ สถานการณ์โดยรวมยังคงเฝ้าติดตาม เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจยังไม่ชัดเจน นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่น ที่ส่งผลต่อความผันผวนของตลาด เช่น tariff และการแถลงการณ์ของ Powell ในวันศุกร์ คาดว่าตลาดจะมีความผันผวนพอสมควร อย่างไรก็ตาม สัปดาห์หน้ามีแนวโน้มที่สถานการณ์จะชัดเจนขึ้น เนื่องจากจะมีการประกาศตัวเลข CPI ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญต่อทิศทางตลาด
$BTC ยังอยู่ในกรอบขาลงต่อหลังจากทดสอบแนวต้าน Trendline ในกรอบ ถึงแม้ว่าใน RSI ได้มีการลงไป Oversold แล้วหนึ่งครั้งซึ่งก็เป็นสัญญาณของการเข้าใกล้ Local Bottom มากขึ้นแล้ว ในระยะสั้นยังคงมีโอกาสที่ $BTC Sideway Down ออกไปได้ก่อนในตอนนี้ และแนวรับสำคัญจะอยู่ที่บริเวณ Local Bottom บริเวณ $78.5k
แนวต้าน : $83,500 | $87,000 | $92,000
แนวรับ : $78,500 | $73,000 | $67,000
$ETH นั้นมีการปรับตัวลงต่อในรูปแบบ Sideway Down ตอนนี้กำลังลงมาทดสอบแนวรับ Local Bottow บริเวณ $1,760 อีกครั้งหนึ่ง หากมีการหลุดแนวรับนี้ลงไปอาจลงต่อไปยังกรอบด้านล่างของกรอบขาลงนี้ได้ อย่างไรก็ตามหากมีการ Sideway ออกข้างของราคาก็จะทำให้บริเวณนี้สร้างชุดสะสมได้เช่นกัน มุมมองของการจะเป็นขาขึ้นได้นั้นควรจะต้องมีการ Breakout ออกจากกรอบขาลงให้ได้ก่อน
แนวต้าน : $2,000 | $2,400 | $2,800
แนวรับ : $1,650 | $1,470 | $1,350
Bitcoin Dominance ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงมากกว่า 50% และเมื่อพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจที่ผันผวนในสัปดาห์นี้และสถานการณ์เงินเฟ้อที่ยังไม่สู้ดีนัก จึงแนะนำให้นักลงทุนถือสัดส่วนของ Bitcoin เอาไว้เพื่อลด Drawdown โดยรวมของพอร์ต บวกกับถือสัดส่วนของ Altcoins ที่มีพื้นฐานที่ดีและมี Marketcap ที่ใหญ่ และเก็บ Stablecoin ที่เป็น USD เพื่อใช้เป็นไม้สำรอง
Disclaimer