กันยายน 02, 2024
งบดุลส่วนบุคคลหรืองบการเงินส่วนบุคคล (Personal Balance Sheet) คือเอกสารทางการเงินที่แสดงถึงสถานะการเงินของบุคคลในช่วงเวลาหนึ่ง ประกอบไปด้วยสินทรัพย์ (Assets) และหนี้สิน (Liabilities) ของบุคคลนั้น โดยงบดุลส่วนบุคคลจะช่วยให้สามารถดูภาพรวมของความมั่งคั่งและสถานะการเงินของตนเองได้
งบดุลส่วนบุคคลแบ่งออกเป็นสองส่วนหลักคือ
สินทรัพย์ (Assets)
หนี้สิน (Liabilities)
ผลต่างระหว่างสินทรัพย์และหนี้สินจะเรียกว่า “มูลค่าสุทธิ (Net Worth)” ซึ่งแสดงถึงทรัพย์สินที่เหลือหลังจากหักหนี้สินออกแล้ว มูลค่าสุทธินี้เป็นตัวบ่งชี้ถึงความมั่งคั่งของบุคคลนั้น
มูลค่าสุทธิ (Net Worth) = สินทรัพย์ (Assets) - หนี้สิน (Liabilities)
ตัวอย่างเช่นนายสมชายมีสินทรัพย์และหนี้สินดังนี้
สินทรัพย์ (Assets) : เงินสดและเงินฝาก 200,000 บาท บ้านและที่ดิน 3,000,000 บาท รถยนต์ 500,000 บาท เงินลงทุนในหุ้น 100,000 บาท
รวมสินทรัพย์: 3,800,000 บาท
หนี้สิน (Liabilities) : หนี้บัตรเครดิต 50,000 บาท สินเชื่อบ้าน 1,500,000 บาท สินเชื่อรถยนต์ 200,000 บาท
รวมหนี้สิน : 1,750,000 บาท
มูลค่าสุทธิ (Net Worth) : สินทรัพย์ − หนี้สิน = 3,800,000 − 1,750,000 = 2,050,000 บาท
ดังนั้น มูลค่าสุทธิของนายสมชายคือ 2,050,000 บาท
แต่งบดุลส่วนบุคคลไม่ได้จบแค่เท่านั้น การลงลึกไปยังรายละเอียดเล็กลงไปอีกจะให้ข้อมูลเล็ก ๆ น้อย ๆ ระดับที่สะท้อนพฤติกรรมของผู้ทำงบการเงินส่วนบุคคลได้เลย ซึ่งนอกจากงบดุลส่วนบุคคลแล้ว ยังมีอีก 2 งบที่ต้องทำความรู้จัก นั่นคือ
งบรายได้และค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล (Personal Income and Expense Statement) คือเอกสารที่แสดงรายได้และค่าใช้จ่ายทั้งหมดของบุคคลในช่วงเวลาหนึ่ง โดยทั่วไปจะใช้ในการติดตามการเงินและการวางแผนการเงินส่วนบุคคล ซึ่งช่วยให้บุคคลสามารถดูภาพรวมของการเงินตนเอง และตรวจสอบว่าสามารถเก็บออมได้มากน้อยเพียงใด
เงินที่เหลือ = เงินสดที่คาดว่าจะได้รับ – เงินสดที่จะต้องจ่าย
องค์ประกอบของงบรายได้และค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล :
1. รายได้ (Income)
2. ค่าใช้จ่าย (Expenses)
ตัวอย่างงบรายได้และค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล
รายได้ (Income) :
รวมรายได้: 58,000 บาท
ค่าใช้จ่าย (Expenses) :
รวมค่าใช้จ่าย: 48,000 บาท
คำนวณเงินคงเหลือ : รายได้ − ค่าใช้จ่าย = 58,000 − 48,000 = 10,000 บาท
ดังนั้น นายสมชายมีเงินคงเหลือหลังหักค่าใช้จ่ายในเดือนนั้นเท่ากับ 10,000 บาท
งบประมาณเงินสด (Cash Budget) เป็นเครื่องมือในการวางแผนและควบคุมการเงินส่วนบุคคลหรือองค์กรที่ยาวไปถึงอนาคต เป็นการคำนวณเพื่อให้แน่ใจว่ามีเงินสดเพียงพอสำหรับการดำเนินชีวิตหรือการดำเนินธุรกิจในแต่ละช่วงเวลา งบประมาณเงินสดแสดงการคาดการณ์รายรับและรายจ่ายในช่วงเวลาที่กำหนด เช่น เดือน ไตรมาส หรือปี
โดยรวมแล้วจะไม่แตกต่างจาก งบรายได้และค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล (Personal Income and Expense Statement) เท่าใด จะแตกต่างที่ งบประมาณเงินสด (Cash Budget) เป็นการประมาณรายรับและรายจ่ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
เงินที่เหลือ = เงินสดที่คาดว่าจะได้รับ – เงินสดที่จะต้องจ่าย
การทำงบประมาณเงินสดเหมือนเป็นการวางแผนการเงินในอนาคตของเรา ในระดับรายเดือน รายไตรมาส และรายปี เป็นการวางแผนระยะยาว เช่น หากคำนวนแล้วมีเงินสดเหลือ อาจจะมีการวางแผนการลงทุนเพิ่มเติม ในทางกลับกันหากเงินสดไม่พอ จะได้เตรียมตัดลดค่าใช้จ่ายหรือหาทางแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งการวางแผนงบประมาณเงินสดที่ดีจะทำให้เราสามารถวางแผนอนาคตได้ในระดับพฤติกรรมของเราได้เลย
ยกตัวอย่างจากตัวอย่างงบรายได้และค่าใช้จ่ายส่วนบุคคลด้านบน สมมุติว่าหากคำนวณรายปีแล้ว เขาจะมีเงินเหลือ 10,000 บาท ซึ่งเขาอาจวางแผนนำเงินก้อนนี้ไปทำอะไรต่อได้หรือเก็บไว้เป็นเงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน ซึ่งยิ่งมีเงินเหลือเยอะเท่าใดก็จะมีความยืดหยุ่นเยอะมากเท่านั้น แต่ก็ต้องคำนึงถึงต้นทุนค่าเสียโอกาสด้วย เนื่องจากยิ่งเหลือเงินไว้เยอะเท่าใด โอกาสหรือรายได้ที่จะเสียไปจากการนำเงินก้อนนั้นไปลงทุนก็จะมากตามไปด้วย
การจัดทำงบส่วนบุคคลหรือวางแผนการเงิน ทั้งงบดุล (Personal Balance Sheet) งบรายได้และค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล (Personal Income and Expense Statement) และงบประมาณเงินสด (Cash budget) เป็นประจำจะช่วยให้สามารถติดตามและประเมินสถานะการเงินของตนเองได้ รวมทั้งช่วยในการวางแผนทางการเงินในอนาคต ซึ่งประโยชน์จะมีเยอะมาก หากสามารถจัดการชีวิตให้สอดคล้องกับการเงินที่มีได้ การทำงบดุลส่วนบุคคลมีประโยชน์หลายประการ ดังนี้
โดยสรุปการทำงบดุลส่วนบุคคลช่วยมองภาพรวมของสถานะการเงิน วางแผนการเงิน และติดตามความก้าวหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยประเมินความเสี่ยง เตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉิน และตัดสินใจทางการเงินได้อย่างมีข้อมูลครบถ้วน
การจัดทำงบการเงินส่วนบุคคลช่วยมองภาพรวมของสินทรัพย์ หนี้สิน รายได้ รายจ่าย และกระแสเงินสดทั้งหมด ทำให้สามารถติดตามความก้าวหน้าและการตัดสินใจทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยวางแผนการใช้จ่ายและการลงทุนในอนาคต ลดความเสี่ยงและจัดการหนี้สินที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินและช่วยตัดสินใจทางการเงินได้อย่างมีข้อมูลครบถ้วน ช่วยให้แผนการเงินของตนเองสอดคล้องกับการใช้ชีวิตในปัจจุบันและอนาคตได้อย่างสมดุล
คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวนและสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง และ ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
Disclaimer