มิถุนายน 26, 2024
ในโลกของคริปโตเคอร์เรนซีและบล็อกเชน “Vampire Attack” คือกลยุทธ์ที่ใช้โดยโปรเจ็คต์หนึ่งเพื่อดึงดูดสภาพคล่องและผู้ใช้จากโปรเจ็คต์อื่น โดยเปรียบเสมือนการเปรียบเทียบพฤติกรรมของแวมไพร์ที่ไปดูดเลือดของมนุษย์ โดยเปรียบเลือดที่ถูกดูดเป็น “สภาพคล่อง” โดยทั่วไป วิธีนี้เราจะเห็นว่ามันมักเกิดขึ้นในตลาด DeFi (Decentralized Finance) ซึ่งเป็นการแข่งขันเพื่อครอบครองทรัพยากรของผู้ใช้และสภาพคล่องในตลาดนั้น ๆ ทั้งนี้มักจะทำให้เกิดการแย่งชิงสภาพคล่องและผู้ใช้ที่รุนแรงขึ้นในหมู่แพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่มีคุณลักษณะและฟังก์ชันการทำงานที่คล้ายคลึงกันเพราะในโลกของ Blockchain นั้นโค้ดต่าง ๆ เป็นแบบ “Opensource” ทำให้สามารถเลียนแบบกันได้
เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นบทความนี้ขอเสนอ 3 ข้อว่า Vampire Attack เกิดมาเพื่ออะไร
1. เพื่อให้เกิดการแย่งชิงสภาพคล่อง : โดยมีผลให้สภาพคล่องจาก แพลตฟอร์มหนึ่งถูกโอนไปยังอีกแพลตฟอร์มหนึ่ง ซึ่งส่งผลให้แพลตฟอร์มแรกตัวแรกอาจเสียสถานะและความน่าเชื่อถือในตลาด
2. เพื่อให้เกิดการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน : Vampire Attack ทำให้ตลาด DeFi มีการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น เนื่องจากแพลตฟอร์มต่าง ๆ พยายามนำเสนอข้อเสนอที่ดีกว่าเพื่อรักษาและดึงดูดผู้ใช้ในด้านของทั้ง UX/UI และ Marketing
3. เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในนวัตกรรมและโปรโมชั่น : เพื่อต่อสู้กับการโจมตีแบบ Vampire แพลตฟอร์มอาจต้องนำเสนอโซลูชันที่นวัตกรรมมากขึ้นหรือปรับปรุงเงื่อนไขให้กับผู้ใช้เพื่อรักษาการแข่งขันเพื่อไม่ให้เสียอำนาจการครองตลาดไป
กล่าวคือ Vampire Attack คริปโตฯ ได้แสดงถึงแง่มุมของการแข่งขันที่สูงมาก โดยเฉพาะใน DeFi ซึ่งแพลตฟอร์มต่าง ๆ ต้องอาศัยกลยุทธ์ทางการตลาดและนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดและรักษาผู้ใช้นั่นเอง
การโจมตีแบบ Vampire Attack ในตลาด DeFi (Decentralized Finance) นั้นเป็นกระบวนการที่แพลตฟอร์มหนึ่งพยายามดึงดูดสภาพคล่องและผู้ใช้จากแพลตฟอร์มอื่น ๆ โดยการนำเสนอข้อเสนอที่ดีกว่า เช่น ผลตอบแทนที่สูงกว่าหรือคุณสมบัติที่น่าสนใจกว่า เรามาดูขั้นตอนทั่วไปของการดำเนินการโจมตีแบบ Vampire Attack ในโลกคริปโตฯ กัน
ขั้นตอนที่ 1 : การวิเคราะห์และเลือกเป้าหมาย
ขั้นตอนที่ 2 : การออกแบบและเปิดตัวข้อเสนอ
ขั้นตอนที่ 3 : การดึงดูดและรักษาสภาพคล่อง
ขั้นตอนที่ 4 : การปรับปรุงและตอบสนองต่อการแข่งขัน
ตัวอย่าง ของ Vampire Attack ที่เกิดขึ้นจริงในโลกคริปโตฯ
ตัวอย่างที่ 1 ที่โดดเด่นของ Vampire Attack ในโลกของ DeFi (Decentralized Finance) คือกรณีของ SushiSwap ที่โจมตี Uniswap ซึ่งเป็นสองแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ (Decentralized exchange หรือ DEX) ในปี 2020 ซึ่งการโจมตีนี้แสดงให้เห็นถึงการใช้กลยุทธ์เพื่อดึงดูดสภาพคล่องและผู้ใช้จากแพลตฟอร์มที่มีอยู่มาสู่แพลตฟอร์มใหม่
ตัวอย่างของ SushiSwap โจมตี Uniswap
1. จุดเริ่มต้น
2. กลยุทธ์ของ SushiSwap
3. ผลลัพธ์ของการโจมตีครั้งนี้
ตัวอย่างที่ 2 ของการโจมตีแบบ Vampire Attack ในตลาด DeFi เกิดขึ้นระหว่าง Curve Finance และ Swerve Finance ซึ่งเป็นกรณีที่ Swerve พยายามดึงดูดสภาพคล่องจาก Curve
ตัวอย่างของ Swerve Finance โจมตี Curve Finance
1. จุดเริ่มต้น
2. กลยุทธ์ของ Swerve Finance
3. ผลลัพธ์ของการโจมตี
จากตัวอย่างทั้ง 2 ตัวอย่าง จะเห็นได้ว่าการใช้ Vampire Attack ของ Swerve Finance และ Sushiswap ที่พยายามใช้ Vampire Attack เพื่อดึงดูดสภาพคล่องจาก Curve หรือ Uniswap นั้นส่งผลมาก ๆ ในช่วงเวลาระยะสั้น ซึ่งมากพอที่จะทำให้ผู้ใช้งานหันเหออกไปได้ทันที แต่สุดท้ายแล้วเราก็จะพบว่าการแข่งขันในตลาด DeFi นั้นเข้มข้นและต้องการมากกว่าแค่ข้อเสนอที่ดึงดูดใจในระยะสั้น เพื่อรักษาสภาพคล่องและผู้ใช้ในระยะยาว ซึ่งการแข่งขันประเภทนี้ ถ้ามองในข้อดีก็มีแต่ข้อดีให้กับผู้ใช้งานที่สามารถมีช้อยในการเลือกใช้แพลตฟอร์ม หรือ เป็นสิ่งที่กระตุ้นให้กับแพลตฟอร์มที่เป็นเจ้าตลาดว่า ถ้าหากไม่มีการปรับปรุงหรือพัฒนา เม็ดเงินก็อาจจะไหลออกจากแพลตฟอร์มได้ ซึ่งการแข่งขันชนิดนี้เกิดขึ้นตลอดเวลา ไม่จำกัดประเทศ หรือ สัญชาติใด เพราะโลกคริปโตฯ นั้นไร้พรมแดน
AMMs (Automated Market Makers) และ DEXs (Decentralized Exchanges) เป็นปัจจัยสำคัญในตลาด DeFi (Decentralized Finance) ที่ส่งเสริมให้เกิดการโจมตีแบบ Vampire Attack ได้ผ่านหลายวิธี โดยพื้นฐานของการโจมตีประเภทนี้คือการดึงดูดสภาพคล่องและผู้ใช้จากแพลตฟอร์มหนึ่งไปยังอีกแพลตฟอร์มหนึ่ง มี 4 เหตุผลซึ่งเป็นสิ่งที่ AMMs และ DEXs มีบทบาทสำคัญที่ทำให้เกิด Vampire Attack ได้ง่าย
1. เหตุผลด้านความง่ายในการเข้าถึงและโอนย้ายสภาพคล่อง
AMMs และ DEXs เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถซื้อขายและให้สภาพคล่องได้อย่างง่ายดาย ผ่านกระเป๋าเงินที่เชื่อมต่อกับบล็อกเชน เช่น Ethereum ความง่ายในการเปลี่ยนจากแพลตฟอร์มหนึ่งไปยังอีกแพลตฟอร์มหนึ่งโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการ KYC หรือมีการจำกัดด้านอื่น ๆ เป็นประตูที่เปิดกว้างสำหรับการดึงดูดสภาพคล่องได้ง่ายที่สุด
2. เหตุผลด้านโปรโมชั่นและผลตอบแทนสูง
ในการทำ Vampire Attack เพื่อดึงดูดสภาพคล่อง หลาย AMMs และ DEXs ใหม่ ๆ มักจะนำเสนอผลตอบแทนที่สูง (เช่น ดอกเบี้ยสูงหรือโทเค็นเพิ่มเติม) ให้กับผู้ที่มีส่วนร่วมใน liquidity Pools ของพวกเขา ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมใช้ในการดึงดูดผู้ใช้จากแพลตฟอร์มอื่น ๆ
3. เหตุผลด้านโค้ดที่สามารถเปิดเผยและสามารถทำซ้ำได้
AMMs และ DEXs หลายแพลตฟอร์มมีโค้ดที่เป็น Opensource ทำให้ง่ายต่อการสร้าง “ฟอร์ก” หรือคัดลอกโดยโปรเจ็คต์อื่น ๆ ได้ ซึ่งอาจนำเสนอคุณสมบัติที่ดีกว่าหรือแตกต่างออกไปเล็กน้อยเพื่อดึงดูดผู้ใช้งานได้
4. การปรับเปลี่ยนและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง
แพลตฟอร์มประเภท AMMs และ DEXs มักจะเห็นว่ามีกระบวนการปรับปรุงและนำเสนอนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงดูดและรักษาผู้ใช้ในระยะยาว การปรับปรุงเหล่านี้สามารถเป็นการเพิ่มคุณสมบัติใหม่ ๆ ที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้ ซึ่งเป็นโอกาสในการโจมตีแบบ Vampire หากโปรเจ็คต์อื่นไม่สามารถตอบสนองได้ตามความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เจ้าตลาดของแพลตฟอร์มนั้นไม่สามารถอยู่นิ่งไม่พัฒนาระบบหรือแพลตฟอร์มได้ถ้าหากอยากจะเป็นเจ้าตลอดต่อไปในระยะยาว
ปรากฏการณ์เหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าแพลตฟอร์มประเภท AMMs และ DEXs ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการส่งเสริมนวัตกรรมและการเติบโตในตลาด DeFi เท่านั้น แต่ยังสนับสนุนกระบวนการแข่งขันที่รุนแรงผ่านการโจมตีแบบ Vampire Attack อีกด้วย เราอาจจะมองว่าการโจมตีเป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่จริงๆแล้วการโจมตีแต่ละครั้งมักจะสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ เสมอบนโลก Defi หรือโลกคริปโตฯ ทำให้ตลาดนี้มีความน่าสนใจและการแข่งขันที่สูงมาก ๆ เพราะสามารถดึงดูดเม็ดเงินได้ทั่วโลก ไม่มีพรมแดนกั้น และไม่มีเวลาการเปิดปิดทำการ
การป้องกัน Vampire Attack ในตลาด DeFi (Decentralized Finance) เป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อรักษาสภาพคล่องและผู้ใช้ในระยะยาวสำหรับแพลตฟอร์มต่าง ๆ มีอยู่ 4 กลยุทธ์หลัก ๆ ที่สามารถใช้เพื่อป้องกันหรือลดผลกระทบจาก Vampire Attack ในโลกคริปโตฯ ได้อย่างยั่งยืน
1. การเสริมสร้างความภักดีและความผูกพันของชุมชน
2. ขยันพัฒนานวัตกรรมและการปรับปรุงการบริการ
3. ทำโปรโมชั่นและโปรแกรมรางวัลที่ใหม่และอินเทรนด์อย่างสม่ำเสมอ
4. พัฒนานโยบายการรักษาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย
จะเห็นได้ว่าการป้องกัน Vampire Attack ในตลาด DeFi ไม่ได้เป็นเพียงการต่อสู้เพื่อรักษาสภาพคล่องและผู้ใช้เท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการสร้างความน่าเชื่อถือและชื่อเสียงในระยะยาวที่จะช่วยให้แพลตฟอร์มสามารถดึงดูดและรักษาผู้ใช้ได้อย่างยั่งยืน
คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวนและสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง และ ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
Disclaimer