ค่าแก๊ส คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ

พฤษภาคม 23, 2024

thumbnail

ค่าแก๊ส คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ

สำหรับนักลงทุนในโลกคริปโตฯ หรือนักล่า Airdrop รวมไปถึงบุคคลที่เคยทำธุรกรรมโอนผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล ก็คงจะคุ้นเคยกันดีกับความหมายของค่า Gas แต่สำหรับมือใหม่นั้น ค่า Gas คือหนึ่งสิ่งที่ควรจะศึกษาไว้ เพราะจะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ลงทุน ในบทความนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับค่าแก๊สคืออะไร

 

ค่าแก๊ส คืออะไร?


ค่าแก๊ส คืออะไร

  • ค่า Gas คือ ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์มดิจิทัลที่เรียกกันว่าบล็อกเชน ผู้ใช้งานหรือเจ้าของธุรกรรมต้องจ่ายค่าธรรมเรียม ให้แก่ผู้ประมวลผลการทำธุรกรรม สรุปคร่าวๆ

สำหรับคำถามที่ว่า ค่าแก๊สคืออะไร ค่า Gas คือ ค่า Fee ที่ผู้ใช้บริการต้องจ่าย ให้แก่ผู้ให้บริการสำหรับการทำธุรกรรมนั่นเอง

  • ราคาของค่า Gas คือ จะอิงตามกลไกของอุปสงค์และอุปทานของเครือข่ายบล็อกเชนที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น หากมีผู้ใช้งานจำนวนมากหรืออุปสงค์มีเยอะ ผู้ประมวลผลการทำธุรกรรมก็จะ เลือกทำธุรกรรมให้แก่ผู้ใช้งานที่จ่ายค่าแก๊สมากกว่าเป็นอันดับแรก สรุปโดยคร่าวๆ คือผู้ที่ทำธุรกรรมสามารถเลือกที่จะจ่ายค่าแก๊สที่แพงเพื่อที่ธุรกรรมของตนเองจะได้ดำเนินการได้ เร็วกว่าผู้อื่นที่จ่ายค่าแก๊สน้อยกว่าตนเองได้
  • และอีกหนึ่งตัวอย่างคือ Metamask Wallet หรือกระเป๋าเงินคริปโตแบบ Hot Wallet ที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกจ่ายค่าแก๊สแบบถูกแบบแพงหรือแบบกลางๆได้ แต่ความรวดเร็วในการทำธุรกรรมก็จะต่างกันเช่นกัน หากผู้ใช้งานเรียกจ่ายแบบแพงก็จะได้รับการทำธุรกรรมที่จ่ายแบบกลางๆหรือแบบถูกๆนั่นเอง แต่ความแตกต่างของแบบแพงกลางและถูกของบางบล็อกเชนก็ไม่ได้ต่างกันมาก ทำให้ผู้ใช้งานก็เลือกที่จะจ่ายแบบแพงเพื่อที่จะให้ธุรกรรมของตนเองนั่นได้รับการอนุมัติได้รวดเร็วที่สุด
  • และอาจจะมีคำถามตามว่า ค่า Gas Opensea คืออะไร เหมือนกันค่าแก๊สปกติไหม ค่า Gas opensea นั่นก็เหมือนกับค่า Gas ทั่วไป แต่จะเกิดขึ้นกับผู้ซื้อและขายสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท NFTs เท่านั้น โดยซื้อขายกันผ่านแพลตฟอร์มที่ชื่อ Opensea หรือว่าเป็นแพลตฟอร์มกลางในการซื้อและขาย NFTs นั่นเอง ตรงที่จะมองเห็นความแตกต่างระหว่างค่า Gas และ ค่า Gas Opensea คือ ค่าแก๊สนั้นผู้ที่ทำธุรกรรมจะเป็นผู้ที่เสียค่าแก๊สฝ่ายเดียว แต่ ค่า Gas Opensea ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย NFT จะต้องเสียค่าแก๊สให้กับแพลตฟอร์มทั้งคู่นั่นเอง

 

ค่าแก๊สคำนวณอย่างไร


ค่าแก๊สคำนวณอย่างไร

เมื่อพูดถึงค่า Gas คืออะไร คำนวณยังไง คงจะมีหลายคนไม่น้อยเลยทีเดียวที่ไม่เข้าใจว่าทำไมค่าแก๊สบางที่ถึงแพง และบางที่ถึงถูก ยกตัวอย่างเช่น ค่า Gas ของ ERC-20 หรือ Ethereum chain ซึ่งนับว่ามีค่าแก๊สที่สูงมาก เมื่อนำไปเทียบกับ Layer 2 chain อย่างเช่น Arbitrum chain

ก่อนที่จะไปคำนวณค่าแก๊สแบบลึกซึ้ง และนี่คือตัวอย่างที่ทำให้เข้าใจง่ายขึ้น เช่น การเดินทางโดยใช้รถไฟฟ้า X สถานี ต้องใช้เงินในการจ่าย Y บาท เช่นเดียวกับกรณีของการโอนเงิน ถ้าเราต้องการที่จะโอนเงินจำนวณ X บาทไปที่บัญชีของเพื่อน เราต้องจ่ายเงินค่าธรรมเนียมเป็นเงิน Y บาทและสรุปในกรณีของค่าแก๊สได้ว่า X มูลค่าของธุรกรรมที่ผู้ใช้งานจะทำ และ Y คือค่าดำเนินการโดยจะจ่ายให้กับผู้ประมวลผลการทำธุรกรรม ค่าดำเนินการนี่คือค่าที่จะทำ ให้กระบวนการนั้นเกิดขึ้น

การคำนวณค่า Gas คือการที่ชี้ให้เห็นถึงกระบวนการคำนวณค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้จากการบริโภคหรือทำธุรกรรมบนบล็อกเชนเป็นการชำระค่าธรรมเนียมที่ผู้ใช้ต้องจ่ายชดเชยให้กับพลังงานที่ใช้ประมวลผล ในการทำธุรกรรมบนบล็อกเชน เมื่อบล็อกเชนใช้ปริมาณพลังงานดังกล่าวจนถึงขีดจำกัดสูงสุด แล้วนั้น จะเรียกว่า Gas Limit พูดง่าย ๆ ก็คือ ตัวเลขจำกัดพลังงานที่ใช้ในการทำ ธุรกรรมแต่ละครั้งนั่นเอง

แต่วิธีการคำนวณค่าแก๊ส หรือ Gas fee ของแต่ละเครือข่ายก็จะแตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างในเครือข่ายของ Ethereum วิธีคำนวณค่าแก๊สโดยอิงจาก EIP-1559 จะมีสูตรคำนวณค่าแก๊สคือ 

((Base fee + Priority fee)x Units of Gas used) หรือ 

((ค่าธรรมเนียมพื้นฐาน + ค่าธรรมเนียมเพื่อจัดลำดับความสำคัญ) x หน่วยของแก๊สที่ใช้)

  • Base fee หรือ ค่าธรรมเนียมพื้นฐานที่ถูกกำหนดโดยความต้องการของเครือข่าย โดยจะอ้างอิงจาก “ขนาดบล็อก” ของ “บล็อกก่อนหน้า” เปรียบเทียบกับ “ขนาดบล็อกเป้าหมาย” (”ขนาดของบล็อก” นั้นหมายถึง ปริมาณแก๊สทั้งหมดที่ใช้สำหรับการทำธุรกรรมทั้งหมดในบล็อกดังกล่าว) หาก “ขนาดบล็อก” ของ “บล็อกก่อนหน้า” มีขนาดใหญ่กว่า “ขนาดบล็อกเป้าหมาย” ค่าธรรมเนียมพื้นฐานของบล็อกถัดไปก็จะเพิ่มขึ้นถึง 12.5%
  • Priority fee หรือ ค่าธรรมเนียมเพื่อจัดลำดับความสำคัญ หรือก็คือ ค่าธรรมเนียมเพื่อขอลัดคิว ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างแรงจูงใจให้กับเหล่า Validators หรือ ผู้ประมวลผลการทำธุรกรรม เร่งการตรวจสอบธุรกรรมของคุณให้รวดเร็วยิ่งขึ้น
  • Units of Gas used หรือ หน่วยของแก๊สที่ใช้งาน ตัวอย่างเช่น หากการดำเนินงานใช้แก๊ส 10 หน่วย และ ปัจจุบัน ค่าแก๊สอยู่ที่ 20 Gwei ค่าแก๊ส หรือ Gas fee ของคุณก็จะเท่ากับ 200 Gwei นั่นเอง

 

ทำไม ‘ค่าธรรมเนียมธุรกรรม’ ของแต่ละเครือข่ายจึงแตกต่างกัน?


ค่าธรรมเนียมธุรกรรม


  • หนึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้แต่ละเครือข่ายมีความแตกต่างของค่า Gas คือ ความแออัดของเครือข่าย สำหรับคนที่คุ้นเคยในโลกคริปโตมาระยะหนึ่งก็จะรู้ว่าค่าแก๊สนั้นมีทั้งแบบถูกและแพง ขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้งานว่าอยากที่จะใช้เครือข่ายไหน
  • ความแออัดของเครือข่ายเกิดจากปริมาณของธุรกรรมที่รอตรวจสอบมีปริมาณที่มาก

สำหรับเครือข่ายที่ตรวจสอบธุรกรรมได้ช้า ก็มีโอกาสที่เครือข่ายจะเกิดความแออัด ได้มากกว่าเครือข่ายที่สามารถตรวจสอบธุรกรรมได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าเครือข่ายที่สามารถตรวจสอบธุรกรรมได้อย่างรวดเร็วแต่มีผู้ใช้งานเครือข่ายเยอะก็อาจจะเป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดความแออัดได้เช่นเดียวกันอย่างไรก็ตาม เครือข่ายจะตรวจสอบข้อมูลธุรกรรมได้ช้าหรือเร็วนั้น ก็มาจากปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น ความนิยมของเครือข่าย, เหตุการณ์สำคัญใดๆ ที่ทำให้คนเข้ามาทำธุรกรรมบนเครือข่ายมากยิ่งขึ้น, การช่วยเหลือของเครือข่าย Layer 2, หรือ กลไกฉันทามติที่เครือข่ายนั้นๆ เลือกใช้งาน เป็นต้น

  • กลไกฉันทามติของเครือข่ายต่างๆ นั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการกำหนดว่า ค่าแก๊ส หรือ Gas fee จะถูกหรือแพง ตัวอย่างเช่น บล็อกเชน Solana ซึ่งใช้กลไกฉันทามติ Proof of History ที่เคลมว่าสามารถรองรับการทำธุรกรรมได้สูงสุดถึง 50,000 TPS (Transactions Per Second หรือ จำนวนธุรกรรมที่สามารถจัดการได้ภายใน 1 วินาที) ก็จะมีค่าแก๊สที่ถูกมากกว่าบล็อกเชน Ethereum ที่มี TPS สูงสุดเพียง 30 TPS เท่านั้น

ในกรณีของค่าแก๊สบนเครือข่าย Ethereum มีสาเหตุหลายประการที่ทำให้ค่าแก๊ส Ethereum สูงในช่วงเวลาหนึ่ง 

  • เหตุผลหนึ่งคือความนิยมที่เพิ่มขึ้นของแอปพลิเคชันการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) ซึ่งอาศัย Smart Contract ของ Ethereum และกำหนดให้ผู้ใช้จ่ายค่าธรรมเนียมในการประมวลผลธุรกรรม
  • อีกเหตุผลหนึ่งก็คือความต้องการของ NFT ที่ใช้เป็นค่าแก๊ส Ethereum นั้นมีสูง ซึ่งส่งผลให้ค่าใช้จ่าย หรือค่าแก๊สในเครือข่าย Ethereum สูงขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมที่สูงบน Uniswap ผู้ใช้งานสามารถซื้อขายโดยใช้ Layer 2 ที่เรียกว่า Optimism ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถประมวลผลธุรกรรมนอกเครือข่าย Uniswap และชำระค่า Gas ที่ต่ำกว่า ผู้ใช้งานยังสามารถเลือกที่จะซื้อขายในช่วงเวลาที่มีความต้องการทำธุรกรรมเพื่อที่จะลดค่าแก๊สที่มีปัญหาในเรื่องของราคาแพงได้อีกด้วย

และในกรณีของ Ethereum และที่มีทางแก้สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องเจอกับสถานการณ์ที่ค่าแก๊สนั้นแพงมากนั่นคือแผนที่จะพัฒนาเป็น Ethereum 2.0 เนื่องด้วยตัวปัญหาของความแออัดของเครือข่ายที่มีผู้คนไหลเข้ามาใช้จำนวณมาก เป็นเหตุให้เครือข่ายมีความล่าช้าและยังมีค่าแก๊สที่แพงสำหรับผู้ใช้งานอีกด้วย และการพัฒนามาเป็น Ethereum 2.0 ส่งผลให้เวลาตรวจสอบและยืนยันธุรกรรมสามารถทำได้รวดเร็วขึ้นถึง 1,000 ธุรกรรมต่อหนึ่งวินาที เทียบกับเวลาเดิมที่ 15 ธุรกรรมต่อหนึ่งวินาที ยังทำให้เครือข่าย Ethereum 2.0 รองรับจำนวนผู้ใช้งานได้มากขึ้นกว่าเดิม และผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีคอมพิวเตอร์แรงๆ และเป็นการสนับสนุนให้ Ethereum 2.0 เป็น Decentralized Platform หรือ แพลตฟอร์มกระจายศูนย์ตามเป้าหมายที่แท้จริงของ Ethereum อีกด้วย

 

สรุป

เรื่องนี้คงจะคลายความสงสัยของนักลงทุนหน้าใหม่ที่มีคำถามว่า ค่า Gas คืออะไร โดยถ้าให้สรุปแบบสั้นๆ ค่า Gas คือ ค่าที่ต้องจ่ายให้การทำธุรกรรมนั่นเอง ถ้าไม่จ่ายค่าแก๊สธุรกรรมก็ไม่สามารถที่จะทำได้ ค่า Gas ยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำหรับ เครือข่ายต่างๆให้สามารถทำงานต่อได้อย่างราบรื่น โดยค่าแก๊สนั่นจะเป็นรางวัลให้ แก่ผู้ตรวจสอบหรือผู้ประมวลผลการธุรกรรมเพื่อรักษาความปลอดภัยให้แก่เครือข่ายนั้นๆ โดยปัจจุบันเครือข่ายมากมายที่พยายามที่จะทำค่าแก๊สให้ต่ำลงและมีความรวดเร็ว ในการธุรกรรมมากขึ้นเพื่อที่จะเป็นจุดสนใจแก่นักลงทุนที่ต้องการทำธุรกรรม

 

หมายเหตุ

คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวนและสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง และ ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

Merkle Capital คือผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกในประเทศไทย ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานก.ล.ต. บริษัทให้การดูแลและบริหารเงินลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลแก่ลูกค้าด้วยกลยุทธ์ที่หลากหลายโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนและการบริหารจัดการ