VI คือ อะไร ?

มิถุนายน 26, 2024

thumbnail

หากหลาย ๆ คนเริ่มศึกษาเกี่ยวกับการลงทุนตัวอย่างเช่น หุ้น อาจจะเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับ Value Investor หรือนักลงทุนดัง ๆ อย่าง ดร.นิเวศน์ หรือ Warren Buffett พูดถึงเกี่ยวกับ Value Investor แล้วสิ่งนี้มันคืออะไรกัน ? เราจะมาหาคำตอบกันในบทความนี้

 

การลงทุนแบบ VI คืออะไร

 

การลงทุนแบบ VI คืออะไร ?

 

Value Investor

 

Value Investor คือ นักลงทุนที่ใช้กลยุทธ์การลงทุนโดยการค้นหาหลักทรัพย์ที่มีมูลค่า (Value) มากกว่าราคาที่ตลาดกำหนดให้ (เป็นการมองหาหุ้นที่ถูกกว่าความเป็นจริง) โดยพวกเขามักจะกำหนดค่าของหลักทรัพย์โดยการวิเคราะห์เฉพาะกิจการและข้อมูลทางการเงินของบริษัท เพื่อหาหลักฐานที่ชัดเจนแสดงถึงความเป็นมูลค่าของหลักทรัพย์นั้น ๆโดยอาจจะให้ข้อมูลเชิงคุณภาพและข้อมูลเชิงปริมาณเข้ามาประกอบการตัดสินใจ

 

  • นักลงทุนแบบ Value Investor มักจะใช้วิเคราะห์ทางพื้นฐาน (Fundamental Analysis) เพื่อหาหลักฐานที่ชัดเจนในการตัดสินใจลงทุน พวกเขาอาจพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น ราคา-กำไร (P/E Ratio) อัตราเงินเฟ้อ สภาพการเงินของบริษัท และโครงสร้างอุตสาหกรรม เพื่อหาหลักฐานที่ชัดเจนในการลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าและมีโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
  •  

  • คุณลักษณะที่สำคัญของ Value Investor คือความอดทนและความกล้าหาญในการรอคอยซึ่งพวกเขาอาจเสียเวลานานในการรอให้ราคาหลักทรัพย์ลงมาถึงระดับที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นมูลค่าแท้ ๆ และไม่เข้าร่วมกับการตลาดที่กำลังเป็นที่นิยมหรือมีความผันผวนในราคาไปในทิศทางตรงกันข้ามกับการวิเคราะห์ของพวกเขา แทนการรอคอยในการลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าและมีโอกาสในการเติบโตในอนาคต

 

Value Investor คือใคร มีลักษณะอย่างไร ?

Value Investing คือ นักลงทุนที่มุ่งหาหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงกว่าราคาที่ตลาดกำหนดให้ โดยพวกเขาใช้กลยุทธ์การลงทุนโดยการวิเคราะห์ธุรกิจและความเครียดการเงินของบริษัทเพื่อหาหลักฐานที่ชัดเจนในการลงทุน ซึ่งอาจเป็นหุ้น, พันธบัตร, หรือสินทรัพย์อื่น ๆ ที่มีมูลค่าในตลาดต่ำกว่ามูลค่าจริงของมัน ลักษณะของ Value Investor อาจมีดังนี้ 

 

  • การวิเคราะห์ธุรกิจ Value Investor มักจะใช้วิเคราะห์ธุรกิจเพื่อหาบริษัทที่มีศักยภาพทางการเงินและการเติบโต พวกเขาจะตรวจสอบโอกาสและความเสี่ยงของธุรกิจเพื่อหาบริษัทที่มีความมูลค่าแท้และมีโอกาสในการเติบโตในอนาคต
  •  

  • การวิเคราะห์การเงิน นักลงทุนแบบค่าคุ้มค่าซื้อ (Value Investor) มักจะวิเคราะห์ข้อมูลการเงินของบริษัทเพื่อหาบริษัทที่มีการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ พวกเขาจะสำรวจรายงานการเงิน อัตราผลตอบแทนต่อการลงทุน และอื่น ๆ เพื่อหาบริษัทที่มีมูลค่าและมีโอกาสในการเติบโตในอนาคต
  •  

  • ความอดทน Value Investor มักจะมีความอดทนและความสามารถในการรอคอย พวกเขาอาจรอให้ราคาหลักทรัพย์ลงมาถึงระดับที่พวกเขาเชื่อว่ามีมูลค่าแท้ ๆ และไม่เข้าร่วมกับกระแสการลงทุนที่เป็นที่นิยม
  •  

  • การลงทุนในระยะยาว Value Investor มักจะมองหาหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าและมีโอกาสในการเติบโตในระยะยาว พวกเขามักจะไม่สนใจความผันผวนในราคาในระยะสั้น ๆ และมุ่งหาผลตอบแทนในระยะยาว
  •  

  • การปรับแต่ง Value Investor อาจปรับแต่งกลยุทธ์การลงทุนของพวกเขาตามสถานการณ์ตลาดและการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจ พวกเขาอาจแสวงหาหลักทรัพย์ใหม่ที่มีมูลค่าเมื่อเงินลงทุนในหลักทรัพย์ปัจจุบันไม่ได้ตอบโจทย์ในระยะยาว

 

การประเมินมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น ทำได้อย่างไร ?

Intrinsic Valuation หมายถึงการประเมินหามูลค่าของหุ้น โดยใช้ลักษณะของธุรกิจเป็นพื้นฐานในการประเมิน ซึ่งจะมีการวิเคราะห์อยู่ 2 รูปแบบหลักคือ

 

Intrinsic Valuation

 

  • การวิเคราะห์เชิงคุณภาพ ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ลักษณะของธุรกิจในเชิงนามธรรม ที่ไม่อาจวัดออกมาเป็นค่าได้ เช่น ภาพลักษณ์องค์กร ความน่าเชื่อถือขององค์กร ไปจนถึง ความสามารถของผู้บริหาร และโครงสร้างผู้ถือหุ้น เป็นต้น
  •  

  • การวิเคราะห์เชิงปริมาณ ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ลักษณะของธุรกิจในเชิงรูปธรรม มีตัวเลขและค่าทางสถิติให้เห็นชัดเจน เช่น รายงานการเงินของบริษัท รายการผลกำไร สถิติการจ่ายปันผล งบแสดงฐานะทางการเงิน และอื่น ๆ

 

โดยมีวิธีการที่นิยมใช้มากที่สุดดังนี้

  • วิเคราะห์การเงิน (Financial Analysis) : การใช้ข้อมูลการเงินของบริษัทเพื่อประเมินมูลค่าของหุ้น นักลงทุนสามารถใช้วิธีการเช่น อัตราผลตอบแทนต่อการลงทุน (Return on Investment) อัตราการเติบโตของกำไร (Earnings Growth Rate) หรือการปรับค่ากำไร (Earnings Adjustments) เพื่อประเมินมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น
  •  

  • วิเคราะห์ตลาด (Market Analysis) : การประเมินมูลค่าของหุ้นโดยการวิเคราะห์สภาพตลาด นักลงทุนสามารถศึกษาและประเมินความต้องการและข้อเสียของหุ้นในตลาดเชิงมูลค่า (Value Market) และหุ้นในตลาดเปรียบเทียบ (Comparative Market) เพื่อช่วยในการประเมินมูลค่าที่แท้จริง
  •  

  • วิเคราะห์กำไรและการเงิน (Profit and Cash Flow Analysis) : การวิเคราะห์รายได้และกระแสเงินสดของบริษัทเพื่อประเมินค่าของหุ้น โดยใช้วิธีการเช่น การคำนวณมูลค่าทุนสุทธิ (Net Asset Value) การประเมินการสร้างรายได้ต่อหุ้น (Earnings per Share) หรือการวิเคราะห์โดยอิงต่อกระแสเงินสด (Discounted Cash Flow Analysis)
  •  

  • การวิเคราะห์ค่าตามหลักการทางเศรษฐศาสตร์ (Economic Principles Analysis) : การใช้หลักการทางเศรษฐศาสตร์เพื่อประเมินมูลค่าของหุ้น โดยการพิจารณาปัจจัยทางเศรษฐศาสตร์ที่มีผลต่อค่าของหุ้น เช่น โอกาสและความเสี่ยงในการลงทุน ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับตลาด และเงื่อนไขทางเศรษฐกิจทั่วไป

 

เทคนิควิเคราะห์ก่อนเลือกลงทุนหุ้นสาย VI

หลายคนอาจยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเลือกลงทุนในหุ้นสาย Value Investor โดยเฉพาะในเรื่องการลงทุนว่าควรเลือกหุ้นตัวใดหรืออุตสาหกรรมไหน เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้หุ้นคุณภาพที่เหมาะกับการลงทุนในระยะยาว โดยเหล่านักลงทุนอาจเลือกใช้เทคนิคในการวิเคราะห์หุ้นแบบ Top Down Analysis หรือ Bottom Up Analysis ก็ได้

     

  • การวิเคราะห์หุ้นแบบ Top Down Analysis หมายถึงการวิเคราะห์โดยมองภาพใหญ่ที่สุด แล้วค่อย ๆ ย่อยลงมา โดยให้เริ่มจากการวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจก่อน แล้วจึงวิเคราะห์ภาพรวมของอุตสาหกรรมต่าง ๆ จากนั้นจึงวิเคราะห์ถึงหุ้นตัวที่ตนเองสนใจ

 

เช่น ในช่วงสถานการณ์โลกระบาด ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจตกต่ำ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนั้นไม่เฟื่องฟูนัก แต่ในทางกลับกันอุตสาหกรรมที่น่าสนใจคืออุตสาหกรรมการแพทย์ ที่กลับเติบโตมากขึ้น นักลงทุนจึงควรเลือกลงทุนในหุ้นของอุตสาหกรรมการแพทย์อย่าง โรงพยาบาล บริษัทยา บริษัทประกัน และอื่น ๆ เป็นต้น

     

  • การวิเคราะห์หุ้นแบบ Bottom Up Analysis หมายถึงการวิเคราะห์จากภาพเล็กไปใหญ่ คือเริ่มจากการวิเคราะห์หุ้นที่สนใจว่ามีผลประกอบการอย่างไร มีการปันผลดีไหม แล้วจึงวิเคราะห์โอกาส รวมถึงแนวโน้มของอุตสาหกรรมนั้น ๆ จากนั้นจึงค่อยวิเคราะห์ภาพรวมเศรษฐกิจเป็นอันดับสุดท้าย

 

เช่น นักลงทุนสนใจหุ้นบริษัท IT ชื่อดังแห่งหนึ่ง ก็อาจเริ่มวิเคราะห์ถึงผลการดำเนินการของบริษัทนั้น ๆ แล้วจึงวิเคราะห์ถึงแนวโน้มของอุตสาหกรรม IT ว่าน่าลงทุนไหม กำลังเติบโตขนาดไหน หรือกำลังหยุดนิ่ง แล้วจึงมองภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศว่ากำลังไปในทิศทางใด

เราจะเห็นได้ว่าสายการลงทุนนั้นมีหลากหลายและหลายวิธีมากหนึ่งในนั้นคือ Value Investor ที่มองหาหุ้นที่ถูกในมุมมองที่อาจจะมองว่ามันจะโตเติบได้มากกว่านี้นักลงทุนแนวนี้จึงเป็นนักลงทุนที่ใจเย็นและมองหาโอกาสในการลงทุนอยู่เสมอ

 

หมายเหตุ

 

คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวนและสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง และ ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

Merkle Capital คือผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกในประเทศไทย ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานก.ล.ต. บริษัทให้การดูแลและบริหารเงินลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลแก่ลูกค้าด้วยกลยุทธ์ที่หลากหลายโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนและการบริหารจัดการ